ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. เริ่มแผนพลิกฟื้นตลาดหุ้นไทย
ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. พร้อมเริ่มแผนพลิกฟื้นตลาดหุ้นไทย
โดยทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะใช้แผน Jump+ เพื่อสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนสร้างการเติบโตของกำไรมากขึ้นใน 3 ปีข้างหน้า (ปี พ.ศ. 2569 - พ.ศ. 2572 นี้)
โดยบริษัทจดทะเบียนที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ จะต้องเสนอแผนงานอย่างชัดเจนให้กับตลาดหลักทรัพย์
ตัวอย่างเช่น ถ้าบริษัท A มีแผนจะนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับองค์กรเพื่อลดต้นทุน ก็จะต้องอธิบายวิธีการ และ กระบวนการทำงาน
พร้อมสื่อสารกับนักลงทุนให้ชัดเจนทั้งในกรณีที่ทำได้ และ ไม่ได้ตามแผน
นอกจากนั้นบริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมโครงการ Jump+ จะต้องรักษาเรตติ้ง CGR ที่ใช้วัดความโปร่งใสของบริษัท ให้มีระดับอย่างน้อย 4 ดาว ไปตลอด 3 ปีที่เข้าร่วมโครงการ
ส่วนบริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีสิทธิประโยชน์จูงใจ หรือ Incentives ในด้านต่าง ๆ ให้ อย่างเช่น
- เงินสนับสนุนจาก กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน หรือ CMDF สูงสุด 5,500,000 บาท และมีโบนัสให้อีก บริษัทละ 500,000 บาท ในกรณีที่ทำได้ตามเป้า
- ให้ความช่วยเหลือด้านที่ปรึกษาจากหน่วยงานให้คำปรึกษาชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นจาก บริษัทผู้สอบบัญชีรายใหญ่ สถาบันการศึกษาชั้นนำ
- ให้หน่วยงานหลักทรัพย์ฯ ที่เป็นพันธมิตรออกบทวิเคราะห์ให้บริษัทที่อยู่ในโครงการ เพื่อช่วยปลดล็อกคุณค่าของบริษัท
- ให้สิทธิพิเศษในการเลือกเวลาออก Opportunity Day
- ให้สื่อที่เป็นพันธมิตรช่วยสื่อสารเกี่ยวกับบริษัท
โดยโครงการ Jump+ ของตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้บริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่ วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ถึง วันที่ 30 ธันวาคม 2568
ต่อไปมาต่อกันที่โครงการจาก ก.ล.ต. นั่นก็คือโครงการ Corporate Value Up
ซึ่งโครงการนี้หลายคนก็อาจจะได้เห็นกันไปแล้วผ่านกองทุน Thai ESG และ Thai ESGX ในช่วงที่ผ่านมา
โดยบริษัทจดทะเบียนที่จะเข้ามาอยู่ในกองทุนนี้ได้จะต้องมีคะแนนด้านความยั่งยืนหรือ ESG ที่ผ่านเกณฑ์
ซึ่งบริษัทที่ได้เข้ามาอยู่ในกองทุน ก็จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินของนักลงทุนที่เข้ามาซื้อกองทุน เป็นการให้รางวัลกับบริษัทที่มีหลักความยั่งยืนที่ดี
มาถึงตรงนี้ ก็คงสรุปได้ว่า
โครงการ Jump+ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นโครงการที่ช่วยผลักดันให้บริษัทจดทะเบียน มีพื้นฐานดีขึ้น ผ่านกำไรที่เติบโต และ การสื่อสารที่ชัดเจนของบริษัท เป็นโครงการในฝั่งบริษัทจดทะเบียน หรือ Supply Side
ส่วนโครงการ Corporate Value Up เป็นโครงการในฝั่งเงินทุนจากนักลงทุนที่จะไหลเข้ามา หรือ Demand Side ผ่านการออกกองทุนที่ออกแบบมาให้มีแต่บริษัทที่มีหลักความยั่งยืนที่ดี เชื่อมั่นได้
ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้ ก็ถูกออกแบบมาให้บริษัทที่มีธรรมาภิบาลดี และ สร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นได้เพิ่ม มีแรงจูงใจเพิ่มในการทำตามเป้าหมายนั่นเอง
ที่มา: SET