บลจ.อีสท์สปริง เปิดมุมมองลงทุนครึ่งปีหลัง 68 แนะกระจายพอร์ตชู 5 ธีมเด่น
บลจ.อีสท์สปริง เปิดมุมมองลงทุนครึ่งปีหลัง 68 แนะกระจายพอร์ตพร้อมชู 5 ธีมเด่น รับมือภาวะตลาดโลกผันผวน
นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เปิดเผยมุมมองการลงทุนครึ่งปีหลัง 2568 ว่า ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก แม้บางประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯได้แต่ภาพรวมของอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศคู่ค้า อาจกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้า
“แม้การเจรจาการค้าจะยังต้องใช้เวลาและมีความซับซ้อน แต่อีสท์สปริงมองว่า เอเชียและตลาดเกิดใหม่ยังคงเป็นจุดหมายสำคัญในการกระจายการลงทุน ท่ามกลางภาวะตลาดโลกที่ผันผวน”
นายยิ่งยง เจียรวุฑฒิ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บลจ.อีสท์สปริง กล่าวว่าสำหรับแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง บลจ.อีสท์สปริงยังคงมุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวัง
คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวลง เหลือประมาณ 1.4% ในปี 2568 และ 1.6% ในปี 2569 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อน่าจะยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)คาดว่าจะเริ่มทยอยลดดอกเบี้ย เมื่อเห็นอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
ในฝั่งของจีน จากการที่สหรัฐฯมีการลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนและมีการผ่อนผันระยะเวลาออกไป 90 วันทำให้อัตราภาษีเฉลี่ยลดลงเหลือราว 35% แต่ยังถือเป็นแรงกดดันต่อ GDP ประมาณ 1% ในปีนี้
อีสท์สปริงยังคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตได้ราว 4.5% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายการคลังและมาตรการกระตุ้นเฉพาะด้าน และคาดว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมในช่วงต้นไตรมาส 4/68 ขณะที่ราคาหุ้นจีนยังอยู่ในระดับน่าสนใจ ช่วยเปิดโอกาสสำหรับนักลงทุนสำหรับการเติบโตในระยะยาว
อินเดีย กลายเป็นผู้รับผลประโยชน์สูงสุดในภูมิภาคเอเชีย จากโครงสร้างการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตที่ 6.4% ในปีนี้ และ 6.6% ในปีหน้า
ทั้งนี้ หากสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯได้เพิ่มเติม จะช่วยให้อินเดียเพิ่มเสน่ห์ในฐานะศูนย์กลางการผลิตของโลก แม้หุ้นอินเดียจะมีมูลค่าที่แพงกว่าตลาดหุ้นเอเชีย แต่ก็ยังคงมีเสถียรภาพจากนโยบายการเงินที่เอื้ออำนวย รวมถึงได้รับอานิสงฆ์จากการย้ายฐานการผลิต(Reshoring)
ในขณะที่ประเทศไทย คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยคาดว่า GDP จะอยู่ที่ราว 1.8% จากแรงกดดันด้านการค้าต่างประเทศที่อาจจะชะลอตัว การลงทุนภาคเอกชนที่อ่อนแอ และความไม่แน่นอนทางการเมือง แม้ภาคการท่องเที่ยวจะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ
ขณะที่เงินเฟ้อไทยยังอยู่ในระดับต่ำ เปิดโอกาสให้ธนาคารแห่งประเทศไทย อาจพิจารณาลดดอกเบี้ยได้อีกหนึ่งครั้ง หากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่คาดสำหรับการลงทุนในไทยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นหุ้นปันผลสูง เพื่อช่วยลดความผันผวนและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง
ด้านนายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง กล่าวว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 นักลงทุนทั่วโลกยังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้า การเติบโตที่ชะลอตัวลงในเศรษฐกิจหลัก และการเปลี่ยนผ่านไปสู่ทิศทางดอกเบี้ยขาลง
เชื่อว่ากลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย และสอดรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างพอร์ตการลงทุนที่แข็งแกร่งในระยะยาว
บลจ.อีสท์สปริง แนะนำกรอบการลงทุน 5 ธีมหลัก เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมมหภาคที่เปราะบาง ดังนี้
- D = Diversify Globally : กองทุนเปิดอีสท์สปริงGlobal Core (ES-GCORE) กองทุนหลักเน้นการกระจายความเสี่ยงทั่วโลก โดยลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงจากตลาดพัฒนาแล้ว ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งผสมผสานการใช้ Big Data และโมเดลเชิงปริมาณเพื่อหาโอกาสจากการลงและเสริมความเสถียรของพอร์ต
- R = Resilient US Leaders : กองทุนเปิดอีสท์สปริงUS Blue Chip Equity (ES-USBLUECHIP) กองทุนหลักเน้นลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และศักยภาพการเติบโตระยะยาว ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีความมั่นคงทางการเงินมากกว่าบริษัทขนาดเล็ก และสามารถรับมือกับวัฏจักรเศรษฐกิจได้ดีกว่า
- I = Income from Innovation : กองทุนเปิดอีสท์สปริง Nasdaq Equity Premium Income (ES-NDQPIN) ) กองทุนหลักมีการใช้กลยุทธ์ Covered Call ซึ่งเป็นการขายออปชั่นบนหุ้น NASDAQ-100 เพื่อสร้างกระแสรายได้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมรักษาการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี เหมาะสำหรับผู้ต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอในภาวะตลาดผันผวน
- V = Value from Asia : กองทุนเปิดอีสท์สปริงAsian Low Volatility Equity (ES-ALOVE) ) กองทุนหลักเอเชียยังเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจในระยะยาว ด้วยศักยภาพด้านการผลิต โครงสร้างประชากร และนวัตกรรม กองทุนนี้คัดเลือกหุ้นพื้นฐานดีที่มีความผันผวนต่ำจากทั่วเอเชีย เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
- E = Enhanced Bond Income : กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Income (ES-GINCOME) เมื่อธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน ตลาดตราสารหนี้กลับมาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกครั้งกองทุนหลักนี้ลงทุนเชิงรุกในพันธบัตรหลากหลายประเภททั่วโลก และหลายประเภทตราสารเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้และกระจายความเสี่ยงในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ที่มา : อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ สิงคโปร์ ข้อมูลวันที่ 22 พฤษภาคม 2568