นี่คือเห็ดที่มีกลิ่นหอมหวาน แต่มันคือ'ทูตมรณะ'ที่นำไปสู่กรณี'ฆาตกรรมเห็ด'ในออสเตรเลียที่เขย่าขวัญไปทั่วโลก
เห็ดที่ดูไม่มีพิษมีภัย มีกลิ่นหอมหวาน และมีชื่อที่ฟังดูน่าสยดสนอง เป็น 'ของกลาง' ชิ้นสำคัญในการตัดสินคดีฆาตกรรมสามศพจากน้ำมือเอริน แพตเตอร์สัน (Erin Patterson) หญิงชาวออสเตรเลีย ที่สร้างความสนใจและเขย่าขวัญไปทั่วโลก
แพตเตอร์สันถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆ่าพ่อแม่และป้าของสามีในปี 2023 และพยายามฆ่าเหยื่อคนที่สี่ โดยใส่เห็ดพิษพิษร้ายแรงลงในอาหารกลางวันที่ปรุงแบบ 'บีฟเวลลิงตัน '(Beef Wellington เมนูสเต็กอบทำจากสเต็กเนื้อและดักเซลส์ ห่อด้วยแป้งพายชอร์ตครัสต์ ซึ่ง ดักเซลส์ คือส่วนผสมของเห็ดสับ หัวหอม สมุนไพร เช่น ไธม์หรือผักชีฝรั่ง และพริกไทยดำ ผัดในเนยแล้วเคี่ยวจนเป็นเนื้อเดียวกัน)
หญิงวัย 50 ปีปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยกล่าวว่าอาหารมื้อใหญ่ถูกปนเปื้อนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ตลอดการพิจารณาคดีที่ได้รับความสนใจเป็นข่าวหน้าหนึ่งซึ่งกินเวลานานกว่าสองเดือน ผู้เชี่ยวชาญได้ผ่าเห็ดสีน้ำตาลและสีขาวอย่างละเอียดถี่ถ้วน
เห็ดพิษที่ว่านี้มีชื่อว่า Amanita phalloides เป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากเชื้อราประมาณ 90% ทำให้เห็ดชนิดนี้เป็นเห็ดที่อันตรายที่สุดในโลก
เห็ดที่มีสปอร์สีน้ำตาลและสีขาวนี้มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเห็ดชนิดอื่นที่รับประทานได้ และมีรายงานว่ามีรสชาติดีเมื่อนำมาใช้ปรุงอาหาร
แต่นักพิษวิทยาที่ชื่อ ดิมิทรี เกรอสตามูลอส (Dimitri Gerostamoulos) บอกกับคณะลูกขุนในการพิจารณาคดีของเอริน แพตเตอร์สัน ว่า เห็ดชนิดนี้เต็มไปด้วยสารเคมีอันตรายที่เรียกว่าอะมาทอกซิน
“เห็ดชนิดนี้อาจทำให้คนมีอาการท้องเสีย อาเจียน หรือรู้สึกไม่สบายตัวได้” เกรอสตามูลอส กล่าวกับคณะลูกขุน
“และอาการจะแย่ลงเรื่อยๆ หากไม่กำจัดพิษออกไป" เขากล่าวเสริม
เกรอสตามูลอส ยังอธิบายว่าหากปล่อยไว้ “อาการจะลุกลามไปถึงเนื้อเยื่อตาย อวัยวะล้มเหลว และแน่นอนว่าอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม”
แขกที่แพตเตอร์สันเชิญมารับประทานอาหารปนเปื้อนเห็ดพิษทั้ง 3 คนเสียชีวิตจากภาวะอวัยวะล้มเหลว 1 สัปดาห์หลังจากรับประทานเห็ดพิษที่อบในบีฟเวลลิงตันโดยไม่รู้ตัว
“เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถรอดชีวิตได้” สตีเฟน วอร์ริลโลว์ (Stephen Warrillow) ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้ป่วยหนัก กล่าวกับคณะลูกขุน
แขกคนที่ 4 ล้มป่วยหนักแต่รอดชีวิตหลังจากอยู่ในโรงพยาบาลหลายสัปดาห์
ทอม เมย์ (Tom May) ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อรากล่าวระหว่างการพิจารณาคดีของแพตเตอร์สันว่าเห็ดพิษมีถิ่นกำเนิดในยุโรป แต่ได้แพร่ระบาดไปยังสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
เขากล่าวว่าเห็ดชนิดนี้มีกลิ่นหอม “หวานเล็กน้อย” เมื่อยังสด
“ในออสเตรเลีย เห็ดชนิดนี้เป็นสายพันธุ์ต่างถิ่นและถูกนำเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ” เมย์กล่าวในคำให้การของเขา
เห็ดชนิดนี้งอกขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อบอุ่นและชื้น และโดยปกติจะพบขึ้นในร่มเงาของต้นโอ๊ก
“จาก ในแต่ละปี โดยปกติแล้วภายใต้สภาวะที่เหมาะสม เห็ดชนิดนี้จะผลิตสปอร์ขึ้นมา ซึ่งก็คือเห็ดที่เราเห็นนั่นเอง” เมย์กล่าว
“เห็ดชนิดนี้มีเนื้อค่อนข้างเยอะและเน่าเปื่อยได้ง่าย ดังนั้นเห็ดชนิดนี้จึงอยู่ได้ไม่เกินสองสามสัปดาห์เมื่ออยู่ในทุ่ง”
เรื่องราวการฆาตกรรมจากน้ำมือของเอริน แพตเตอร์สัน
เอริน แพตเตอร์สัน หญิงชาวออสเตรเลียเสิร์ฟอาหารกลางวันเนื้อบีฟเวลลิงตันที่ "รสชาติอร่อย" จากคำบอกเล่าของพยาน โดยใช้สเต็กเนื้อสันใน แป้งพายสีทองที่กรอบ และเห็ดที่อันตรายที่สุดที่มนุษย์รู้จัก
แม่ครัวเจ้าสำราญคนนี้ลงมือฆ่าพ่อแม่และป้าของสามีในปี 2023 โดยใส่เห็ดพิษในอาหารกลางวันวันเสาร์ที่หรูหราของพวกเขา ซึ่งคณะลูกขุนได้ตัดสินคดีนี้ในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคมนี้
การพิจารณาคดีของแพตเตอร์สันได้รับการติดตามจากสื่อและสาธารณชนมานานกว่าสองเดือนทั่วโลก ความรู้สึกอยากรู้ถูกกระตุ้นด้วยการเลือกอาหาร วิธีการฆาตกรรม และแรงจูงใจอันลึกลับของเธอ
และการพิจารณาคดีนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "การพิจารณาคดีแห่งศตวรรษ" ของออสเตรเลีย
แพตเตอร์สัน วัย 50 ปี เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันแบบครอบครัวที่อบอุ่นที่บ้านของเธอซึ่งร่มรื่นในหมู่บ้านเกษตรกรรม ที่ชื่อลีออนกาทา (Leongatha) เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2023
คุณแม่ลูกสองคนนี้วางแผนเมนูเพื่อให้เข้ากับสิ่งที่เธอบอกว่าเป็นโอกาสพิเศษ โดยเสิร์ฟบีฟเวลลิงตัน ถั่วเขียว มันฝรั่งบด และน้ำเกรวี
ในช่วงบ่ายวันนั้น ดอนและเกล แพตเตอร์สัน พ่อแม่ผู้สูงอายุของไซมอน สามีของเธอที่ห่างเหินกันมานาน มาร่วมรับประทานอาหารด้วย
เฮเธอร์ วิลคินสัน ป้าของไซมอน และเอียน สามีของเธอ ซึ่งเป็นศิษยาภิบาลที่มีชื่อเสียงในโบสถ์แบปติสต์ในท้องถิ่น เข้ามาช่วยเติมเต็มกลุ่ม
แพตเตอร์สันผิดหวังที่ไซมอน สามีของเธอปฏิเสธที่จะมาร่วมด้วยเพราะเขารู้สึก "ไม่สบายใจ"
แม้ว่าทั้งคู่จะแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ความสัมพันธ์ที่เคยดีต่อกันกลับเริ่มมีสัญญาณของความตึงเครียด
"ฉันหวังว่าคุณจะเปลี่ยนใจ" เธอส่งข้อความตอบกลับ แต่ก็ไร้ผล
สำหรับอาหารมื้อนี้ แพตเตอร์สันควักเงินซื้อสเต็กเนื้อสันในราคาแพง โดยนำเห็ดสับมาทาเนื้อก่อนจะนำไปคลุกกับแป้งเพื่อทำบีฟเวลลิงตันอบเป็นห่อๆ
เห็ดพิษชนิดนี้มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเห็ดชนิดอื่นๆ ได้ง่ายๆ ตามรายงานระบุว่าเห็ดนี้มีรสหวานซึ่งแฝงไว้ด้วยพิษร้ายแรง
ข้อมูลจากพิจารณาคดีระบุว่า แขกกินจนหมดเกลี้ยงจนไม่อยากกินเค้กที่จัดไว้เป็นของหวานเลย
ศิษยาภิบาลที่ชื่อเอียนเล่าให้ฟังระหว่างการพิจารณาคดีว่า ขณะที่รับประทานอาหาร แพตเตอร์สันบอกกับเหยื่อของเธอ ว่าเธอเป็นมะเร็งและต้องการความช่วยเหลือในการบอกลูกๆ ของเธอ
กลุ่มคนเหล่านั้นได้อธิษฐานและขอ "ให้พระเจ้าอวยพรเอริน"
ต่อมาเฮเธอร์ก็พูดถึงอาหารนั้นอย่างออกรสออกชาติ โดยบอกกับเพื่อนว่าอาหารนั้น "อร่อยและงดงาม"
แม้ว่าร่างกายของเธอจะป่วยเป็นระลอกแรกๆ แต่เธอก็ไม่พบข้อบกพร่องใดๆ ในการทำอาหาร
“ฉันถามเฮเธอร์ว่าบีฟเวลลิงตันมีรสชาติอย่างไร และเธอบอกว่ามันอร่อยมาก” นายแพทย์คริสโตเฟอร์ เว็บสเตอร์บอกกับคณะการพิจารณาคดี
แต่ไม่นานกระแสเลือดของแขกก็เริ่มมีสารอะมาทอกซินไหลเวียน ซึ่งเป็นพิษร้ายแรงที่เห็ดพิษชนิดนี้ผลิตขึ้นเพื่อขับไล่สัตว์ในป่าที่หิวโหย
ดอน เกล และเฮเทอร์เสียชีวิตด้วยภาวะอวัยวะล้มเหลวภายในหนึ่งสัปดาห์
เอียนเป็นแขกเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต
ชีวิตของศิษยาภิบาลเอียน รวมถึงวิถีชีวิตของแพตเตอร์สันและเหยื่อของเธอในหลายๆ ด้านนั้นวนเวียนอยู่กับโบสถ์แบปติสต์โครัมบูร์รา
เอียนเป็นศิษยาภิบาลที่รับใช้ชุมชนมายาวนาน โดยเทศนาให้สาธุชนกลุ่มเล็กๆ แต่แข็งแกร่ง ให้พวกเขาได้ฟังการเทศนาทุกวันอาทิตย์
แพตเตอร์สันไม่เคร่งศาสนาแต่ยังคงช่วยถ่ายทอดสดพิธีของโบสถ์ผ่านโซเชียลมีเดีย
ถ้าขับรถไปไม่ไกลจากบริเวณโบสถ์อันสวยงาม ก็จะถึงสุสานในท้องถิ่น ซึ่งเป็นแปลงที่ดินที่ล้อมรอบด้วยฝูงวัวที่กินหญ้าและเนินเขาที่ลาดเอียงเล็กน้อย
ดอกไม้พลาสติกสีชมพูและสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของหลุมศพของดอนและเกลที่ฝังมาเกือบสองปีแล้ว
“จงจำไว้ว่าความตายไม่ใช่จุดจบ” มีป้ายจารึกไว้บนหลุมศพของทั้งคู่
เป็นพื้นที่ชนบทของออสเตรเลียที่ขึ้นชื่อในเรื่องป่าไม้เขียวชอุ่มและป่าพื้นเมืองที่เขียวชอุ่ม
และเป็นสถานที่ที่ชื้นแฉะและอุดมสมบูรณ์ซึ่งเห็ดพิษหรือ Amanita phalloides งอกขึ้นเองตามธรรมชาติ
เห็ดนี้เองที่ถูกกล่าวโทษว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากเชื้อราถึง 90% ของโลก โดยมีพิษมากพอที่จะทำให้ตับล้มเหลวอย่างร้ายแรง
แพตเตอร์สันได้รับการขนานนามว่าเป็นคนมีไหวพริบและฉลาด เธอคือแม่ที่ทุ่มเท เป็นนักสะสมหนังสือตัวยง และผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหาร
เธอเป็นคนขยันขันแข็งในชุมชนที่ผูกพันกันแน่นแฟ้นของเธอ โดยอาสาเป็นบรรณาธิการจดหมายข่าวของหมู่บ้าน
แพตเตอร์สันยังเป็นผู้ที่คลั่งไคล้ในคดีอาชญากรรม โดยเข้าร่วมกลุ่ม Facebook เพื่อวิเคราะห์รายละเอียดการฆาตกรรมฉาวโฉ่ในออสเตรเลีย
คริสติน ฮันท์ เพื่อนของเธอเล่าให้ฟังในการพิจารณาคดีว่าแพตเตอร์สันมีชื่อเสียงในฐานะ "นักสืบที่เก่งกาจ"
แพตเตอร์สันและไซมอน สามีของเธอแยกทางกันในปี 2015 แต่ทั้งคู่ก็พยายามรักษาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรเอาไว้
ในปี 2022 ความสัมพันธ์ที่เคยดีต่อกันนี้กลับแย่ลง เนื่องจากมีการโต้เถียงกันเรื่องภาระค่าเลี้ยงดูบุตรของไซมอน
แพตเตอร์สันบอกกับเพื่อนคนหนึ่งว่าสามีของเธอ "ชอบใช้กำลัง" ซึ่งการพิจารณาคดีก็ได้รับฟังมา
เธอรู้สึกหงุดหงิดที่พ่อแม่สามีของเธอปฏิเสธที่จะเข้าข้างเธอในข้อพิพาทนี้
"ฉันเบื่อเรื่องบ้าๆ นี้แล้ว ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาเลย" แพตเตอร์สันเขียนถึงเพื่อนคนหนึ่งใน Facebook ก่อนรับประทานอาหารกลางวันหลายเดือน-
ผ่านไปเกือบ 100 วันระหว่างงานเลี้ยงเนื้อและขนมอบและการจับกุมแพตเตอร์สันในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2023
แพตเตอร์สันดูเหมือนจะให้ความร่วมมือกับการสืบสวนที่เพิ่มขึ้น โดยเข้าร่วมการสอบสวนของตำรวจ พูดคุยกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และมอบยาแก้ปวดให้กับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มใจ
แต่ไม่นานนักสืบก็จะค้นพบสัญญาณว่าเธอเสิร์ฟอาหารด้วยเจตนาที่จะฆ่าเหยื่อ
แพตเตอร์สันโกหกว่าเป็นมะเร็งรังไข่เพื่อล่อแขกให้มาที่บ้านของเธอ อัยการบอกกับศาลหลังจากไม่พบประวัติทางการแพทย์ว่าเธอเป็นโรคนี้
เธอยังโกหกว่าไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องอบแห้งอาหารที่ใช้ในการปรุงเห็ด ซึ่งตำรวจพบที่กองขยะใกล้เคียง
ผลการทดสอบเป็นบวกว่ามีเห็ดพิษ
แพตเตอร์สันบอกว่าเธอซื้อเห็ดพิษโดยไม่ได้ตั้งใจจากร้านขายของชำเอเชียใกล้เมลเบิร์น
เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของอาหารไม่พบร่องรอยของร้านที่เธออ้าง
แต่พบว่ามีการโพสต์ภาพเห็ดพิษบนเว็บไซต์ของคนรักธรรมชาติหลายเดือนก่อนที่แพตเตอร์สันจะอบจานที่ปนเปื้อนพิษจากเห็ด
บันทึกทางโทรศัพท์ระบุว่าเธออาจไปที่สถานที่เหล่านี้ก่อนที่จะปรุงอาหาร
ก่อนที่เธอจะถูกควบคุมตัว แพตเตอร์สันจะพูดด้วยน้ำตาซึมกับฝูงนักข่าวที่มารวมตัวกันหน้าบ้านของเธอว่า “ฉันรู้สึกเสียใจมาก ฉันรักพวกเขา ฉันไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้น และฉันเสียใจมากที่พวกเขาต้องเสียชีวิต”
การพิจารณาคดีของแพตเตอร์สันจัดขึ้นที่เมืองมอร์เวลล์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบและมีชื่อเสียงจากงานเทศกาลสวนกุหลาบประจำปี
นักข่าว นักจัดรายการพอดคาสต์ และแฟนพันธุ์แท้ของอาชญากรรมจำนวนมากแห่กันมาดูสิ่งที่จะเรียกได้ว่าเป็น "การพิจารณาคดีแห่งศตวรรษ" ของออสเตรเลียในไม่ช้านี้
หนังสือพิมพ์ตั้งแต่เมืองนิวยอร์กไปจนถึงนิวเดลีได้รายงานเรื่องราวดราม่าในศาลทุกประเด็น
พยานมากกว่า 50 คนให้การตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์เต็ม ได้แก่ แพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อรา นักสืบ และสามีที่แยกทางกับแพตเตอร์สัน
ในที่สุด แม่ครับผู้ปรุงอาหารก็ขึ้นให้การเอง
แพตเตอร์สันกล่าวว่าเธอไม่เคยตั้งใจที่จะฆ่าหรือทำร้ายคนที่เธอรัก
เธอสารภาพว่าโกหกตำรวจ แต่เพียงเพราะกลัวว่าจะถูกตำหนิว่าเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรง
“ฉันเห็นด้วยที่ฉันโกหกเพราะกลัวว่าจะต้องรับผิดชอบ” เธอกล่าวในการพิจารณาคดี
คณะลูกขุนใช้เวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์ในการปรึกษาหารือเพื่อตัดสินว่าแพตเตอร์สันมีความผิด
เธอจะถูกตัดสินในภายหลัง
เอียน ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากมื้อกลางวัน นั่งฟังการพิจารณาคดีเกือบทุกชั่วโมง
เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องให้การเป็นพยาน เขาไม่สามารถให้คำอธิบายใดๆ ได้ว่าอะไรเป็นแรงผลักดันให้แพตเตอร์สันก่อเหตุฆาตกรรม
“เมื่อเราพบกัน ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เราไม่เคยโต้เถียงหรือโต้แย้งกันเลย” เขากล่าว
“เธอดูเหมือนคนธรรมดาคนหนึ่ง”
Agence France-Presse
Photo
1. ภาพของเห็ด Amanita phalloides ถ่ายที่ภูเขาของเมืองปิอาเชนซา ประเทศอิตาลี (ภาพโดย Archenzo / Wikipedia / CC BY-SA 3.0)
2. ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2025 แสดงให้เห็นเอริน แพตเตอร์สันกำลังมาถึงที่ด้านหลังของรถขนนักโทษที่ศาลแขวงลาโทรบวัลเลย์ในมอร์เวลล์ ประเทศออสเตรเลีย (ภาพโดย Martin KEEP / AFP)