3โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน
#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ทรัมป์-ปูตินจบการหารือเบื้องต้น มีแนวโน้มปูทางนำไปสู่การหยุดยิง 22 ส.ค. นี้ ทรัมป์เตรียมจัดประชุมสุดยอดไตรภาคี สหรัฐฯ-รัสเซีย-ยูเครน เพื่อทำข้อตกลงหยุดยิง หากการประชุมสำเร็จความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์จะลดลง และจะเป็นก้าวสำคัญในการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีครึ่ง และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจโลก
-วันที่ 21–23 ส.ค. นี้ ติดตามการประชุม Jackson Hole Economic Symposium ตลาดให้ความสำคัญกับการกล่าวสุนทรพจน์ของพาวเวล ช่วง22 ส.ค. นี้ เวลา21.00 น. ตามเวลาไทย ซึ่งเฟด ยังคงกังวลกับภาวะการจ้างงานที่ชะลอตัว และเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ดังนั้นหากเฟด มีมุมมองไปในทางว่าเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะ Stagflation (เงินเฟ้อสูง แต่เศรษฐกิจชะงัก) อาจทำให้การลดดอกเบี้ยเป็นไปอย่างระมัดระวัง ล่าสุด CME Fed Watch Tool ให้น้ำหนักเฟดลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. เหลือ 84.6% จากสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักสูงถึง 92.1%
-สนง.สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงาน GDP 2Q68 ขยายตัว +2.8%YoYสูงกว่าคาดที่ 2.7% และ +0.60%QoQ คาดที่ 0.5% มีแรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน(+2.1%YoY), การลงทุนภาครัฐ (+10.1%YoY), การลงทุนเอกชน (+4.1%YOY), การใช้จ่ายภาครัฐ (+2.2%YoY), การส่งออก (+12.2%YoY) ทำให้เศรษฐกิจไทย 1H68 ขยายตัว +3.0%ซึ่ง สศช. ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 2.0% (1.8 –2.3%) เดิมคาด
1.8% (1.3 – 2.3%) ปัจจัยหนุนจากรายจ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุน การบริโภคขยายตัว และการลงทุนภาคเอกชนดีขึ้นช่วง 1H68 รวมถึงนโยบาย Reciprocal Tariff ชัดเจนขึ้น
-แนะหุ้นพื้นฐานรับแรงหนุนขับเคลื่อน GDP อาทิCK STECON TASCO SCC BEM หุ้นได้ ประโยชน์นโยบายการเงิน อาทิ MTC SAWAD TIDLOR ICHI SPALI
-คาด SET INDEX บ่ายนี้วิ่งช่วง 1,244-1,264 จุด
บล.เอเอสแอล ระบุว่าตลาดหุ้นภาคเช้าปรับตัวลง จากแรงขายหุ้น DELTA ที่ได้รับผลกระทบจากรัฐบาลทรัมป์เดินหน้าขยายมาตรการภาษี โดยเตรียมเก็บภาษีนำเข้าชิปเซมิคอนดัเตอร์, แรงขายทำกำไรในหุ้น THAI หลังปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง , หุ้น AOT ที่ตัวเลขนักท่องเที่ยว MTD ลดลง 6.3% YoY และหุ้น PTTEP ที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่อ่อนตัวลง หลังการเจรจาสหรัฐกับรัสเซียยังไม่ได้ข้อสรุป
ส่วนปัจจัยในประเทศ ล่าสุดสภาพัฒน์เผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/68 โต 2.8% ชะลอตัวลง QoQ ทั้งนี้ได้ปรับเป้าจีดีพี ปี 2568 เพิ่มเป็นโต 1.8-2.3% จากเดิม 1.3-2.3% โดยปรับขึ้นจากแรงหนุนด้านการส่งออก และการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มฟื้นตัว
กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นรูปแบบ Three black crows reversal มีโอกาสปรับตัวลงต่อทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1,245 และแนวรับหลักขาขึ้น EMA 200 วันที่ 1,240 จุดไม่ควรต่ำกว่า
บล.โกลเบล็ก ระบุว่าดัชนีลดช่วงลบหลังสภาพัฒน์เผย GDP ไตรมาส2/68 ออกมาที่ 2.8% ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.5-2.7% อย่างไรก็ตามความกังวลเรื่องศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเรื่องนายกฯ ในวันที่ 29 ส.ค. อีกทั้งหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่เริ่มพักฐานเป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม โดยตลาดหุ้นภาคบ่ายดัชนีมีแนวรับ 1,247 จุด ส่วนแนวต้าน 1,260 จุด
ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้าดัชนีปรับตัวลง จากแรงขายกดดันนำโดยหุ้นกลุ่มขนส่ง อาทิ THAI และ AOT ขณะที่สภาพัฒน์ฯ เผยตัวเลข GDP ไตรมาส 2/68 ขยายตัว 2.8% จากตลาดคาด 2.5-2.7% แต่ชะลอตัวจากไตรมาส 1/68 ส่งผลให้ดัชนีพักเที่ยงปิดตลาดที่ 1,254.70 จุด ลบ 4.72 จุด หรือ 0.37% มูลค่าการซื้อขาย 20,142.39 ล้านบาท