โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

จิตตะ เวลธ์ ชี้ AI Market Prediction ยังล็อกเป้าหุ้นจีน เผยสูตรจัดพอร์ตด้วย Core & Satellite ลงทุน Global ETF และ Jitta Ranking Alpha ฝ่าความผันผวนได้จริง จิตตะ เวลธ์ ประเมินครึ่งปีหลังยังเห็

Wealthy Thai

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จิตตะ เวลธ์ ประเมินครึ่งปีหลังยังเห็นความไม่แน่นอนจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการลงทุน พร้อมเปิดบทพิสูจน์การลงทุนฝ่าวิกฤติ Trump Tariffs ด้วยการจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite กระจายความเสี่ยง ด้วย Global ETF และ Jitta Ranking Alpha ในสัดส่วน 80:20 เอาชนะความผันผวนได้ด้วยผลตอบแทน +3.49%* ขณะที่ AI ยังชี้ “จีน” ตลาดหุ้นที่น่าลงทุนครึ่งปีหลัง จากอัตราส่วนหุ้นดีราคาถูกเพิ่มขึ้นมาถึง 15.6เท่าขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดลงอยู่ที่ 0.61เท่า สะท้อนราคาที่แพงไปแล้ว เผยผลตอบแทนล่าสุด (YTD) ตลาดหุ้นจีนยังโดดเด่น ทั้ง Jitta Ranking หุ้นฮ่องกง +19.64%หรือกลุ่ม Thematic หุ้นจีนที่ล้วนสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่า 20%
นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (บลจ.) สตาร์ตอัปสัญชาติไทย ที่มีจํานวนกองทุนส่วนบุคคลภายใต้การบริหารมากที่สุดในประเทศ เปิดเผยว่า แม้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกจะเริ่มผ่อนคลายความกังวลจากประเด็นสงครามการค้าและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์บ้างแล้ว เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2568ที่ตลาดผันผวนรุนแรง แต่ในช่วงที่เหลือของปี ประเด็นเหล่านี้จะยังคงกดดันตลาด และอาจกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี และส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อต่อไป เป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องจับตา

(นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์)

“หากย้อนประวัติศาสตร์เงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา หลังเหตุการณ์สำคัญ เงินเฟ้อจะพุ่งแรงอย่างเห็นได้ชัด เช่นในปี 2489ที่สงครามโลกครั้งที่ 2สิ้นสุดลง อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นไปถึง 18.1% แต่ในทางกลับกัน ไม่ว่าจะผ่านมากี่วิกฤติตลาดหุ้นก็สามารถปรับตัวกลับขึ้นมาได้ โดยดัชนี S&P500 สร้างผลตอบแทนได้ถึง 326.65% (31 ธันวาคม 2542 - 14 กรกฏาคม 2568) สะท้อนได้ว่าในทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ ดังนั้นนักลงทุนต้องทำการบ้านหนักขึ้นเพื่อให้เป็น “นักเลือก” ค้นหาหุ้นที่ดีในราคาเหมาะสม ทนทานต่อความผันผวนในระยะยาวให้เจอให้ได้”
นายตราวุทธิ์กล่าวว่า เมื่อภาพการลงทุนกำลังเปลี่ยนไปตามบริบทใหม่ของโลก นักลงทุนจำเป็นต้องมีหลักคิดในการลงทุนที่ถูกต้องเพื่อให้พร้อมเผชิญกับความไม่แน่นอนในอนาคต ซึ่งการกระจายความเสี่ยง (Diversification) ให้พอร์ตคือกุญแจสำคัญ รวมถึงการจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite ที่มีการแบ่งสัดส่วนของ Core Port หรือพอร์ตหลักให้มีสินทรัพย์ที่กระจายความเสี่ยงอย่างครอบคลุม และสร้างความมั่นคงให้พอร์ต ควบคู่ไปกับ Satellite Port หรือพอร์ตรอง เสริมการลงทุนแบบมุ่งเน้นผลตอบแทน ในประเทศหรือธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ซึ่งสัดส่วนของทั้ง 2พอร์ต อาจจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุนเอง แต่สัดส่วนที่ปลอดภัยที่ Jitta Wealth แนะนำจะอยู่ที่ 80:20
ทั้งนี้สูตรการลงทุนที่ Jitta Wealth แนะนำคือการจัด Core Port ด้วย Global ETF แผนการลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงในหุ้นและตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก และจัด Satellite Port ด้วย Jitta Ranking Alpha นโยบายการลงทุนที่มี Alpha AI อัลกอริทึมวิเคราะห์ประเทศของ Jitta Wealth คัดเลือก ‘ตลาดหุ้นที่ดี ในเวลาที่เหมาะสม’ การจัดพอร์ตแบบนี้ที่สัดส่วน 80:20 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถนำพาพอร์ตให้ผ่านพ้นวิกฤติ Trump Tarriffs ได้ โดยในวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่สหรัฐฯ มีการประกาศ Liberation Day ผลตอบแทนของพอร์ตติดลบเพียง 5.27% จากต้นปี ถือว่าน้อยมากเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกที่ร่วงรุนแรงในช่วงแวลาเดียวกัน และล่าสุดเมื่อตลาดเริ่มนิ่ง (14 กรกฎาคม 2568) ผลตอบแทนก็กลับมา +3.49%พิสูจน์ได้ว่าการจัดพอร์ตด้วยหลักการนี้สามารถฝ่าวิกฤติความผันผวนได้จริง
“การกระจายความเสี่ยงและการจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite โดยมี Global ETF เป็น Core Port สามารถฝ่าวิกฤติได้จริง ด้วยผลตอบแทนที่ดีและความเสี่ยงต่ำ เหมาะที่นักลงทุนจะใช้เป็นพอร์ตหลักได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล และการมีพอร์ตหลักที่มั่นคง จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนด้วยการเลือกลงทุนในตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในอนาคตใน Satellite Port ได้ด้วย”
นายตราวุทธิ์ยังกล่าวว่า ตลาดหุ้นที่มีโอกาสเติบโตเวลานี้ นักลงทุนอาจจะให้ความสนใจในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังคงทำสถิติ All Time High ได้เสมอ แต่สหรัฐฯ เองก็ยังมีประเด็นที่ต้องติดตาม ทั้งปัญหาภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงความต้องการพันธบัตรสหรัฐฯ เริ่มลดน้อยลง ขณะที่ประเทศคู่แข่งอย่างจีนในเวลานี้ถือว่ายังมีความแข็งแกร่ง มีจุดยืนที่มั่นคงในเวทีโลกเห็นได้จากการตอบโต้ภาษีสหรัฐฯ แม้ในภาพรวมของภาคประชาชนจะแสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น แต่เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง GDP เติบโตอยู่ในระดับที่สูงกว่า 5.5% (2564-2567) ซึ่ง สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกเกือบ 2%
อย่างไรก็ตามหากถาม AI ถึงประเทศที่น่าลงทุนในเวลานี้ ด้วย Jitta Market Prediction ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ในแบบ AI Predictive Analytics ที่มีการนำฐานข้อมูลการลงทุนมาวิเคราะห์ในทุกมิติ เพื่อเฟ้นหาตลาดที่น่าลงทุน และมีศักยภาพที่จะสร้างผลกำไรดีที่สุดในอนาคต โดยข้อมูลล่าสุด (11 กรกฏาคม) AI พบว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีอัตราส่วนหุ้นถูกต่อหุ้นแพงลดลงมาอยู่ที่ 0.61 เท่า จากสิ้นปีก่อนที่มี 0.72 เท่า สะท้อนว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เวลานี้อาจจะแพงไปแล้ว เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นจีนที่มีอัตราส่วนหุ้นถูกต่อหุ้นแพงเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.6 เท่าจากสิ้นปีก่อนที่มีเพียง 9 เท่า
“เวลานี้ระบบเศรษฐกิจโลกถูกขับเคลื่อนไปตามการแข่งขันระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีน ในอีก 10 ปีข้างหน้า ยังไม่มีใครตอบได้ว่าสหรัฐฯ หรือจีน ใครจะขึ้นเบอร์หนึ่งของโลก แต่ที่แน่ๆ เราก็จะเห็นการเติบโตของทั้ง 2 ประเทศนี้ต่อไป ดังนั้นหากนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสการลงทุนใน Satellite Port ด้วยหุ้นในประเทศต่างๆ แต่ยังไม่รู้ว่าควรลงทุนในตลาดใดในช่วงจังหวะเวลาใด สามารถลงทุนใน Jitta Ranking Alpha ที่จะมี Alpha AI อัลกอริทึมวิเคราะห์ประเทศของ Jitta Wealth ช่วยคัดเลือก ‘ตลาดหุ้นที่ดี ในเวลาที่เหมาะสม’ ตอบโจทย์นักลงทุนที่ไม่มีความรู้หรือไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์ตลาด สามารถลงทุนใน ‘ตลาดหุ้นที่ดี ในเวลาที่เหมาะสม’ และ ‘หุ้นดีราคาถูก’ ได้พร้อมๆ กัน ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้นักลงทุนได้ดีกว่า”
นายตราวุทธิ์ยังกล่าวว่า สำหรับผลตอบแทนการลงทุนในนโยบายต่างๆ ของ Jitta Wealth ตั้งแต่ต้นปีมาถึงปัจจุบัน (14 กรกฎาคม 2568) นั้น นโยบายที่เกี่ยวกับหุ้นจีนสามารถสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่น เช่น Jitta Ranking หุ้นฮ่องกง สามารถสร้างผลตอบแทน (YTD) +19.64% และหากดูเป็นธีมการลงทุน พบว่าธีมบริการสุขภาพจีน +29.34% ธีมพลังงานสะอาดจีน +26.19% ธีมตลาดหุ้นจีน +23.16% ธีมหุ้นฮ่องกง +22.50% ธีมเทคโนโลยีจีน +19.26% ส่วนJitta Ranking หุ้นจีน +4.77% และ Jitta Ranking Alpha +4.15%
“AI ของ Jitta Wealth ชี้ให้เห็นโอกาสในตลาดหุ้นจีนมาโดยตลอด และเวลานี้ยิ่งตอกย้ำความแม่นยำได้จากผลตอบแทนที่ชัดเจน ซึ่่งตลาดหุ้นฮ่องกงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนำไปก่อนเพราะเป็นตลาดที่เงินทุนไหลเข้าออกง่าย แต่หากมองโครงสร้างในระยะยาวแล้วในอนาคตเชื่อว่าจะเห็นการโยกเม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่แน่นอน”
ผู้ที่สนใจลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.jittawealth.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE @JittaWealth
หมายเหตุ * +3.49% เป็นผลตอบแทน Core & Satellite ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ในสกุลเงินไทยบาท หากเป็นสกุลเงินในประเทศที่ลงทุน จะมีผลตอบแทน +8.32%
ผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไม่การันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงอื่นๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Wealthy Thai

BBL โชว์ครึ่งแรกปี 68 มีกำไร 24,458 ล้านบาท โต 9.5% จากปีก่อน รับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยพุ่งแรง

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

DBS ชูกลยุทธ์ "The Global Pivot" ฝ่าความผันผวนช่วงครึ่งปีหลัง แนะเพิ่มหนักลงทุน ทอง-หุ้นเอเชีย-ยุโรป ชี้เป้า 3 ธุรกิจมาแรงในยุคเศรษฐกิจเปลี่ยน

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่นๆ

Night Recap Gold Futures 17-07-2568

ฮั่วเซ่งเฮง

Night Recap Gold Spot 17-07-2568

ฮั่วเซ่งเฮง

‘ดาวโจนส์’ ทะยาน 209.64 จุด ขานรับ ‘ข้อมูลเศรษบฐกิจ-ผลประกอบการบริษัท’ แกร่ง

The Bangkok Insight

[Vision Exclusive] SET ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ฟันธงเป้า 1,370 จุด

หุ้นวิชั่น

[Vision Exclusive] CHEWA เฟ้นหาที่ดินใหม่ – ดันยอด

หุ้นวิชั่น

แบงก์กรุงเทพ เปิดกำไรไตรมาส2 ที่ 1.18หมื่นล้าน วูบ 6.2% หลังตั้งสำรองเพิ่ม 18%

กรุงเทพธุรกิจ

‘ดีบีเอส’ สแกน ‘หุ้นไทย’ เหลือ1,000จุด แรงบีบ ‘ภาษีทรัมป์36%‘

กรุงเทพธุรกิจ

ทิพยประกันภัย คว้ารางวัล “บริษัทที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านประกันวินาศภัย” จากงาน Money & Banking Awards 2025

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...