แอตต้า รับหลายปัจจัยลบฉุดมู้ดท่องเที่ยว หวังไฮซีซั่น 3 เดือนสุดท้ายฟื้นตัวแตะ 3 ล้านคน
แอตต้า รับหลายปัจจัยลบฉุดมู้ดท่องเที่ยว หวังไฮซีซั่น 3 เดือนสุดท้ายฟื้นตัวแตะ 3 ล้านคน
นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวไทย ณ เวลานี้ต้องบอกว่า เหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา ที่ยังไม่สงบอย่างแท้จริง และกรณีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่ถูกจุดไฟเผาในไทยนั้น มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในการตัดสินใจเข้ามาเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติแน่นอน แต่ในตลาดระยะไกล โดยเฉพาะช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) เดือนตุลาคมเป็นต้นไป อาทิ ตลาดตะวันออกกลาง ยังมีแนวโน้มดีอยู่ แต่ตลาดระยะใกล้ที่มีสัดส่วนมากกว่า และมีความอ่อนไหวมากกว่า อาทิ จีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ที่ใช้ภาษาจีนในการสื่อสาร รวมถึงอาเซียน ตลาดเหล่านี้ถูกกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นายอดิษฐ์ กล่าวว่า ประเมินทั้งปี 2568 น่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยอยู่ประมาณ 34-35 ล้านคน ตลาดจีนก็น่าจะยืนหยัดอยู่ที่ 5 ล้านคน หลังจากเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เป็นต้นมา ตัวเลขรายวันของตลาดจีนที่เข้ามาเที่ยวไทยเริ่มปรับดีขึ้น แม้มีผลกระทบจากคลิปนักมวยไทยทำร้ายนักท่องเที่ยวมาเลเซียเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ แต่ด้านตัวเลขตอนนี้เรามองว่าเลยจุดต่ำสุดมาแล้ว จึงไม่น่าที่จะตกต่ำมากกว่านี้แล้ว ฉะนั้นจำนวน 5 ล้านคนในปีนี้น่าจะเป็นไปได้อยู่ เพราะหากเทียบกับช่วงไฮซีซั่น 3 เดือนสุดท้ายของปี (ตุลาคม-ธันวาคม) จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเฉลี่ยประมาณ 2.5-3 ล้านคนต่อเดือน แม้ยังกลับไปไม่เท่าปี 2562 ก่อนเกิดโควิด ที่มีเข้ามาประมาณ 3.2 ล้านคนต่อเดือน แต่เชื่อว่าจะมีต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้นตามช่วงฤดูกาล
นายอดิษฐ์ กล่าวว่า การทำตลาดในตอนนี้ การเข้าไปกระตุ้นผ่านโครงการหรือแคมเปญต่างๆ ก็ทำกันมาอย่างต่อเนื่องแล้วทั้งภาครัฐและเอกชน จึงมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ การลบภาพข่าวเชิงลบ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น จะทำอย่างไรให้ภาพไม่แพร่สะพัดออกไปในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวางเหมือนที่ผ่านมา เพราะประเด็นเรื่องความไม่เชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของประเทศไทย เริ่มต้นมาจากภาพเชิงลบที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ฉะนั้นตอนนี้สิ่งที่เราควรจะทำอย่างแรกคือ ทำอย่างไรให้ข่าวภาพลบรายวันที่เกิดขึ้นลดลงให้น้อยที่สุด และจำกัดอยู่ในวงแคบที่สุด เพราะจากที่เดินทางไปหลายประเทศ อาทิ จีน คุยกับผู้ประกอบการพบว่า ในจีนก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวกรณีเชิงลบต่างๆ หลายประเทศก็มีเช่นกัน แต่สามารถแก้ไขอย่างรวดเร็วและควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด จนไม่เกิดการบานปลายไปอยู่ในข่าวเชิงลบ หรือเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ได้
“อย่างที่รัฐบาลจีนพูดว่า เขาไม่ได้ดูดุลการค้าหรือเสียเปรียบนักท่องเที่ยวจำนวนมากน้อยเท่าใด แต่สิ่งที่ต้องการมี 2 เรื่อง คือ 1.เรื่องความปลอดภัย 2.คุณภาพการบริการที่นักท่องเที่ยวควรได้รับ หมายถึงเมื่อนักท่องเที่ยวจากประเทศเขาเข้ามาเที่ยวไทยแล้ว ต้องได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงได้รับความยุติธรรม หรือความซื่อสัตย์ในการให้บริการจากผู้ประกอบการไทย เพื่อให้มีความเชื่อมั่นเกิดขึ้น ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ ตอนนี้จึงมองว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเน้นทำในบ้านเราให้ดีที่สุด เพื่อให้เรายืนยันกับต่างชาติได้ว่าประเทศไทยปลอดภัยจริงๆ และนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีกลับไปบอกต่อ ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ที่เห็นผลชัดเจนที่สุด” นายอดิษฐ์ กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แอตต้า รับหลายปัจจัยลบฉุดมู้ดท่องเที่ยว หวังไฮซีซั่น 3 เดือนสุดท้ายฟื้นตัวแตะ 3 ล้านคน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th