“กสทช.”จับมือ”เฟซบุ๊ก”หนุน “เอสเอ็มอี”ใช้เอไอเพิ่มยอดขายอีคอมเมิร์ซ
นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.ได้ร่วมกับ บริษัท เฟซบุ๊ก (ประเทศไทย) จำกัด เปิดหลักสูตรการฝึกอบรมด้านการตลาดดิจิทัล ผ่านศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ( USO Net) และห้อง USO WRAP จำนวน 2,184 ศูนย์ ทั่วประเทศ เพื่อให้ความรู้เรื่องการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล และร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับชุมชนออนไลน์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กให้มีความรู้ และสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ชายขอบ และพื้นที่ห่างไกล ตามภารกิจการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและเพื่อสังคม
สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดให้มี 9 นโยบายเร่งด่วนขับเคลื่อนสำนักงาน กสทช. โดย 1 ใน 9 นโยบายที่กำหนด คือ การส่งเสริม ศูนย์ยูโซ่ เน็ต จำนวน 2,184 แห่ง ทั่วประเทศ ให้เป็นอีคอมเมิร์ซ เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาต่อยอดอาชีพ และสร้างรายได้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพเชิงพาณิชย์ของชุมชน และสำหรับการทำการตลาดยุคดิจิทั สำหรับเนื้อหาหลักสูตรที่ทำการเผยแพร่มีเนื้อหาเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการการโฆษณา สำหรับเพิ่มศักยภาพธุรกิจด้านความเข้าใจ และสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม สามารถตั้งค่า ออกแบบขั้นตอน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค เข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึก เพื่อพัฒนาธุรกิจ ตอบสนองต่อการตลาด เข้าใจการสร้างแบรนด์ และสามารถกำหนดงบประมาณ กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลาย ผ่าน รีลส์ (Reels) ของ เฟซบุ๊ก
น.ส.ทาเบียร์ เอเธอร์ ผู้จัดการฝ่ายดำเนินงานโครงการนโยบายสาธารณะ ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกของ เมตา กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ไทยนับเป็นประเทศแรกในภูมิภาคที่นำหลักสูตรนี้มาขับเคลื่อนให้กับเอสเอ็มอีไทย ก่อนจะขยายไปสู่ประเทศอื่นๆในภูมิภาค โดยเฉพาะการนำ เอไอเข้ามาช่วยส่งเสริมการตลาดดิจิทัล ซึ่งการเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกเนื่องจาก เอสเอ็มอี ในประเทศไทยแข็งแรงมาก และปัจจุบันมีเอสเอ็มอี ใช้ช่องทาง รีลส์ของเฟซบุ๊ก ในการโฆษณาสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย รีลส์ มีจุดเด่นตรงทำให้คอนเทนต์สามารถกระจายได้ทั่วโลก แต่รีลส์ไม่ใช้ระบบแบบอีคอมเมิร์ซ ดังนั้นคนที่เข้ามาดู หรือ ธุรกิจที่ใช้ช่องทางนี้ในการโฆษณาจะสามารถเข้าสู่ช่องทางอีคอมเมิร์ซของสินค้านั้นๆได้โดยตรง ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมร้านค้า.
“โครงการพัฒนาทักษะของเรามีเป้าหมายเพื่อเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการรายย่อย และธุรกิจขนาดเล็กทั่วประเทศไทย รวมถึงในพื้นที่ห่างไกล โดยมอบเครื่องมือ การฝึกอบรม และการสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AIในการขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจ”
ทั้งนี้จากข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า จำนวน SME ในประเทศไทยมีอยู่จำนวน 3.2 ล้านราย คิดเป็น 99.5% ของสถานประกอบการทั้งหมด แบ่งเป็น วิสาหกิจขนาดเล็กมาก (Micro) 84%, วิสาหกิจขนาดย่อม (Small) 14%, และวิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) 1%