21 สว.ยื่นประธานวุฒิสภาส่งศาล รธน. วินิจฉัยสมาชิกภาพ สว. 136 ราย ปมพัวพันพรรคภูมิใจไทย
ที่วุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 21 คน ได้ร่วมกันลงนามในหนังสือยื่นต่อประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของ ส.ว. จำนวน 136 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (7) ประกอบมาตรา 113 จากข้อกล่าวหาเรื่องการได้มาซึ่งตำแหน่งโดยมิชอบและการยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง
โดยคำร้องดังกล่าวถึงผลการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งชี้ว่ามีการจัดวางระบบแทรกแซงการเลือกตั้ง ส.ว. ปี 2567 โดยมีพรรคภูมิใจไทยและแกนนำพรรคเป็นผู้ดำเนินการผ่านการวิเคราะห์ช่องโหว่ทางกฎหมายและระเบียบ กกต. แล้วใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมกระบวนการเลือกตั้ง และที่สำคัญคือ มีพฤติกรรมแสดงตนว่าอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย
กลุ่ม ส.ว. ทั้ง 136 คนยังถูกสื่อมวลชนและประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น “ส.ว.สีน้ำเงิน” ที่อยู่ในอาณัติของพรรคภูมิใจไทย โดยมีพฤติกรรม เช่น การแต่งกายด้วยโทนสีเดียวกันในห้องประชุม การแสดงออกและการลงมติต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับทิศทางของพรรค เช่น การคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, การลงมติขัดขวางร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร, การไม่ให้ความเห็นชอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรค เป็นต้น
นอกจากนี้ทางกลุ่มยังลงมติ “ไม่เห็นชอบ” บุคคลที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน ได้แก่ ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี และนายชาตรี อรรจนานันท์ ทั้งที่ทั้งคู่ได้รับเสียงเอกฉันท์จากคณะกรรมการสรรหา แต่กลับได้รับการโหวต “ไม่ผ่าน” จากวุฒิสภา แต่กลับลงมติ “เห็นชอบ” ให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งในกระทรวงคมนาคม สมัยที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ จากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐมนตรีฯ เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ให้ความเห็นชอบกับ นาย สุธรรม เชื้อประกอบกิจ ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสม แต่เคยรับตำแหน่งในกระทรวงยุติธรรมภายใต้รัฐมนตรีจากพรรคฝ่ายค้านที่เคยขัดแย้งกับ ส.ว. กลุ่มนี้
คำร้องดังกล่าวจึงเรียกร้องให้ประธานวุฒิสภายื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของ ส.ว. ทั้ง 136 คนสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ ส.ว. ทั้งหมด หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที หรืออย่างน้อยหยุดการให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งสำคัญในกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลของรัฐ เช่น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการองค์กรอิสระ และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในรัฐ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังแหล่งข่าวในวุฒิสภาที่มีชื่ออยู่ในคำร้องดังกล่าว ระบุว่ายังไม่ทราบว่าประธานวุฒิสภารับเรื่องคำร้องอย่างเป็นทางการแล้วหรือไม่ ขณะที่ ส.ว. กลุ่มเป้าหมายในคำร้องยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ