UKEM รุกขยายฐานอีอีซี มาร์จิ้นพุ่ง-งบพลิกกำไร
#UKEM #ทันหุ้น – UKEM พร้อมปักหมุดขยายโซน EEC รองรับนักลงทุนต่างชาติตั้งฐานผลิต อวดผลงานไตรมาส 2/2568 พลิกกำไร 308% แตะ 15.06 ล้านบาท รับอานิสงส์กุล่มแพ็กเกจจิ้ง บริหารต้นทุนสต๊อกได้ดี หนุนมาร์จิ้นพุ่งขึ้น ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังโตต่อ
นายพีรพล สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ UKEM เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ภาพรวมธุรกิจเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้า Packaging ที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในไตรมาส 2/2568 ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อรองรับการเติบโตของฐานการผลิตและนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมของปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับผลประกอบการของบริษัทเริ่มกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น โดยหลักๆ มาจากการเพิ่มมาร์จิ้น ในบางส่วน ซึ่งเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 ลูกค้ากลุ่ม Packaging เป็นกลุ่มหลักที่ได้รับอานิสงส์จากการเร่งผลิต เนื่องมาจากประเด็นด้านภาษี ซึ่งช่วยกระตุ้นการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา
** โอกาสตลาดอีอีซี
สำหรับทิศทางในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ผลจากประเด็นภาษีจะเริ่มคลายตัวลง แต่บริษัทยังคงมองเห็นโอกาสจากการที่ลูกค้าบางกลุ่มยังคงเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC (Eastern Economic Corridor) นักลงทุนต่างชาติยังคงเข้ามาเปิดโรงงานในพื้นที่นี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี บริษัทได้ดำเนินการซื้อที่ดินและขยายพื้นที่คลังสินค้าที่แหลมฉบังเสร็จเรียบร้อยและเริ่มเปิดใช้งานแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในส่วนของธุรกิจรีไซเคิล ซึ่งได้เตรียมพื้นที่ไว้แล้วและคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในไตรมาสหน้า
การขยายธุรกิจสู่ EEC ถือเป็นช่องทางใหม่ที่สำคัญ โดยบริษัทมุ่งเน้นไปที่ตัว Terminal ใหม่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นอีกหนึ่งศูนย์กระจายสินค้าและจัดจำหน่ายในโซนดังกล่าว การที่ลูกค้าจำนวนมากเริ่มย้ายฐานการผลิตจากกรุงเทพฯ ไปยัง EEC ทำให้บริษัทมองเห็นดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งจากนิคมอุตสาหกรรมใหม่และผู้ที่ซื้อที่ดินนอกนิคม
ในส่วนของธุรกิจอื่นๆ เช่น บริการที่ปรึกษาด้านคาร์บอนนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มดำเนินการเอง ทำให้ธุรกิจนี้ไม่ได้มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมากนัก และบริษัทไม่ได้มีการลงทุนจำนวนมากในส่วนนี้ โดยเน้นการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อ ยังคงมีข้อจำกัดด้านวงเงิน เนื่องจากความกังวลเรื่องความเสี่ยงของผู้ให้สินเชื่อ
** ผลงานพลิกกำไร
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทและบริษัทย่อย กำไรสุทธิ 15.06 ล้านบาท และ 30 มิถุนายน 2567 ขาดทุนสุทธิ 7.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 22.27 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 308.86 เนื่องจากกการบริหารจัดการสต๊อกสินค้าได้ดีควบคุมต้นทุนสินค้าเฉลี่ยลดลงและขายสินค้าในราคาโดยเฉลี่ยได้สูงขึ้น ทำให้กำไรขั้นต้นสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีการควบคุมค่าใช้จ่ายลดลง ซึ่งสัมพันธ์กับการขายที่ลดลง ทำให้มีกำไรสุทธิใน 3 เดือนสูงขึ้น
ส่วนงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 30.51 ล้านบาท และ 30 มิถุนายน 2567 มีกำไรสุทธิ 1.93 เพิ่มขึ้น 28.58 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1,480.83 เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนสินค้าและการจัดเก็บสินค้าเพื่อขายมีต้นทุนขายเฉลี่ยที่ต่ำในไตรมาส 1/2568 และนำมาจำหน่ายในไตรมาส 2/2568 ที่มีราคาขายเฉลี่ยที่มีการปรับราคาที่สูงขึ้นโดยเฉพาะสินค้าที่ขายเป็นหลักของบริษัท อันได้แก่ กลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์ทั่วไปประเภทโซลเวนต์และกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์พิเศษ ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น