โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

BIZ: รู้จัก ‘เพื่อนเฟ้อ’ (Friendflation) ภาวะที่กิจกรรม ‘รักษามิตรภาพ’ แพงขึ้นเรื่อยๆ จนเรารู้สึกจ่ายไม่ไหว

BrandThink

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในปัจจุบันนี้ แม้ว่า‘ความเหงา’ จะเป็นภัยต่อสุขภาวะชาวโลกจนมีคำแนะนำว่า ควรมีเพื่อนไว้พูดคุยปรึกษาขั้นต่ำสัก 5 คน แต่อีกด้าน การยิ่งมีเพื่อนยิ่งมันก็ยิ่งท้าทายในการ ‘รักษา’ มิตรภาพเอาไว้ โดยเฉพาะในมุมทางเศรษฐกิจ

แน่นอน เราเติบโตมากับความคิดที่ว่ามิตรภาพเป็นของล้ำค่าที่เงินซื้อไม่ได้ แต่กับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน เราอาจรู้สึกว่า‘ต้นทุน’ ในการรักษามิตรภาพเอาไว้นั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โดยเฉพาะถ้าเรามีรายได้น้อยกว่าเพื่อนๆ ในกลุ่ม การที่เพื่อนทั้งกลุ่มรวมตัวกันไปเทศกาลดนตรีกันปีละ 2-3 ครั้ง หรือไปเที่ยวต่างประเทศกันปีละครั้ง ก็อาจทำให้เรารู้สึกว่าการจะอยู่ในกลุ่มเพื่อนเช่นนี้ต้องใช้เงินเยอะ หรือบางทีเรื่องง่ายๆ กว่านั้นอย่างแค่การนัดกินข้าวกับเพื่อนๆ แล้วบางทีเพื่อนนัดกันไปร้านที่เรารู้สึกว่ามันหรูไป แพงไป ก็อาจทำให้เรารู้สึกกระอักกระอ่วนได้

นี่เป็นสิ่งที่หลายคนอาจรู้สึกมานาน แต่ระยะหลังในช่วงที่ทุกอย่างแพงขึ้น อาจทำให้บางคนรู้สึกมากขึ้นไปอีก และนั่นไม่ใช่ปัญหาของประเทศยากจนเท่านั้น เพราะตั้งแต่อังกฤษ ออสเตรเลีย ไปจนถึงสหรัฐอเมริกา ก็มีการทำสำรวจและผู้คนก็รู้สึกเช่นเดียวกันหมดว่าการจะมีเพื่อนในยุคนี้มันทำเราเสียเงินมากเกินไป และคนอเมริกันเกิน 4 ใน 10 รู้สึกว่าการมี ‘เพื่อนรวย’ นั้นทำให้ชีวิตลำบาก เพราะจะเข้าสังคมกับกลุ่มคนเหล่านี้มันใช้เงินเยอะเหลือเกิน

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้เป็นปัญหาที่เข้าใจได้ว่ามีอยู่จริง และหลายคนก็อาจประสบกับตัวเอง แต่คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไม ‘ปัญหา’ นี้มันจึงโผล่มา ณ ช่วงนี้ของประวัติศาสตร์?

แน่นอน คำอธิบายแรกก็คือเพราะโลกมันมีความเหลื่อมล้ำขึ้นเรื่อยๆ ช่องว่างระหว่างชนชั้นถ่างกว้างขึ้น และช่องว่างภายในชนชั้นเองก็กว้างขึ้นด้วย ชนชั้นกลางด้วยกันเลือกบางสายงานก็รวยไปเลย ส่วนเลือกอีกบางสายงานก็ถึงกับจน มันเลยทำให้เพื่อนที่เห็นกันมาแต่เด็กมีรายได้ต่างกันระดับที่ตัวเลือกการใช้ชีวิตธรรมดาๆ จ่ายเงินแบบสบายกระเป๋าของคนหนึ่ง กลับเป็นเรื่องที่อาจทำให้อีกคนต้องเป็นหนี้เพื่อจะมีกิจกรรมร่วมกับเพื่อนได้

คำอธิบายที่สองคือ ภาวะเงินเฟ้อ ที่จริงแล้วสถิติเงินเฟ้อทั่วโลกแบบแยกรายสินค้าและบริการชี้ตรงกันคือ พวกราคาของ ‘สิ่งบันเทิง’ มันแพงขึ้นกว่าหมวดอื่นอย่างชัดเจน ดังนั้นการจะไปดูคอนเสิร์ตหรือแค่ดูหนัง มันแพงขึ้นจริง และเป็นแบบเดียวกันทั้งโลก แม้แต่การกินอาหารนอกบ้านก็ยังแพงขึ้น หรือถ้าจะไปทริปต่างประเทศ พวกต้นทุนค่าเดินทางก็ล้วนขยับขึ้น ทั้งหมดนี้เกิดจากการทั้งคว่ำบาตรรัสเซียและพวกภาษีตระกูลลดโลกร้อนของฝั่งยุโรปที่เก็บกับสายการบิน

คำอธิบายที่สามเป็นคำอธิบายที่น่าสนใจ และหลายคนอาจไม่ทันสังเกต เพราะนักวิชาการในโลกตะวันตกได้ชี้มาสักพักแล้วว่าพวก ‘พื้นที่สาธารณะ’ ที่จะมีกิจกรรมทางสังคมแบบไม่ต้องเสียเงิน มันหดเล็กลงเรื่อยๆ ลองคิดถึงอะไรง่ายๆ อย่างพวก ‘สวนสาธารณะ’ ที่โดนเปลี่ยนเป็น ‘สวนสนุก’ หรือ ‘ห้างสรรพสินค้า’ อะไรแบบนี้ก็ได้ เดิมทีสวนสาธารณะนั้นเข้าฟรีไม่เสียเงิน แต่พอมันถูกเปลี่ยนเป็นสวนสนุก ใครจะเข้าก็ต้องเสียค่าบริการ ส่วนห้างสรรพสินค้า แม้ว่าจะไม่เสียค่าเข้าตรงๆ แต่ทุกสิ่งมันถูกสร้างมาเพื่อให้เราเสียเงิน ตั้งแต่ค่าที่จอดรถ ไปจนถึงร้านอาหารต่างๆ ที่ราคาแพงกว่าไปกินนอกห้าง หรือถ้าเป็นอย่างเมืองไทย งานมหกรรมความสนุกของเด็กๆ แบบสมัยก่อนที่เข้าได้ฟรีแบบ ‘งานวัด’ หรือ ‘งานกาชาด’ ก็หายไปแล้ว เทศกาลเอกชนอื่นๆ ยังไงก็ต้องเสียเงินมากกว่า

หรือถ้าจะมองให้ง่ายกว่านั้น สมัยยุคก่อนอินเทอร์เน็ต เวลาเรานัดกับเพื่อน เราก็จะนัดเจอกันที่จุดนัดพบอย่างน้ำพุหรือรูปปั้นอะไรก็ว่าไป แต่พอโตแล้วด้วยความเปลี่ยนแปลงทางความคิดและค่านิยมของสังคม ก็เปลี่ยนมานัดกันที่ร้านกาแฟอะไรพวกนี้มากกว่า และก็คงไม่ต้องขยายความต่อว่าราคากาแฟของร้านเหล่านี้ได้ถูกออกแบบมาแล้วว่าจะมีคนมานั่งรอเพื่อพบกับอีกคน ดังนั้นค่าเช่าที่นั่งเพื่อรอเพื่อนในพื้นที่เอกชนมันจึงอยู่ในราคากาแฟหมดแล้ว เป็นต้น

ปรากฏการณ์ที่ว่านี้ พอมันทำงานร่วมกัน มันก็สร้างความยากลำบากให้กับการ ‘รักษามิตรภาพ’ เอาไว้มากขึ้น กลุ่มเพื่อนที่เคยสนิทกัน บางทีถ้ามีสักคนที่ทำงานรายได้น้อยกว่าชาวบ้าน เขาก็อาจหลุดจากวงโคจรไปได้ไม่ยาก เพราะเขาจ่ายเงินเพื่อรักษามิตรภาพเอาไว้ไม่ไหว

สุดท้าย ปัญหา‘เพื่อนเฟ้อ’ ทั้งหมดที่ว่ามานี้ จะแก้อย่างไร เราก็อาจต้องลองคิดถึงภาพใหญ่และการสร้างพื้นที่ในการมีปฏิสัมพันธ์ในแบบที่ไม่ต้องเสียเงินให้มากขึ้น ส่วนกลุ่มเพื่อนเอง ก็อาจต้องคำนึงว่าจะไม่ทิ้งใครเอาไว้ข้างหลัง เช่นเปลี่ยนจากนัดเจอกันร้านเหล้าใจกลางเมือง หรือร้านโอมากาเสะสักร้าน ก็อาจเปลี่ยนไปนัดที่ร้านลาบ ร้านข้าวต้มที่ใกล้บ้านเพื่อนที่มีความสามารถในการจ่ายน้อยที่สุดในกลุ่มก็ได้ เพื่อแบ่งเบาภาระให้เพื่อนโดยที่ไม่ทำให้เขาลำบากใจ

ท้ายที่สุดเรื่องพวกนี้มันเป็นการช่วยเพื่อนที่เล็กน้อยมาก ถ้ามิตรภาพนั้นมีค่าควรจะเก็บรักษาไว้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก BrandThink

POP: 26 สิงหาคม วันสุนัขโลก จากหนังสยองขวัญ ‘Good Boy’ สู่กระแสคำถาม “น้องหมาตุยจริงไหม?” และโลก (จริง) ของ Pet Modelling

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

MIND: อะไรคือ ‘Lighthouse Parenting’ การที่พ่อแม่ทำตัวเป็นประภาคาร ต่างจากเป็น ‘เสือ’ หรือ ‘เฮลิคอปเตอร์’ อย่างไร?

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

เปิดตัวเลขจริง วัดพระบาทน้ำพุเหลือเงินเพียง 10 ล้าน เสี่ยงดูแลผู้ป่วยไม่รอดยาว

BRIGHTTV.CO.TH
วิดีโอ

บ้านหนองจาน "เขมรบุกรุก" 40 ปี ตั้งเป็นฐานปืนกล | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

ทัพไทยลั่น! ขับไล่เขมรรุกล้ำแผ่นดินได้ตามสิทธิ์ | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV

ปัญหาที่ดินหนองจาน มีเอกสารสิทธิ์แต่เข้าอยู่ไม่ได้

สำนักข่าวไทย Online

กรมอุตุฯ อัปเดตพายุ ‘คาจิกิ’ ปกคลุม จ.น่าน เช็กชื่อจังหวัดโดนฝนถล่มหนักใน 24 ชม.ข้างหน้า

ไทยโพสต์
วิดีโอ

จับ "พระอลงกต-หมอบี" ยักยอกเงินบริจาค | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV

สว.ไฟเขียว กมธ.วิสามัญ ศึกษาผลดี-ผลเสียยกเลิก MOU 43-44 ‘คำนูณ-หมอตุลย์-วีระ’ นั่งโควตาคนนอก

THE STANDARD
วิดีโอ

ซึ้งมาก เด็กน้อยเมียนมาต้องย้ายโรงเรียน ทำสิ่งสุดท้ายให้คุณครูคนดูแห่น้ำตาซึม

สยามนิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...