'รมช.มท.' จ่อยกระเบียบ มท.ใหม่ เยียวยาผู้ประสบภัยสงครามโดยเฉพาะ
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ช่วงกระทู้ถามสด นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ตั้งกระทู้ถามสดต่อมาตรการของรัฐบาลในการเยียวยาผลกระทบของประชาชน ผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากที่ลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชนที่เดือดร้อนพบว่าได้รับการเยียวยาไม่ทั่วถึง เท่าเทียม
โดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงว่าการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนรัฐบาลทำทันทีตั้งแต่การเกิดเหตุความขัดแย้ง อย่างไรก็ดีจากการสำรวจความเสียหาย พบว่า จ.สุรินทร์ มีบ้านเรือนเสียหาย 107 หลัง ซ่อนแล้ว 58 หลัง อยู่ระหว่างซ่อม 49 หลัง จ.อุบลราชธานี บ้านเสียหา 137 หลัง ซ่อมแล้ว 129 หลัง อยู่ระหว่างซ่อม 8 หลัง จ.บุรีรัมย์ บ้านเสียหาย 16 หลัง ซ่อมแล้ว 14 หลัง อยู่ระหว่างซ่อม 2 หลัง จ.ศรีสะเกษ บ้านเสียหาย 445 หลัง ซ่อมแล้ว 134 หลัง และอยู่ระหว่างซ่อม 311 หลัง อย่างไรก็ดีสำหรับบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลัง ไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ มีการช่วยเหลือของภาคเอกชน ซึ่งตนและร.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่นำมอบบ้านน็อคดาวน์ ที่ได้จาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มอบให้ประชาชนที่บ้านเสียหายทั้งหลัง ให้อยู่อาศัยระหว่างซ่อมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
น.ส.ธีรรัตน์ ชี้แจงต่อว่านอกจากนั้นยังอนุมัติช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ เดือน ก.ค.-ส.ค. แต่ที่ว่ามีบิลเก็บค่าไฟ อาจเป็นเพราะของเดือน มิ.ย. ที่ การไฟฟ้าเก็บย้อนหลัง ได้สร้างความเข้าใจกับการไฟฟ้าและประชาชนแล้ว ส่วนที่บางส่วนของเดือน ก.ค. เพราะบิลออกปลายเดือนมิ.ย. หรือ ต้น ก.ค. ได้ขอให้แก้ไขว่า หากประชาชนจ่ายเดือน ก.ค.แล้ว ให้ไปหักกลบกับเดือนถัดไปในอนาคต
“รัฐบาลได้สำรวจแต่ละพื้นที่มีจำนวนผู้ที่ต้องได้รับความช่วยเหลือ สำหรับพื้นที่ที่มีผู้อพยพ ในศูนย์พักพิงเกิน 15 วัน หรือ 7 วัน มีอัตราดูแลแตกต่างกัน โดยตั้งแต่เกิดเหตุเกือบ 1 เดือน สามารถทำให้ทำงานครบ ไม่ช้า หรือสะดุด สำหรับการช่วยเหลือตามลำดับขั้น แม้รัฐบาลจะอนุมัติเงินช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่ใช่แจกกราด หรือแจกให้หมด เพราะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ส่วนระเบียบที่เป็นอุปสรรคนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสามารถงดเว้นหลักเกณฑ์ได้” น.ส.ธีรรัตน์ ชี้แจง
ทั้งนี้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ยังได้เสนอแนะให้รัฐบาลปรับปรุงการทำงานให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน หลังจากที่พบว่าขั้นตอนในพื้นที่ล่าช้า ต้องพิสูจน์ทราบ เช่น บางจังหวัดที่พบหมูตาย ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องพิสูจน์ทราบว่า ตายเพราะเหตุระเบิดหรือตกใจเสียงประทัด นอกจากนั้นยังพบการตกหล่น ทั้งนี้ตนมีข้อเสนอให้ตั้งศูนย์สต็อปเซอร์วิสแบบสัญจร ตั้งโต๊ะตามหมู่บ้านเพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบร้องเรียนยื่นเรื่องที่จุดเดียวไม่ต้องเดินทางไปหลายหน่วยงาน รวมถึงนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ประชาชนได้รับความรวดเร็ว นอกจากนั้นในกลุ่มที่ตกหล่นเพราะไม่มีเอกสารสิทธิ ทะเบียนบ้าน รัฐบาลมีแนวทางแก้ไขอย่างไร
ซึ่งน.ส.ธีรรัตน์ ชี้แจงว่า ได้มอบหมายให้พื้นที่ดำเนินการรับเรื่องราวร้องทุกข์ วันสต็อปเซอร์วิส ทำอยู่แล้ว ที่มองว่าระบบราชการล่าช้า ตนพยายามปรับและราบรื่นในการทำงาน และแก้ไขสิ่งที่สร้างความสับสนให้กับประชาชน
“การแก้ไขระเบียบ ข้อบังคับที่เป็นอุปสรรคใช้ได้มีประสิทธิภาพ ต้องร่วมมือในสภา เพื่อทำงานต่อไป ทั้งนี้ต้องเขียนระเบียบเพื่อดูแลประชาชน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นภัยใหม่ ไม่เหมือนกับเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม น้ำท่วม ดังนั้นจึงใช้เกณฑ์เดิมไม่ได้ เพราะเป็นการอพยพ” น.ส.ธีรรัตน์ ชี้แจง