บิ๊กกุ้ง โต้สวน พล.ท.มาลี อ้างไทยรุกล้ำ ช่องอานม้า ลั่น ยึดได้ก่อนหยุดยิง
แม่ทัพภาคที่ 2 โต้โฆษกกลาโหมกัมพูชา พล.ท.มาลี โสเจียตา ที่กล่าวหาไทยรุกล้ำช่องอานม้า ยืนยันไทยยึดพื้นที่ได้ก่อนข้อตกลงหยุดยิง
4 สิงหาคม 2568 – พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณี พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงอ้างทหารไทย พร้อมอาวุธ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงด้วยการบุกช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ในเวลา 11.00 น. ของวันนี้ ว่า
“เรายึดช่องอานม้าได้ ก่อนมีมติหยุดยิง เพราะฉะนั้นเป็นพื้นที่ที่เราต้องควบคุมไว้อยู่แล้ว และเป็นเส้นเขตแดนของประเทศไทย กำลังทหารต้องอยู่บริเวณนั้น”
พล.ท.บุญสิน กล่าวเพิ่มเติมว่า กัมพูชาละเมิด MOU43 ด้วยการสร้างอนุสาวรีย์ตาอม สร้างชุมชนและตลาด ซึ่งปัจจุบันนี้เราห้าม เพราะการดำเนินการดังกล่าว ผิดข้อตกลงมานานแล้ว จะไม่ให้มีคนเข้ามาอยู่ในตลาดและบ้านเรือนบริเวณนั้นอีกแล้ว
การโต้ตอบของ พล.ท.บุญสิน สืบเนื่องจากกรณี พล.ท.มาลี โสเจียตา อ้างว่า เวลา 11.00 น. กองกำลังติดอาวุธของไทย พร้อมด้วยเครื่องจักรกลหนัก เช่น รถขุด ได้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่อานม้า ซึ่งเป็นดินแดนอธิปไตยของกัมพูชา นอกจากนี้ยังได้ทำการวางลวดหนาม แม้จะมีการประท้วงอย่างหนักจากกองกำลังของกัมพูชา
เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา กัมพูชาได้จัดให้มีการเยือนพื้นที่ดังกล่าวโดยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างชาติ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพื้นที่เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอธิปไตยของกัมพูชา
การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างโจ่งแจ้ง และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ รวมถึงในภูมิภาคโดยรวม กัมพูชาจึงขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศหุ้นส่วนที่ได้ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อช่วยให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่ได้มาอย่างยากลำบาก และปรารถนาที่จะเห็นข้อตกลงนี้ถูกนำไปปฏิบัติอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ เรียกร้องให้ประเทศไทยยุติการกระทำที่ก้าวร้าวในทันที และเคารพกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง