เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.7% ต่ำกว่าคาด ท่ามกลางความกังวลสงครามภาษี
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิดเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดในเดือนกรกฎาคม แม้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้า ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นต่อโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดดอกเบี้ย
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) ระบุว่า CPI ปรับขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน และ 2.7% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.2% และ 2.8% ตามลำดับ
หากไม่รวมอาหารและพลังงาน ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อน และ 3.1% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าคาดเล็กน้อยที่ 3% โดยการเพิ่มขึ้นรายเดือนถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมกราคม และการเพิ่มขึ้นรายปีสูงสุดตั้งแต่กุมภาพันธ์
BLS ระบุว่าสาเหตุหลักมาจากค่าเช่าที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่ราคาอาหารทรงตัว และราคาพลังงานลดลง 1.1% ราคายานยนต์ใหม่ ซึ่งอ่อนไหวต่อภาษีไม่เปลี่ยนแปลง แต่รถมือสองปรับขึ้น 0.5% ส่วนค่าบริการขนส่งและบริการทางการแพทย์เพิ่มขึ้นถึง 0.8%
สัญญาณผลกระทบจากภาษีเริ่มปรากฏในบางหมวด เช่น เครื่องใช้และอุปกรณ์ในครัวเรือนเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากพุ่ง 1% ในเดือนมิถุนายน ขณะที่เสื้อผ้าเพิ่มเพียง 0.1% และราคาสินค้าโภคภัณฑ์พื้นฐานขึ้นเพียง 0.2% ผลไม้และผักกระป๋อง ซึ่งมักนำเข้าและอ่อนไหวต่อภาษี ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งดัชนี S&P 500 และ Nasdaq Composite ปิดตลาดทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (12 ส.ค.) หลังตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาด กระตุ้นความหวังว่า Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีครอบคลุมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดในแดนบวก 1.13% ที่ระดับ 6,445.76 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยี ปิดตลาดพุ่ง 1.39% ที่ 21,681.90 จุด ส่วนดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้น 483.52 จุด หรือ 1.10% ปิดตลาดที่ 44,458.61 จุด
หุ้นขนาดเล็ก (Small Caps) ซึ่งมักได้ประโยชน์มากจากการลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นนำตลาดพุ่งขึ้น โดยดัชนี Russell 2000 กระโดดแรงเกือบ 3 เท่าของการปรับขึ้นใน S&P 500
ตลาดฟิวเจอร์ส บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า Fed มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจหลายชุดที่จะประกาศระหว่างนี้อาจส่งผลต่อการตัดสินใจในที่ประชุมดังกล่าวและแนวทางในอนาคตของธนาคารกลาง เจ้าหน้าที่ Fed ในช่วงหลังแสดงความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงาน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ย
เทรดเดอร์เพิ่มการเดิมพันที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนหลังการเปิดเผยข้อมูลล่าสุด และยังประเมินว่ามีโอกาสราว 67% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นจาก 55% ในวันก่อนหน้า ตามข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group
แม้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะไม่ใช่เครื่องมือหลักที่ Fed ใช้คาดการณ์เงินเฟ้อ แต่ธนาคารกลางใช้ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของกระทรวงพาณิชย์เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ข้อมูล CPI รวมถึงรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี จะถูกนำไปประกอบการพิจารณาของ Fed ด้วย
ภาพ: Spencer Platt / Getty Images
อ้างอิง: