Bioconvergence เทรนด์ Deep Tech ที่จะเปลี่ยนวงการแพทย์ อาหาร และวัสดุศาสตร์
เมื่อชีววิทยาที่เคยซับซ้อนเกินเข้าใจ กำลังถูกถอดรหัสด้วยพลังของ AI และวิศวกรรม เมื่อสิ่งที่เคยเป็นงานวิจัยในห้องแล็บ กลายเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาดจริง
นี่ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่มันคือจุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้างของโลกธุรกิจ และเราเรียกมันว่า ‘Bioconvergence’
🟡 Bioconvergence คืออะไรและทรงพลังแค่ไหน?
Bioconvergence คือการหลอมรวมเทคโนโลยีสายชีวภาพเข้ากับสายดิจิทัลและวิศวกรรม ลองนึกภาพว่าความก้าวหน้าของ AI ในวันนี้ไม่ได้อยู่แค่บนโลกคอมพิวเตอร์อีกต่อไป แต่มันสามารถเข้าไปช่วยเร่งการค้นพบทางชีววิทยาได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นี่เป็นเหมือนการเปิดประตูสู่นวัตกรรมชุดใหม่ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมและวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง ข้อดีหลักๆ คือการสร้างความเป็นไปได้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหลายมิติ ตั้งแต่การแพทย์, อาหาร, ไปจนถึงวัสดุศาสตร์ โดยมีศักยภาพในการสร้างธุรกิจใหม่และแก้ปัญหาสำคัญของโลก
ตัวอย่างนวัตกรรมที่เกิดขึ้นมาแล้ว เช่น
🔸 AlphaFoldแพลตฟอร์ม AI จาก DeepMind ของ Google ที่สามารถทำนายโครงสร้าง 3 มิติของโปรตีนได้เกือบทั้งหมดที่วงการวิทยาศาสตร์รู้จัก ซึ่งช่วยย่อเวลาการวิจัยที่เคยใช้เวลาหลายสิบปีให้เหลือเพียงไม่กี่เดือน การค้นพบนี้จะนำไปสู่การพัฒนายาและวัคซีนใหม่ๆ , การสร้างเกษตรกรรมอัจฉริยะ , อาหารแห่งอนาคตอย่างเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงในห้องแล็บ (Lab-grown Meat) ไปจนถึงวัสดุชีวภาพใหม่ๆ เช่น หนังจากเห็ด หรือแบตเตอรี่ชีวภาพ
🟡 Deep Tech Commercialization จากห้องแล็บสู่ธุรกิจเปลี่ยนโลก
ปรากฏการณ์ Bioconvergence นำมาสู่เทรนด์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ นั่นคือ ‘Deep Tech Commercialization’หรือการนำเทคโนโลยีเชิงลึกออกจากห้องทดลองมาสร้างเป็นธุรกิจที่จับต้องได้จริง ซึ่งเทรนด์นี้กำลังเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย
🔸Perceptra:สตาร์ทอัพไทยที่ใช้ AI ช่วยแพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งปอดในระยะเริ่มต้นได้อย่างแม่นยำ
🔸Meticuly:ผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ AI และการพิมพ์สามมิติในการสร้างกระดูกเทียมเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ป่วย
แสดงให้เห็นว่า Deep Tech ไม่ใช่แค่เรื่องของนักวิทยาศาสตร์ แต่เป็นโอกาสทางธุรกิจที่รอให้ผู้ประกอบการเข้าไปไขว่คว้า
🟡 Playbook สำหรับผู้ประกอบการ: สูตรสำเร็จในสมรภูมิ Deep Tech
การจะสร้างธุรกิจจาก Deep Tech ให้ประสบความสำเร็จ มีแค่เทคโนโลยีล้ำๆ ยังไม่เพียงพอ แต่ต้องมีกลยุทธ์ที่ถูกต้อง ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่สูตรนี้
🔸 Deep Tech = Deep Technology + Expertise Knowledge (เทคโนโลยีเชิงลึก + ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง)
ความสำเร็จไม่ได้เริ่มต้นจากเทคโนโลยี แต่เริ่มต้นจาก ‘การเข้าใจปัญหา’ อย่างลึกซึ้ง ผู้ประกอบการที่อยากลงเล่นในสนาม ควรทำตามแบบแผนเหล่านี้
🔸 เริ่มต้นจาก Pain Point ของผู้ใช้งาน:ความสำเร็จของสตาร์ทอัพ Deep Tech จำนวนมากเกิดจากการเข้าไปพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญในวงการนั้นๆ เช่น เข้าไปคุยกับแพทย์เพื่อหาว่าปัญหาที่แท้จริงในการทำงานของพวกเขาคืออะไร แล้วจึงนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา
🔸 หา Problem-Solution Fit ให้เจอก่อน:ก่อนที่จะทุ่มงบประมาณสร้างผลิตภัณฑ์ ต้องตอบให้ได้ก่อนว่าปัญหาที่เราจะแก้นั้นใหญ่พอและมีคนยอมจ่ายเงินเพื่อแก้หรือไม่ และวิธีการแก้ปัญหาของเรานั้นตอบโจทย์ได้จริงหรือไม่
🔸 ร่วมมือกับนักวิจัยอย่างใกล้ชิด:ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์เอง แต่ต้องสามารถทำงานร่วมกับนักวิจัยเพื่อนำเทคโนโลยีมาต่อยอดเป็นแกนหลักของธุรกิจได้
Bioconvergence และ Deep Tech ไม่ใช่แค่ buzzword ที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่มันคือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของวิธีการสร้างนวัตกรรมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ
โอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ได้อยู่ที่การเป็นเจ้าของเทคโนโลยี แต่อยู่ที่การเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับปัญหาที่แท้จริงของมนุษย์ ผู้ประกอบการที่สามารถมองเห็นปัญหาและนำเทคโนโลยีมาใช้แก้โจทย์ได้อย่างถูกจุด คือผู้ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงและคว้าชัยชนะในทศวรรษข้างหน้านี้
เรียนรู้วิธีการใช้ Deep Tech คว้าโอกาสจาก Bioconvergence พัฒนาธุรกิจให้เป็นที่ต้องการของโลกอนาคตอย่างแท้จริง ได้ในงาน The Secret Sauce Summit 2025 เทศกาลธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
📍 16-17 September 2025 | UOB LIVE ชั้น 6, EMSPHERE
The Secret Sauce Summit 2025 ซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ https://www.zipeventapp.com/e/The-Secret-Sauce-Summit-2025?ref=Key-Takeaway-Bioconvergence
ชมคลิปสรุป 10 เรื่อง CEO ต้องรู้ ปี 2026 ได้ที่ https://youtu.be/LGN1JcFXBOI