สร้างอาคารอย่างไรให้ยั่งยืน? Protective Investment แนวคิดเพื่ออนาคตของอสังหาฯ ที่ทั้งสวย คุ้ม และยั่งยืน [ADVERTORIAL]
ในยุคที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญทั้งต้นทุนก่อสร้างที่ผันผวน พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็ว และแรงกดดันจากมาตรฐานความยั่งยืน โจทย์ของนักลงทุนจึงไม่ใช่แค่การสร้างอาคารให้เสร็จสมบูรณ์ แต่ต้องคิดต่ออีกว่า จะสร้างอย่างไรให้อาคารยังรักษามูลค่าไว้ได้ในระยะยาว
เพราะอาคารที่สวยงามในวันนี้ อาจไม่มีความหมายถ้ามูลค่าทรัพย์สินลดลงทุกปี การวางแผนด้าน Maintenance และ Building Lifecycle Management จึงควรเริ่มตั้งแต่ต้น เพื่อวางรากฐานการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อปกป้องทรัพย์สินในระยะยาว (Protective Investment) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทั้งความเชื่อมั่นในตัวโครงการ และ ROI โดยรวม
ทำไมต้องวางแผน Protective Investment ตั้งแต่ต้น?
1. ยืดอายุทรัพย์สิน สร้างรายได้ที่มั่นคง: แม้อสังหาริมทรัพย์จะเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนระยะยาว แต่ความเสื่อมทางกายภาพ เช่น รอยแตกร้าว สีลอกล่อน ซีดจาง หรือคราบสะสม ล้วนทำให้รายได้จากการเช่าหรือขายผันผวน การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงตั้งแต่แรก เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับอาคาร อย่างนวัตกรรมฟิล์มใสปกป้องสี ที่ช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดความเสี่ยงจากการสูญเสียรายได้ และเพิ่มโอกาสในการรักษามูลค่าทรัพย์สินให้นานที่สุด
2. เสริมภาพลักษณ์อสังหาริมทรัพย์ เพิ่มโอกาสการลงทุนซ้ำ: อาคารที่ได้รับการดูแลอย่างดีและดูใหม่เสมอ มีผลต่อการตัดสินใจของผู้เช่าและนักลงทุนโดยตรง เพราะสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของโครงการ ทำให้สามารถขยายพอร์ตหรือลงทุนซ้ำได้ง่ายขึ้นในอนาคต
3. สอดรับเทรนด์การลงทุนอย่างความยั่งยืน (Sustainable Investment): ประเด็นความยั่งยืนกลายเป็นเกณฑ์สำคัญในการตัดสินใจลงทุน วัสดุที่ลดการซ่อมแซมซ้ำซ้อนจึงไม่ใช่แค่การประหยัดต้นทุน แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
4. ประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างเห็นได้ชัด:
นอกจากยืดอายุการใช้งานของอาคารแล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เช่น NipponPaint ULTRAGUARD ช่วยลดความถี่ในการซ่อมแซมและทาสีใหม่ และลดความยุ่งยากต่างๆ ของโครงการ สร้างให้เกิดคุ้มค่าในระยะยาว
โดยคิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตลอด 20 ปี อยู่ที่ประมาณ 277 บาท/ตร.ม. เมื่อเทียบกับระบบสีปกติที่อาจมอบความทนทานสูงสุดไม่เกิน 8-15 ปี ก็ต้องรีเพ้นต์ใหม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 321 บาท/ตร.ม. จึงช่วยประหยัดได้อย่างน้อย 13%*ขณะที่ยังได้คุณภาพงานที่คงทน สีสวยยาวนาน และลดภาระการบำรุงรักษาในระยะยาว
Nippon Paint ULTRAGUARD ตัวช่วยสำคัญของการลงทุนเพื่อปกป้องทรัพย์สินระยะยาว
หนึ่งในต้นทุนแฝงที่มักถูกมองข้าม คือ ‘การทาสีซ้ำ’ ทุก 4-5 ปี ซึ่งไม่เพียงเสียค่าวัสดุ ค่าแรง และเวลา แต่ยังสูญเสียโอกาสทางรายได้ และเพิ่มภาระในการบริหารจัดการ ทั้งด้านต้นทุนและสิ่งแวดล้อม
Nippon Paint ULTRAGUARD สุดยอดนวัตกรรมฟิล์มใสปกป้องสีเจ้าแรกในประเทศไทย ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจากการทาสีรองพื้นและสีทับหน้า
โดย Nippon Paint ULTRAGUARD จะทำหน้าที่เป็น Protective Coat เสริมเกราะให้อาคารทนแดด ทนฝน ทนมลภาวะฝุ่น คราบดำ และความชื้น เหมาะสำหรับโครงการหรือบ้านมูลค่าสูงที่ต้องการ เป็นช่วยการช่วยยืดอายุการใช้งาน และลดการซ่อมบำรุงในระยะยาว
คุณสมบัติเด่นของ Nippon Paint ULTRAGUARD:
- ทนสุด: ผ่านการทดสอบ QUV Resistance มากกว่า 7,000 ชั่วโมง* สูงกว่ามาตรฐาน มอก. ถึง 7 เท่า ทนแดด ทนฝน ทนฝุ่น ทนมลภาวะ เป็นเกราะคุ้มกันอาคารจากสภาพอากาศ ทั้ง แดด ฝน ฝุ่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สวยสุด: สีสด ชัด ไม่ซีดง่าย ช่วยลดการจับฝุ่นและคราบน้ำอาคารจึงดูดีเหมือนใหม่ได้ยาวนาน โดยไม่ต้องรีโนเวตบ่อยครั้ง
- คุ้มสุด: ลดความถี่ในการทาสีซ้ำ (Repaint Cycle) ประหยัดทั้งค่าวัสดุ ค่าแรง และเวลาการซ่อมแซม เหมาะสำหรับโครงการระดับสูงที่ต้องการบริหารต้นทุนระยะยาว
ที่สำคัญ รับประกันสีไม่ลอกล่อนนานถึง 20 ปี* และ ครั้งแรกในไทยกับการรับประกันสีไม่ซีดจางนานสูงสุด 7 ปี* หากใช้ผลิตภัณฑ์จาก Nippon Paint เต็มระบบ
เปลี่ยนต้นทุนซ่อมแซม เป็นแต้มต่อเรื่องความยั่งยืน
ในวันที่ Carbon Credit กลายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดมูลค่าการลงทุน การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดการซ่อมแซมซ้ำซ้อน ไม่เพียงช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็น ‘แต้มต่อเชิงกลยุทธ์’ ที่ลดต้นทุนระยะยาว และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงนักลงทุนสาย ESG ได้จริง
ยกตัวอย่างความคุ้มค่า หากใช้สีทั่วไป โครงการขนาดใหญ่ต้องรีเพนต์ทุก 5 ปี หรือเฉลี่ย 3-4 ครั้งภายใน 20 ปี แต่หากใช้ Nippon Paint ULTRAGUARD เพียงแค่ครั้งเดียวก็เพียงพอในช่วงเวลาเท่ากัน นั่นหมายถึงต้นทุนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในแง่แรงงาน วัสดุ และเวลาที่เสียไปจากการปิดปรับปรุงและที่สำคัญยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างน้อย 34%
ลงทุนครั้งเดียว เพื่อความสวยทน และยั่งยืนกว่า
การลงทุนที่ดีไม่หยุดแค่ผลกำไร แต่ต้องต่อยอดเป็นสินทรัพย์ที่เติบโตในระยะยาว
เพราะฉะนั้นทุกการตัดสินใจจึงต้องมองให้ครบทั้งต้นทุน การดูแล ภาพลักษณ์ และความยั่งยืน
เริ่มต้นวางรากฐานปกป้องทรัพย์สินในระยะยาว ด้วย Nippon Paint ULTRAGUARD ทาครั้งเดียวแต่ทนทานกว่า และช่วยปกป้องมูลค่าทรัพย์สินได้จริง