อึ้ง! กต.เผยปี 60 กัมพูชาชักธงชาติที่บ้านหนองจาน-ไทยประท้วงแต่ไม่สน
วันที่ 22 ส.ค. 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดสถานการณ์ไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับพื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว นั้นว่า จากกรณีที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าฝ่ายไทยวางลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยของกัมพูชา นั้น ในเรื่องนี้กองทัพบกและกระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงแล้ว อย่างไรก็ดี เรายังคงพบเห็นการแสดงความเห็นในเรื่องนี้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งจากพี่น้องประชาชนฝั่งไทย และทางฝั่งกัมพูชา ซึ่งต่างฝ่ายก็ต่างกล่าวว่าพื้นที่ดังกล่าวนี้อยู่ในอธิปไตยของตน
นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า ตามที่ตนได้เคยชี้แจงไปก่อนหน้านี้ ว่าพื้นที่บ้านหนองจาน เดิมเคยใช้เป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราวของชาวกัมพูชาที่หนีภัยสู้รบในอดีตเข้ามาในประเทศไทย และต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้ขยายชุมชนออกไป ถือเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ปี 2543 ซึ่งไทยได้คัดค้านและดำเนินการประท้วงการล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทยมาโดยตลอด แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ตอบสนองใดๆ
ในส่วนของการวางลวดหนามในเขตไทยนั้น ก็เป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย เป็นไปเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการเข้ามาวางทุ่นระเบิดโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวของไทยนี้ไม่ขัดต่อข้อตกลง จากการประชุม GBC สมัยวิสามัญที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะละเว้นจากการก่อสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร หรือการเสริมความมั่นคงของที่ตั้งทางทหารที่ล้ำออกไปนอกเขตของฝ่ายตน
ด้าน นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ชี้แจงว่า บ้านหนองจานตั้งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ซึ่งเป็นแนวเขตแดนที่เป็นไปตามความตกลงสยามฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1907 มีแนวเป็นเส้นตรง เมื่อปี 2524 ไทยก็อนุญาตให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNSCR) จัดตั้งศูนย์อพยพชั่วคราวขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อเหตุผลทางมนุษยธรรม ให้กับชาวกัมพูชาที่หนีภัยสงครามกลางเมืองภายในประเทศกัมพูชาเอง ทั้งนี้ก็เป็นไปตามที่ UNSCR ร้องขอ โดยทหารไทยก็ได้จัดทำแนวรั้วเพื่อจำกัดเขตดังกล่าว แต่เมื่อสงครามยุติลงแล้ว ในช่วงปี 2542 แต่ชาวกัมพูชากลุ่มนั้น ซึ่งหนีภัยสงครามมาอยู่ก็ยังได้เข้าก่อสร้าง ที่อยู่อาศัยขยายที่ดินทำกิน จนขยายออกมานอกแนวรั้วที่เราเห็นกันอยู่จนปัจจุบันนี้
ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายไทยก็ได้ จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาปักปันเขตแดนของ สมช. เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้มีการหารือเกี่ยวกับปัญหานี้รวม 4 ครั้ง ซึ่งที่ประชุมก็มีมติ ให้ดูแลเพื่อไม่ให้ราษฎรชาวกัมพูชาขยายพื้นที่ทำกิน และหารือเจรจาร่วมกับฝ่ายกัมพูชาอย่างสันติ รวมทั้งเร่งรัดการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในบริเวณดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 28-30 ส.ค. 2545 ทางกระทรวงการต่างประเทศ และกรมแผนที่ทหาร ก็ได้มีการหารือร่วมกับ นายวาคิมฮอง ประธาน GBC ของกัมพูชา ณ ขณะนั้น โดยฝ่ายไทยขอให้ราษฎรของกัมพูชาย้ายออกไป แต่ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่าจะต้องขอตรวจสอบแนวที่แน่ชัดของหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ก่อน และเมื่อเดือน ก.ย. 2560 ทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้มีหนังสือประท้วงฝ่ายกัมพูชา กรณีการขยายตัวของชุมชนบริเวณบ้านหนองจาน และยังพบว่ามีการชักธงชาติกัมพูชา และจัดตั้งหน่วยงานทางการของกัมพูชาในพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และละเมิดข้อ 5 ของ MOU 2543 จึงขอให้ปลดธงชาติและย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีหนังสือตอบกลับหรือโต้แย้งแต่อย่างใด
ทั้งหมดนี้สรุปได้ว่าพื้นที่บ้านหนองจาน เป็นพื้นที่ของไทย โดยไทยอนุญาตให้ชาวกัมพูชา ที่หนีบไทยสงครามช่วงเขมรแดงมาอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม การที่ชุมชนกัมพูชาขยายตัวเพิ่มขึ้นนั้น ไทยไม่ได้ยอมรับ และไม่กระทบกับการปักปันเขตแดนที่ยังดำเนินอยู่ระหว่างไทยกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และที่ผ่านมา ก็ไม่ได้เป็นประเด็นทางสังคมในวงกว้าง เนื่องจากฝ่ายไทยรับทราบมาตลอดว่าให้ชาวกัมพูชาที่หนีภัยเข้ามาอาศัยอยู่ชั่วคราว แต่เมื่อฝ่ายกัมพูชาปัจจุบันออกมากล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ฝ่ายไทยต้องประท้วง และก็ชี้แจงข้อเท็จจริงในวันนี้
นายเบญจมินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาไทยได้มีการประท้วงกัมพูชาตลอดเวลาในหลายจุดที่มีการล่วงล้ำเขตแดนไทย แต่ก็ไม่ได้ตอบรับที่ดีหรือนิ่งเฉยจากฝ่ายกัมพูชา ดังนั้น เราก็คงต้องปฏิบัติไปตามหลักสากลก่อน โดยแสดงจุดยืนและท่าทีของเราให้ชัดเจนว่าจุดใดที่เห็นว่ากัมพูชาร่วงล้ำเข้ามา เราก็ทำการประท้วง และการประท้วงของไทยก็ไม่ได้ทำโดยไม่มีหลักฐานทางกฎหมาย เนื่องจาก MOU ปี 2543 หรือ MOU 2000 ก็พูดชัดเจนว่าไม่ควรจะมาทำให้พื้นที่ที่ยังไม่ชัดเจนไปเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ ซึ่งก็เป็นข้อห้ามที่ชัดเจนอยู่แล้วในความตกลงกัน และขณะนี้เรากำลังรอคำตอบการประชุมออตตาวา ที่เจนีวา ซึ่งเรามีการดำเนินการผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อแจ้งการกระทำที่ไม่เป็นไปตามความตกลง คือ ไม่ผลิต ไม่นำมาใช้ซึ่งทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยไทยได้ดำเนินการไปแล้ว ขณะนี้ก็กำลังรอผลการดำเนินการ และการตรวจสอบของการประชุมออตตาวา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อึ้ง! กต.เผยปี 60 กัมพูชาชักธงชาติที่บ้านหนองจาน-ไทยประท้วงแต่ไม่สน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com