เจ้าของนํ้าตาตก บ้านแตกร้าวพัง วงกบหลุด-ผนังร้าว แถมพบใช้ปูนร่วนเติมงานแบบขอไปที
กลายเป็นประเด็นร้อนในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์สุดเจ็บปวดจากการซื้อบ้านในโครงการชื่อดัง ที่ต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่หลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากโครงสร้างภายในบ้านกลับเผยให้เห็นถึงการใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานอย่าง ปูนร่วนและพรุน
เจ้าของบ้านโพสต์ระบุว่า มีใครจำเคสบ้านเราที่ร้องเรียนกับบริษัทไปได้มั้ย วันนี้เปิดประตูห้องนี่เป็นห้องที่ใช้งานน้อยที่สุดเพราะเป็นห้องเสื้อผ้าอย่างเดียว วงกบได้จากไปอย่างเรียบร้อย ทนายของเราแจ้งว่าสามารถฟ้องร้องได้เลย แม้จะหมดประกันไปแล้ว เพราะผิดสเปกแบบเห็นได้ชัด การใช้ปูนที่ร่วน และพรุนมาเติมเต็ม คืองานที่ไร้ทักษะและประหยัดต้นทุน
เธอยังย้อนเล่าถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ว่า บ้านหลังนี้ถูกซื้อก่อนเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อ 13 ปีก่อน โดยในขณะนั้นโครงการเร่งให้ย้ายเข้าอยู่โดยยังไม่มีการเซ็นรับบ้านหรือตรวจสอบสภาพบ้านอย่างถูกต้อง ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา เราไม่ได้ตรวจรับบ้านด้วยตัวเอง เพราะโครงการรีบให้ย้ายเข้าอยู่ตอนเกิดน้ำท่วม และไม่มีเอกสารอะไรที่เราเคยเซ็นรับเลย
ภาพจาก กลุ่มเฟซบุ๊ก : พวกเราคือผู้บริโภค
เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เธอกลับจากที่ทำงานมาก็พบว่าบ้านมีรอยร้าวไปทั่ว ทั้งผนัง วงกบประตูหลุดจากผนัง กระเบื้องห้องน้ำพร้อมหล่น และท่อน้ำรั่ว ผนังบวม เรียกได้ว่าทุกจุดของบ้านได้รับผลกระทบทั้งหมด
หญิงเจ้าของบ้านพยายามเรียกร้องให้บริษัทส่งวิศวกรมาตรวจสอบ และได้บันทึกเสียงการพูดคุยเป็นหลักฐาน ซึ่งเผยข้อมูลสำคัญว่า การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานจริง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้บ้านทรุดโทรมเร็วกว่าปกติ
ตอนแผ่นดินไหว ปูนหล่นจากวงกบจนเห็นวัสดุด้านในถึงได้รู้ว่ามีการใช้ปูนที่ร่วนและพรุนเติมไว้แทนวัสดุที่ควรใช้ตามมาตรฐาน ทั้งหมดนี้เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย เธอกล่าวเสริม
ภาพจาก กลุ่มเฟซบุ๊ก : พวกเราคือผู้บริโภค
แม้บ้านจะหมดระยะประกันไปแล้ว แต่เจ้าของบ้านยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของระยะเวลา แต่เป็นเพราะคุณภาพวัสดุและมาตรฐานการก่อสร้างที่ต่ำ ซึ่งบริษัทควรรับผิดชอบ เราส่งอีเมลไปมากกว่า 10 ฉบับ แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบที่ชัดเจน บ้านหลังหนึ่งไม่ได้ซื้อไว้แค่อยู่ 10 ปี แต่มันคือบ้านตลอดชีวิตของเรา
ท้ายที่สุด หญิงรายนี้ยังฝากข้อคิดเตือนใจถึงผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านว่า ควรตรวจสอบทั้งตัวบ้านและมาตรฐานการบริการหลังการขายให้รอบด้าน พร้อมทิ้งท้ายว่า อยากให้เคสของเราเป็นอุทาหรณ์ บ้านหลังนี้ไม่รู้จะอยู่ได้อีกกี่ปี ขอให้ทุกคนพิจารณาเรื่องความรับผิดชอบของโครงการ ไม่ใช่แค่ตอนขาย แต่อยู่ต่อไปข้างหน้าด้วย
ภาพจาก กลุ่มเฟซบุ๊ก : พวกเราคือผู้บริโภค
เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์