Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.38-ทรงตัวรอผลประชุมเฟด
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้(30ก.ค.68)ที่ระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา และมองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.15-32.55 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ยังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน ในลักษณะ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 32.35-32.51 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวไร้ทิศทางเช่นกัน ของเงินดอลลาร์ แม้ว่า เงินดอลลาร์จะพอได้แรงหนุนบ้าง จากการอ่อนค่าลงของเงินยูโร (EUR) ในช่วงแรก ทว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ก็ถูกชะลอด้วย รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาผสมผสาน โดยยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (JOLTS Job Openings) เดือนมิถุนายน กลับปรับตัวลดลงสู่ระดับ 7.437 ล้านตำแหน่ง แย่กว่าที่ตลาดคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ของเฟดในปีนี้ (เดิมตลาดให้โอกาสราว 75% เพิ่มขึ้นเป็น 85%) แม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดย Conference Board ในเดือนกรกฎาคม จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 97.2 จุด ดีกว่าคาดชัดเจน ก็ตาม
นอกจากนี้ เงินบาทยังพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่า ตามการทยอยปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำจากโซนแนวรับระยะสั้น ตามจังหวะการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และการย่อตัวลงบ้างของเงินดอลลาร์ หลังผู้เล่นในตลาดทยอยปรับเพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปีนี้
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ ผลการประชุม FOMC ของเฟด ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงราว 1.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ของเช้าวันพฤหัสฯ โดยเราประเมินว่า คณะกรรมการ FOMC ส่วนใหญ่ อาจมีมติเห็นชอบให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25-4.50% เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ให้รอบด้าน ขณะเดียวกันภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ตลาดแรงงานก็ยังคงสดใสอยู่ ทำให้เฟดไม่จำเป็นต้องเร่งรีบลดดอกเบี้ย ทว่า อาจมีคณะกรรมการ FOMC บางท่าน อาทิ Christopher Waller และ Michelle Bowman ที่อาจสนับสนุนการลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ โดยอาจให้เหตุผลว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณชะลอตัวลงชัดเจน ส่วนนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจไม่ได้กระทบต่อแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯ มากนัก นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุม FOMC อย่าง ยอดการจ้างงานภาคเอกชน โดย ADP ในเดือนกรกฎาคม อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 และข้อมูลตลาดบ้าน เป็นต้น
ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน ผ่านรายงานอัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 และยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของเยอรมนี ในเดือนมิถุนายน
ทางฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น ผ่านรายงานยอดค้าปลีกและยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ในเดือนมิถุนายน โดยข้อมูลดังกล่าวจะทยอยรับรู้ในช่วงราว 6.50 น. ตามเวลาประเทศไทย ในช่วงเช้าวันพฤหัสฯ นี้
และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะ บรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ อย่าง Meta และ Microsoft พร้อมรอติดตามแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้าอย่างใกล้ชิด ส่วนในฝั่งไทย สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ผู้เล่นในตลาดต่างรอติดตามเช่นกัน
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า แม้เงินบาทจะมีจังหวะทยอยแข็งค่าขึ้นจากโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงคืนที่ผ่านมา แต่เราคงมองว่า เงินบาทอาจมีความเสี่ยงผันผวนอ่อนค่าลงได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ (เน้น ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ) ออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งเฟดก็ยังคงย้ำจุดยืนไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ย ซึ่งภาพดังกล่าวอาจทำให้ ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ของเฟด ในปีนี้ ลงบ้าง (จากระดับปัจจุบัน ราว 85%) หนุนให้เงินดอลลาร์มีโอกาสรีบาวด์สูงขึ้น หรือทรงตัวในกรอบ Sideways นอกจากนี้ หากรายงานผลประกอบการของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ สหรัฐฯ ออกมาสดใสและดีกว่าคาด หนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนเงินดอลลาร์ในช่วงนี้ได้
อย่างไรก็ดี เรายอมรับว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด หากราคาทองคำยังคงสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ หรืออย่างน้อย ราคาทองคำ (XAUUSD) ไม่ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังได้ปรับตัวลดลงจนทดสอบโซนแนวรับสำคัญ อย่าง เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน แถวโซน 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นอกจากนี้ เราไม่ปิดโอกาสที่เงินบาทจะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ประเมินว่า เงินบาทมีความเสี่ยง Two-Way risk ซึ่งปัจจัยชี้ชะตา คือ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ และผลการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ
เราแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรระวังความผันผวนของเงินบาทในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และผลการประชุม FOMC ของเฟด โดยสถิติในอดีตได้สะท้อนว่า เงินบาท (USDTHB) มีโอกาสผันผวนระดับ +/- 1 SD ได้ราว +0.30%/-0.20% ในช่วง 30 นาที หลังรับรู้ผลการประชุม FOMC
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO