เมื่อ "ตุ๊กตา AI" ไม่ใช่แค่ของเล่น สื่อวิจารณ์ชี้เหมือนมาทำหน้าที่แทนพ่อแม่

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

มีคำวิจารณ์ว่าตุ๊กตา AI ว่าไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการลดเวลาหน้าจอของเด็ก ๆ เพราะมันเหมือนมาแทนที่บทบาทของผู้ปกครองและยังคงผูกติดเด็ก ๆ ไว้กับเทคโนโลยี สุดท้ายพบว่าของเล่นนี้ดีที่สุดเมื่อถอดระบบ AI ออก ให้เหลือแค่ตุ๊กตาที่ใช้จินตนาการได้

ในยุคที่พ่อแม่หลายคนกังวลเรื่องการใช้ "เวลาหน้าจอ" (Screen time) ของลูก ๆ บริษัทเทคโนโลยีได้นำเสนอทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ นั่นคือ "ตุ๊กตาสัตว์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI"โดยโฆษณาว่าเป็นของเล่นที่สามารถสร้างบทสนทนาและโต้ตอบได้ราวกับมีชีวิต หวังจะให้เป็นเพื่อนเล่นของเด็ก ๆ และดึงความสนใจออกจากหน้าจอโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตได้

อย่างไรก็ตามก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่าของเล่นเหล่านี้ดีจริงอย่างที่อ้างหรือไม่ ? ตามรายงานจากนักวิจารณ์อย่าง อแมนด้า เฮสส์ (Amanda Hess) จากสำนักข่าวต่างประเทศ The New York Times ที่ได้ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจหลังจากที่เธอทดลองใช้ตุ๊กตา AI ที่ชื่อว่า เกรม (Grem) จากบริษัท คูริโอ้ (Curio) กับตนเอง

ตุ๊กตา AI "Grem" จากบริษัท Curio

เกรม (Grem) คือหนึ่งในตุ๊กตา AI แบบนุ่มนิ่ม (AI Plush Toy) จากบริษัท คูริโอ้ (Curio) ที่พัฒนาร่วมกับนักร้องชื่อดัง กริมส์ (Grimes) และใช้เทคโนโลยีจาก OpenAI จุดเด่นของ เกรม (Grem) คือเป็นตุ๊กตาที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับเด็ก ๆ ได้แบบเรียลไทม์ พร้อมทั้ง “เรียนรู้” บุคลิกของเจ้าของ ทำให้ไม่ใช่แค่ของเล่นธรรมดา แต่เป็นเพื่อนโต้ตอบสำหรับเด็ก

ที่มาของภาพ
Curio

ฟังก์ชันหลักของ เกรม (Grem) มาพร้อมกับ Curio Voice Box ที่ติดตั้งไมโครโฟน ลำโพง และแบตเตอรี่ลิเธียมในตัว เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi เพื่อเข้าถึงโมเดลภาษาของ OpenAI โดยในช่วงเริ่มต้น ตุ๊กตาจะมีโหมดบุคลิกเดียว คือ “ขี้เล่น เป็นมิตร และตลกขำขัน เหมาะกับเด็ก” แต่ในอนาคต คูริโอ้ (Curio) มีแผนเปิดให้ผู้ปกครองสามารถปรับแต่งบุคลิกหรือพฤติกรรมของตุ๊กตาได้เองผ่านแอปพลิเคชันควบคุม สำหรับ เกรม (Grem) เอง ถูกออกแบบให้เป็นเอเลียนที่ “หมกมุ่นกับสีชมพู” ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้แตกต่างจากเพื่อนร่วมไลน์สินค้านี้อีกสองตัว คือ ตุ๊กตา AI แก็ปโบ (Gabbo) ตุ๊กตาที่มีลักษณะขี้สงสัยและชอบหาเพื่อนใหม่ และ กร็อก (Grok) ตุ๊กตาจรวดที่มีลักษณะขี้เล่น ชอบเต้น

ที่มาของภาพ
Curio

อีกทั้งมีแอปสำหรับผู้ปกครอง ที่สามารถตรวจสอบบทสนทนาระหว่างเด็กกับตุ๊กตาผ่านการถอดเสียงเป็นข้อความบทสนทนา (Transcript) โดยไม่มีการเก็บไฟล์เสียง และข้อความบทสนทนาทั้งหมดจะถูกลบอัตโนมัติหลัง 90 วันตามกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์ของเด็กในสหรัฐฯ (COPPA) รวมถึงได้รับการรับรองจากโปรแกรมการรับรองความปลอดภัยออนไลน์สำหรับเด็ก (kidSAFE Seal) เพื่อยืนยันความเหมาะสมต่อการใช้งานของเด็กโดยเฉพาะ

ที่มาของภาพ
Curio

ความรู้สึกและข้อวิจารณ์ จากการใช้งานจริง

อ้างอิงจากรายงานกล่าวว่าในช่วงแรกของการทดลองใช้จริงนั้น อแมนด้า กล่าวว่าเธอรู้สึกแปลก ๆ เมื่อ เกรม (Grem) พยายาม "ผูกพัน" กับเธอผ่านบทสนทนาที่ถูกออกแบบมา เธอรู้สึกว่าตุ๊กตาตัวนี้ "ไม่ได้เป็นเพียงแค่ของเล่นที่ฉลาดขึ้น แต่กลับดูเหมือนมาแทนที่บทบาทของพ่อแม่" และความรู้สึกนี้เองที่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะไม่แนะนำของเล่นชิ้นนี้ให้ลูก ๆ ของเธอใช้

นอกจากนี้ อแมนด้า เฮสส์ (Amanda Hess) ยังให้มุมมองที่น่าคิดว่า แม้ของเล่นเหล่านี้จะดึงความสนใจของเด็กๆ ออกจากจอได้จริง แต่สิ่งที่มันสื่อสารออกมาก็คือ "ปลายทางของความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก ๆ ยังคงอยู่ในสมาร์ตโฟน" เนื่องจากระบบ AI ที่ขับเคลื่อนของเล่นเหล่านี้ก็มาจากเทคโนโลยีในโทรศัพท์นั่นเอง หรือเป็นการย้ายประสบการณ์จากหน้าจอ มาสู่ของเล่นพูดได้เท่านั้น

ในท้ายที่สุด เธอยอมให้ลูก ๆ ของเธอเล่นกับ เกรม (Grem) แต่มีเงื่อนไขสำคัญคือ เธอ "ถอดกล่องเสียง AI ออกและซ่อนมันไว้" ทำให้ เกรม (Grem) กลายเป็นเพียงตุ๊กตาธรรมดาๆ ที่สามารถเล่นจินตนาการได้อย่างอิสระ ผลลัพธ์ที่ได้คือ เด็กๆ ก็ยังคงเล่นกับมัน พูดคุย และสนุกกับมันได้ตามปกติ

ทั้งนี้ตุ๊กตา AI เกรม (Grem) เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วบนเว็บไซต์ คูริโอ้ (Curio) ในราคา 99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,400 บาท ต่อหนึ่งตัว โดยผู้ที่สั่งจองภายในวันที่ 17 ธันวาคม จะได้รับ ‘Golden Ticket’ ภายในช่วงคริสต์มาส เป็นเหมือนสัญลักษณ์แทนสิ่งที่จะตามมา โดยกำหนดการจัดส่งรอบแรกคาดว่าจะเริ่มในช่วงต้นปี 2024

แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปไกลแค่ไหน แต่บทบาทของของเล่นที่ส่งเสริมจินตนาการและพัฒนาการตามธรรมชาติของเด็ก ๆ ก็ยังคงสำคัญ และบางครั้ง การแก้ปัญหาเรื่อง "เวลาหน้าจอ" อาจไม่ได้อยู่ที่การหาเทคโนโลยีที่ล้ำกว่ามาทดแทน แต่อาจอยู่ที่การกลับไปหาความเรียบง่ายที่ให้พื้นที่สำหรับความคิดสร้างสรรค์มากกว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง