SSP ส่งซิกโค้ง 3 ฟอร์มดี ชูธงขยายพอร์ต 400 เมก
#SSP#ทันหุ้น- SSP พ้นจุดต่ำสุด ส่งซิกQ3/2568 ฟอร์มแจ่ม เก็บเกี่ยวลมต่อเนื่อง-ไร้ปัจจัยปิดซ่อมกดดัน ด้านผู้บริหาร “ชยุตม์ หลีหเจริญกุล” เผยอัดฉีดงบ 2.6 หมื่นล้านบาท เดินปั๊มกำลังผลิตใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 400 เมกะวัตต์ หวังเสริมพอร์ตรับทรัพย์ ปูทางหนุนกำลังผลิตแตะ 1 กิ๊กกะวัตต์ ภายในปี 2575
นายชยุตม์หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงินบริษัทเสริมสร้างพาวเวอร์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือSSP เปิดเผยว่า บริษัทมองภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2568 น่าจะเป็นช่วงจุดต่ำสุดของปีนี้ และคาดน่าจะเห็นแนวโน้มรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าโดยรวมปรับตัวดีขึ้น จากปริมาณการขายไฟฟ้าจากโครงการพลังงานลมในส่วนของ “วินชัย” เริ่มฟื้นตัว หลังผ่านช่วงโลว์ซีซันไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา นอกเหนือ จากโครงการผลิตไฟอื่นๆ ที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีรวมทั้งยังไม่มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าในบางโครงการในดังเช่นช่วงที่ผ่านมา
ควัก2.6หมื่นล.ต่อยอด
ขณะที่ปัจจุบันทาง SSP มีกำลังผลิตและติดตั้งรวมราว 340 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้า (PPA) อยู่ที่ราว 285 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการผลิตไฟฟ้าจากแผงเซลแสงอาทิตย์ (โซลาร์) ประมาณ 56%, โครงการพลังงานลม 27% และที่เหลือมาจากส่วนอื่นๆ รวมทั้งมีแนวทางขยายฐานโครงการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมรายรับในอนาคต
ขณะที่งบลงทุนในปี 3 ปีข้างหน้า (ปี 2569-2571) บริษัทวางไว้ประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท รองรับการพัฒนาโครงการใหม่ทั้งในและต่างประเทศ คิดเป็นกำลังผลิตรวมไม่ต่ำกว่า 400 เมกะวัตต์ (MW)ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลม“บาโก” ในประเทศฟิลิปปินส์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง150เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้าแปรรูปขยะชุมชนในไทยจำนวน2 โครงการขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม19.8เมกะวัตต์ ฯลฯ ซึ่งจะทยอยก่อสร้างเสร็จและเปิดผลิตขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่ปีหน้าต่อเนื่องถึงปึ 2571
จ่อบุ๊กขายไฟ LEO 2
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มLEO 2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง22เมกะวัตต์ในประเทศญี่ปุ่นล่าสุดมีความคืบหน้าในการก่อสร้างเร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้โดยคงจะเตรียมพร้อมที่จะขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) ช่วงต้นไตรมาส4/2568 และจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันทีช่วยสนับสนุนรายได้จากการขายไฟฟ้าของบริษัทให้ขยายตัว
อย่างไรก็ดีหากแผนการขยายกำลังผลิตต่างๆ และการเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ หลังจากนี้สำเร็จได้ตามที่วางไว้ ทาง SSP คาดคงจะได้เห็นกำลังผลิตไฟฟ้าและติดตั้งรวมขยับขึ้นไปสู่ระดับ 1 กิกะวัตต์(GW) ได้ในปี 2575
ศึกษาขายโรงไฟฟ้าญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ล่าสุดประชุมคณะกรรมการของบริษัท(บอร์ด) ได้อนุมัติการศึกษาความเป็นไปได้ในการจําหน่ายสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการยามากะประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การบริหารการลงทุนของบริษัท
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน(Solar Farm) ตั้งอยู่ในจังหวัดคุมาโมโต้ประเทศญี่ปุ่นมีขนาดกําลังการผลิตติดตั้ง 34.5เมกะวัตต์โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้แก่Kyushu Electric Power Co., Inc. เป็นระยะเวลา20ปีโดยโครงการดังกล่าวได้เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ตั้้งแต่วันที่30พฤษภาคม2563ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าบริษัทจะมีการแจ้งเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งเบื้องต้นหากมีการขายเกิดขึ้นจริงคงจะมีการนำเงินที่ได้ไปใช้รองรับการพัฒนาโครงการต่างๆ ต่อเนื่อง