ผื่นกุหลาบ ผื่นจากไวรัส พบบ่อยช่วงฤดูฝน ผู้ป่วยตั้งครรภ์เสี่ยงแท้งได้
รู้จัก โรคผื่นกุหลาบ หรือ Pityriasis rosea โรคผิวหนังจากเชื้อไวรัส อาการนำคือ มีไข้ ปวดเมื่อย มีตุ่มหนอง โรคสามารถหายเองได้ แต่ต้องระวังในหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงแท้ง
โรคผื่นกุหลาบ คืออะไร
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เตือน โรคผื่นกุหลาบ เป็นโรคผิวหนังมีอาการเฉียบพลัน ยังไม่มีสาเหตุแน่ชัด พบมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส ผื่นมีลักษณะเฉพาะ รูปร่างกลมหรือรี มีการกระจายเป็นแนวตามร่องบนผิว คล้ายกับลักษณะของต้นสน
โรคนี้ส่วนใหญ่เกิดในคนช่วงอายุ 10-35 ปี พบได้ในทุกเชื้อชาติ พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ผื่นมักเกิดอยู่นานประมาณ 6 – 8 สัปดาห์ สามารถหายได้เอง ผู้ป่วยบางรายอาจเป็นนานถึง 5 เดือนหรือมากกว่า ผู้ป่วยตั้งครรภ์ เป็นความเสี่ยงทำให้เกิดการแท้งได้ โดยเฉพาะช่วง 15 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
ทั้งนี้ การเกิดผื่นกุหลาบ มักเกิดขึ้นบริเวณลำตัวและมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ บางครั้งอาจพบบริเวณคอ หรือแขนขาส่วนบนได้ โดยมักจะเกิดนำผื่นอื่น ๆ เป็นชั่วโมงหรือวัน
ลักษณะเฉพาะ ผื่นกุหลาบ
ลักษณะเป็นผื่นเป็นสีชมพู สีแซลมอน หรือสีน้ำตาล อาจจะมีขอบยกเล็กน้อย ขนาดประมาณ 2-4 เซนติเมตร แต่บางกรณีอาจมีขนาด 1 เซนติเมตร หรือใหญ่ถึง 10 เซนติเมตร ตรงกลางของผื่นมีขุยขนาดเล็ก ขอบขยายใหญ่ขึ้น ประมาณ 5% ของคนไข้มีอาการนำมาก่อน เช่น ปวดหัว มีไข้ ปวดข้อ และปวดเมื่อย อาจพบตุ่มหนองเล็กๆ ในช่วงแรกของโรค มักไม่พบผื่นบริเวณหน้า มือและเท้า อาการคันในโรคผื่นกุหลาบพบได้ประมาณ 25%
ผื่นกุหลาบหายเองได้แต่ก็ต้องระวังภาวะแทรกซ้อน
สำหรับ ผื่นกุหลาบมักไม่มีอาการแสดงและสามารถหายได้เอง โดยไม่ทิ้งร่องรอย การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการเป็นหลัก การใช้ครีมชุ่มชื้นผิวที่เหมาะสม ร่วมกับยาทาสเตียรอยด์ หรือยากินในกลุ่ม antihistamines สามารถช่วยลดอาการคันได้ แต่ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง การรับประทานยาในกลุ่มสเตียรอยด์ช่วงสั้นๆ การฉายแสง UVB (Narrowband or broadband) สามารถช่วยควบคุมโรคได้
"ลักษณะของผื่นกุหลาบ ค่อนข้างคล้ายกับผื่นโรคอื่น ๆ และอาจสร้างความสับสนเกี่ยวกับอาการ และอาจทำให้ไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม หากรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกาย และเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและป้องกันการลุกลาม ไม่ว่าจะเป็นอาการผื่น หรืออาการอื่น ๆ ควรรีบเข้าพบแพทย์และทำการรักษาโดยด่วนที่สุด"