กสทช.จ่อคลอด 'แพ็กเกจมือถือธงฟ้า' เคาะราคา 210 บาทคาดได้ใช้สิ้นปี
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ “แพ็กเกจมือถือธงฟ้า” เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ประชาชนเข้าถึงบริการพื้นฐานด้านโทรคมนาคมนั้น
ขณะนี้ สำนักงาน กสทช.ได้รับมอบหมายให้จัดทำข้อเสนอและสเปกราคาค่าบริการ ทั้งค่าโทรและอินเทอร์เน็ต เพื่อเตรียมเสนอเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในเร็ว ๆ นี้ และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในไตรมาส 4/2568
“เดิมเรากำหนดราคาแพ็กเกจขั้นต่ำที่ 240 บาทต่อเดือน แต่ส่วนตัวอยากให้มีการปรับลงมาเหลือสัก 210 บาท เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ เพราะยังคงอยู่ในกรอบราคาขั้นต่ำที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว” นายไตรรัตน์ กล่าว
โดยประเด็นนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ที่ประชุมบอร์ด กสทช. ครั้งที่ 20/2568 ได้พิจารณาเรื่องสำคัญหลายประเด็น รวมถึงวาระ 4.44 ว่าด้วยแนวทางการกำหนดและกำกับดูแลโครงสร้างอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศ ซึ่งเป็นการปรับปรุงประกาศที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2563 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งด้านต้นทุนตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค
สำนักงาน กสทช.เสนอให้ปรับโครงสร้างค่าบริการใหม่ โดยแพ็กเกจธงฟ้าซึ่งเป็น“แพ็กเกจเริ่มต้น” ควรถูกลงจากเพดานเดิม 240 บาท โดยกำหนดสิทธิพื้นฐานเฉพาะบริการเสียงและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ไม่รวม SMS และ MMS ที่ไม่เป็นที่นิยมแล้ว เพื่อให้ตรงกับการใช้งานจริงของประชาชนในปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังใช้ข้อมูลรายรับเฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (ARPU) มาประกอบการคำนวณเพื่อให้ราคาเหมาะสมยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเสนอให้ผู้ให้บริการมือถือทุกรายจัดทำแพ็กเกจธงฟ้าอย่างน้อย 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบจ่ายตามการใช้งาน (Pay Per Use) และแบบเหมาจ่ายรายเดือน (Flat Rate) เพื่อสร้างทางเลือกที่หลากหลายแก่ผู้บริโภค พร้อมรักษาสมดุลการแข่งขันอย่างเป็นธรรมในอุตสาหกรรม
นายไตรรัตน์ย้ำว่า การปรับปรุงในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การลดราคา แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ที่สะท้อนต้นทุนจริงของผู้ให้บริการ เสริมความโปร่งใส และเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมไทย โดยหลังจากนี้ สำนักงาน กสทช.จะเร่งยกร่างประกาศฉบับใหม่เพื่อเสนอตามขั้นตอนที่กำหนด
แพ็กเกจธงฟ้า 210 บาทต่อเดือน จะเป็นเหมือนสินค้าธงฟ้าในตลาดโทรคมนาคม ที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ให้เข้าถึงบริการพื้นฐานในราคาย่อมเยา ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพและการแข่งขันที่เป็นธรรม