"วาสนา นาน่วม" เปิดเหตุผลที่ทำให้ไทย จะไม่มี "รัฐประหาร"
วันที่ 30 มิ.ย.2568 “พี่เล็ก” วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร อธิบายถึงข้อกฎหมายหากไทยต้องมีการสู้รบกับกัมพูชาว่า ต้องย้อนไปดู พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 และข้อบังคับของกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการใช้กำลังทหาร และการเคลื่อนย้ายกำลังทหาร
ในข้อกฎหมายได้ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สามารถสั่งการใช้อาวุธ กำลังทหารที่มีอาวุธ และการเคลื่อนย้ายกำลังทหารที่มีอาวุธได้ แต่จะต้องปรึกษากับคณะผู้บัญชาการทหาร
ซึ่งคณะผู้บัญชาการทหารนั้น ประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน และผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ ส่วนเสนาธิการทหาร เป็นเลขา โดยจะมีหน้าที่เมื่อต้องมีการใช้กำลังทางทหารทั้งในยามปกติ และไม่ปกติ
นอกจากนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามกฎหมายมีอำนาจสั่งการเช่นกัน แต่ต้องได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือ กรณีที่ไม่มีรัฐมนตรีว่าการ หรือ รัฐมนตรีว่าการไม่อาจปฏิบัติราชการได้
เช่นเดียว กับผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการเหล่านั้น ก็มีอำนาจเช่นกัน แต่ต้องได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก่อน แต่ก็มีข้อยกเว้นไม่ต้องรอคำสั่งในกรณีการใช้กำลังทหารโดยฝ่ายผู้บัญชากองทัพเอง เช่น มีการรุกล้ำดินแดนเข้ามา คณะผู้บัญชาการทหาร สามารถสั่งการใช้ทหาร พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ได้ หรือ การอยู่ในภาวะสงคราม, มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก, หน่วยทหารถูกจู่โจม, การก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
หากจะต้องมีการสั่งการใช้กำลังทหาร และการเคลื่อนกำลังทหาร ย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ ให้สั่งการด้วยหนังสือ เว้นแต่กรณีที่จำเป็นต้องสั่งด้วยวาจา หรือ เครื่องมือสื่อสารได้ แต่จากนั้นให้ผู้สั่งมีหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรส่งตามมาโดยด่วนที่สุด
พี่เล็ก วาสนา บอกอีกว่า อนาคตหากเกิดการสู้รบกันระหว่างไทยและกัมพูชา คาดว่า จะเข้าเงื่อนไขการใช้คณะผู้บัญชาการทหาร ซึ่งมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้บัญชาการ เพราะเมื่อเกิดการสู้รบก็จะมี ใช้กำลังทหารมากกว่า 1 เหล่าทัพ จะมีทหารเรือ และทหารอากาศร่วมด้วย
รวมถึงกองบัญชาการกองทัพไทย แต่วันนี้ยังเป็นส่วนของกองทัพบก ผู้บัญชาการทหารบกที่มีอำนาจหน้าที่ ดูแลรับผิดชอบ ประเมินสถานการณ์ ซึ่งก็เป็นไปตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้มีมติให้กองทัพบก ผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้รับผิดชอบ ในการตัดสินใจและประเมินสถานการณ์
ส่วนกระแสการรัฐประหารหลังคณะรวมพลังแผ่นดิน ปราศรัยบนเวทีการชุมนุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่า " ถ้าทหารจะปุ๊บปั๊บก็เรื่องของเขา แต่ขอย้ำไม่ได้หนุนการปฏิวัติ" ทำให้หลายคนตีความว่านี่เป็นการเปิดช่องให้รัฐประหารหรือไม่
พี่เล็ก วาสนา มองว่า การชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ไม่มีเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหารแน่นอน ทหารประกาศชัดว่าการเมืองคือการเมือง ทหารคือทหาร กองทัพมีจุดยืนประกาศต่อหน้าสาธารณะไปแล้วก่อนหน้านั้นว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย สะท้อนได้ว่าจะไม่รัฐประหาร และกองทัพเองรู้ว่า การรัฐประหารเกิดขึ้นได้ยากมากในปัจจุบัน หรือ แทบจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย
ด้วยหลาย ๆ เหตุผล เช่น การปรับโครงสร้างหน่วยรักษาพระองค์ ซึ่งในอดีตมี ร.1 และ ร.11 เป็นกำลังหลักในการรัฐประหาร แต่ปัจจุบันหลังการเปลี่ยนผ่าน มีการโอนย้าย ร.1 กับ ร.11 ไปเป็นหน่วยในพระองค์ จึงเป็นกลไกที่ยากขึ้นหากมีการสั่งใช้กำลังในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นโดยภาพรวมของกองทัพ ได้มีการถอดสลักรัฐประหารไว้แล้ว
นอกจากนี้ ในปัจจุบันผู้บัญชาการกองทัพบก ไม่ได้เป็นนายทหารที่ผ่านการฝึกหลักสูตรนายทหารรักษาพระองค์ ตามแบบการฝึกของหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 หรือ ฉก.ทม.รอ.904 หรือที่รู้จักกันในนาม "ทหารคอแดง" มีแค่แม่ทัพภาคที่ 1 เท่านั้นที่เป็นทหารคอแดง ซึ่งการนำทหารคอแดง ไปใช้ในสิ่งใด ๆ ทำไม่ได้ เพราะขึ้นตรงกับ ฉก.ทม.รอ.904 นี่เป็นอีกกุศโลบายหนึ่งที่ประชาชนพินิจพิเคราะห์แล้วจะรู้ว่าประเทศไทยกำลังถูกถอดสลักรัฐประหาร
และอีกเหตุผลคือรถถังที่เป็นยุทโธปกรณ์หลักใช้ในการยึดอำนาจถูกนำไปไว้ต่างจังหวัดทั้งหมดตั้งแต่ปี 2560 ที่เหลืออยู่มีแค่รถสายพานหรือรถเกราะบ้างเล็กน้อย โดยให้เหตุผลว่าเวลาเกิดการสู้รบต้องอยู่ตามชายแดน ไม่จำเป็นต้องเอากำลังทหาร หรือยุทโธปกรณ์ไว้ในกรุงเทพฯ แต่จริง ๆ นี่คือกุศโลบายที่จะเอากำลังทหารออกไปนอกเมืองเพื่อลดโอกาสรัฐประหาร
และวันนี้ ( 30 มิ.ย. ) ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า "ต่อให้ปลุกกระแสรัฐประหาร ปลุกให้ตายก็ยาก" เพราะนายภูมิธรรม รู้ว่าการรัฐประหารในแต่ละครั้งต้องดูอะไรบ้าง ซึ่งในปัจจุบันต้องดูทิศทางลม การส่งสัญญาณ แต่ครั้งนี้ไม่มีการส่งสัญญาณอะไรได้ชัดเจนเลย
เมื่อถามว่าโผรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมจะสกัดการรัฐประหารได้หรือไม่ พี่เล็ก วาสนา มองว่า โจทย์ของการแต่งตั้งรัฐมนตรีกลาโหมครั้งนี้ไม่มีเรื่องรัฐประหาร หรือสกัดรัฐประหารใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ หรือบิ๊กแก้ว คนที่หลายคนคาดการณ์ว่าจะมานั่งรัฐมนตรีกลาโหมในอีก 3 เดือนข้างหน้า เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้บัญชาการเหล่าทัพในยุคปัจจุบัน หาก บิ๊กแก้ว ได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ส่วนตัวมองว่าจะมีความเป็นหนึ่งเดียวกับกองทัพมากกว่าตอนที่นายภูมิธรรม เป็นรัฐมนตรีกลาโหม เพราะนายภูมิธรรม เป็นพลเรือนและเป็นคนของรัฐบาลเต็มตัวชัดเจน
แต่ บิ๊กแก้ว เป็นรุ่นพี่เตรียมทหารรุ่นที่ 21 มีความใกล้ชิดและมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ทำให้กองทัพมีความเป็นหนึ่งเดียวกับฝ่ายการเมืองมากขึ้น เพราะรัฐมนตรีเป็นทหารเก่า และใกล้ชิดกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ หากมองบวกทำให้กองทัพมีเอกภาพในการทำงานมากขึ้น
เมื่อถามว่าความสัมพันธ์รัฐบาลกับทหารตอนนี้เป็นไปในทางที่ดีหรือไม่ พี่เล็ก วาสนา มองว่า ตั้งแต่มีคลิปสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน เผยแพร่ออกมา เชื่อว่าทหารมีความรู้สึกกับคำพูดนายกฯ แต่ด้วยเงื่อนไขสำคัญ
ซึ่งพี่เล็ก วาสนา ใช้คำว่า Deadlock (เดทล็อก) ด้วย Deadlock ของประเทศจำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม และมีศึกนอกที่ต้องสู้กับกัมพูชาและยังมีเรื่องการเจรจากับสหรัฐอเมริกาเรื่องเศรษฐกิจที่ต้องอาศัยรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม และที่สำคัญ Deadlock ในทางการเมืองคือถ้ารัฐบาลนี้ หมายถึงรัฐบาลผสมข้ามขั่ว มีอันต้องล่มสลาย หรือยุบสภา สิ่งที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมกลัวก็คือ "สีส้ม" หมายความว่า ทุกวันนี้ยังมีความจำเป็นต้องใช้พรรคเพื่อไทยหรือนายทักษิณ ชินวัตร เป็นแม่ทัพในการสู้ศึกกับฝ่ายปฏิรูปสถาบัน แต่วันนี้เกิดปัญหาขึ้นเมื่อพรรคภูมิใจไทย ถอยออกไป ทำให้ดีลเปลี่ยนไป แต่คนที่มีบทบาทสำคัญยังคงอยู่คือให้พรรคเพื่อไทย เดินหน้าต่อไป อย่างน้อยไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และไม่เสี่ยงหากเกิดการเลือกตั้ง พรรคสีส้มอาจจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามา จึงพยายามยื้อเวลาเรื่องของการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อมโยงกับสิ่งที่กองทัพจะไม่เข้าไปกดดันทางการเมือง การเมืองก็ทำหน้าที่การเมืองไป ทหารก็ทำหน้าที่ของทหาร จึงไม่มีเรื่องกลิ่นรัฐประหาร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จัก "บิ๊กแก้ว" ว่าที่ รมว.กลาโหม คนใหม่ “ครม.นายกฯอิ๊งค์ 2”
“เพื่อไทย” รับไม่ได้! แกนนำม็อบ 28 มิถุนาปลุกระดมรัฐประหาร
"สนธิ" ลั่น ไม่เคยคิด 20 ปีก่อนไล่ "ทักษิณ" มาวันนี้ ไล่ "ลูกสาว"
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "วาสนา นาน่วม" เปิดเหตุผลที่ทำให้ไทย จะไม่มี "รัฐประหาร"
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com