ราคาทองคำร่วง หลังดอลลาร์แข็ง มีความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐ-ยุโรป
ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากแรงกดดันของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และบรรยากาศการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรปที่เริ่มมีความหวังมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนหันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นแทน
ราคาทองคำสปอตล่าสุดลดลง 0.7% มาอยู่ที่ 3,343.0 เหรียญต่อออนซ์ (ราว 110,319 บาท/ออนซ์) ส่วนทองฟิวเจอร์สสหรัฐลดลง 0.9% สู่ระดับ 3,344.50 เหรียญ โดยถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับตัวสูงขึ้น
ริคาร์โด อีวานเจลิสตา นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัท ActivTrades ชี้ว่า “ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงที่ฟื้นตัวกลับมา จากความคืบหน้าในการเจรจาภาษี และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด กำลังเป็นปัจจัยลบต่อราคาทอง” พร้อมเสริมว่าตลาดยังไม่เชื่อว่าเฟดจะรีบลดดอกเบี้ยในระยะสั้น
คณะกรรมาธิการยุโรปแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ใกล้จะสำเร็จ ขณะที่กลุ่มประเทศสมาชิกอียูมีมติผ่านมาตรการภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 109,000 ล้านเหรียญ
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดระบุว่า ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายใหม่ในสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน สะท้อนภาพตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางเยือนธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อกดดันประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ให้เร่งปรับลดดอกเบี้ย ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดอาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยครั้งต่อไปในเดือนกันยายน
ทั้งนี้ แม้ทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในช่วงภาวะไม่แน่นอนและดอกเบี้ยต่ำ แต่ JP Morgan มองว่าการฟื้นตัวของราคาทองคำจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีแรงซื้อจากกองทุน ETF กลับเข้ามาอีกครั้ง และเฟดลดดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาด โดยมีเป้าราคาทองสิ้นปีไว้ที่ 3,675 เหรียญต่อออนซ์