รวบโจรแสบย่องลัก “หม้อแปลงไฟฟ้า” ก่อเหตุโชกโชน 58 คดีสูญ 10 ล้าน
ตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา แถลงความคืบหน้าคดีลักหม้อแปลงไฟฟ้าในจังหวัดสงขลา รวม 58 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท จับผู้ต้องหาได้แล้ว 3 ราย เร่งติดตามอีก 2 ราย พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด
วันนี้ (6 สิงหาคม 2568) ณ บริเวณด้านหน้าตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา อำเภอเมืองสงขลา พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มอบหมายให้ พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นประธานแถลงข่าวความคืบหน้าคดีการลักหม้อแปลงไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยมี พ.ต.อ.สกนธ์ อนนท์ทรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา, พ.ต.อ.สุโรจน์ ลุนหวิทยานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา, พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา, พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา, พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจะนะ และ พ.ต.อ.หญิง ปธนีช์ กาฬสุวรรณ ผู้กำกับการกลุ่มงานอำนวยการ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ร่วมในการแถลงข่าว
. คดีดังกล่าวเกิดจากการที่มีขบวนการลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในหลายพื้นที่ของจังหวัดสงขลา ตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งหมด 58 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท แม้ตัวอุปกรณ์ที่ถูกขโมย เช่น ทองแดงภายในหม้อแปลงจะสามารถจำหน่ายได้ในราคาต่ำเพียงประมาณ 30,000 บาทต่อชิ้น แต่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ บ้านเรือนประชาชน และหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับและจำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่มาทดแทน
จากการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง นำโดยพ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก. สส .ภ. จว. สงขลา , พ.ต.ท. เอกภพ มุสิกปักษ์ รอง.ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.ต. ชวัลวิทย์ บุญส่ง สว.ปรก.กก.สส.ภ.จว.สงขลาตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และ ตำรวจชุดสืบสวนสภ. จะนะ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ คือ นายปริญญา (ปาม) ไหมพุ่ม อายุ 34 ปี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ที่ใช้ หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้น หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ด้านนายปริญญาฯ ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยอมรับว่าได้ร่วมกับพวกลงมือก่อเหตุในหลายพื้นที่ รวมทั้งสิ้น 58 คดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้วจำนวน 5 ราย สามารถจับกุมได้ 3 ราย และอยู่ระหว่างติดตามอีก 2 ราย
พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า ขบวนการดังกล่าวมีพฤติกรรมก่อเหตุต่อเนื่องมานานกว่า 5-8 ปี โดยมีสมาชิกอย่างน้อย 5 คน ใช้วิธีการตัดกระแสไฟฟ้าด้วยไม้พันฉนวนและเหล็ก ก่อนจะทำการถอดหม้อแปลงและนำทองแดงภายในไปเผาแล้วขายเป็นเศษโลหะ ตำรวจสามารถขยายผลจับกุมผู้รับซื้อของโจรได้เพิ่มเติม ซึ่งถือว่ามีความผิดในฐานะสนับสนุนการกระทำผิดอาญา ปัจจุบันอยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเชื่อมโยงของกลางกับของที่ถูกลักทรัพย์ พร้อมเดินหน้าดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะกับนายปริญญา ซึ่งเชื่อว่าเป็นหัวหน้าแก๊ง และมีประวัติอาชญากรรมในลักษณะใกล้เคียงกันมาก่อน
พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ย้ำว่า “จะเร่งขยายผลและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ทั้งในพื้นที่สงขลาและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อยุติขบวนการลักทรัพย์ที่ส่งผลกระทบต่อสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชนในวงกว้างอย่างแท้จริง”