"บิ๊กแก้ว" นักรบทหารม้า สายตรง “บิ๊กตู่-บิ๊กแดง” พร้อมลุยศึกเขมร!
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย ยอมปล่อยมือจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้กับฝ่ายทหารเต็มตัว
ตั้งแต่การตั้งรัฐบาลผสมข้ามขั้วระหว่างเพื่อไทยกับขั้วอนุรักษนิยม พรรคเพื่อไทยในฐานะเจ้าของโควตารัฐมนตรีกลาโหมไม่เคยยอมเปิดทางให้ทหารนั่งเก้าอี้สำคัญนี้เลย
จึงปรากฏชื่อของ นายสุทิน คลังแสง เป็น รมว.กลาโหม พลเรือนคนแรกที่ไม่ได้ควบเก้าอี้นายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ตามมาด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่นั่งเก้าอี้นี้ในยุครัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
แต่เมื่อเกิดคลิปเสียงสนทนาแพทองธาร-ฮุนเซน กลายเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง รัฐบาลต้องปรับ ครม. และทูลเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ “แพทองธาร 1/2” โดยมี น.ส.แพทองธาร ควบ รมว.วัฒนธรรม แทนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
และที่น่าจับตาคือ ตำแหน่ง รมว.กลาโหม ถูกเว้นว่างไว้ ไม่มีการเสนอชื่อบุคคลใด เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
นั่นเพราะมีการรอ "บิ๊กแก้ว" พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด ที่ยังติดเงื่อนไขเว้นวรรคการเมือง 2 ปี นับตั้งแต่พ้นจากสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 กันยายน 2568
แม้ต้องเว้นว่าง 3 เดือน กระทรวงกลาโหมก็ยังมี "บิ๊กเล็ก" พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รมช.กลาโหม ทำหน้าที่ต่อเนื่องตั้งแต่ยุคนายสุทิน และนายภูมิธรรม ที่แม้จะโยกไปมหาดไทย ก็ยังควบรองนายกฯ ฝ่ายมั่นคง คุมกลาโหมไปพลาง
กระนั้นในทางปฏิบัติ บิ๊กแก้วเริ่มเตรียมตัวเสมือนรัฐมนตรีเงา ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่าตำแหน่งนี้สำคัญถึงขั้นที่นายทักษิณยอมปล่อยมือให้ เพราะเบื้องหลังมี "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นผู้สนับสนุนเต็มตัว
บิ๊กแก้วคือคนของคสช. ที่รับบท ผบ.พล.ม.2 รอ. เคียงข้างบิ๊กตู่ช่วงจัดระเบียบสังคม เคยเป็นเพื่อนร่วมรุ่นและรุ่นน้องใกล้ชิดของบิ๊กแดง เติบโตในสายบู๊-สายบุ๋นของกองทัพ ทั้งเป็นนายทหารรบและนายทหารวางแผน
ที่สำคัญ เคยมีบทบาทในสมรภูมิเขาพระวิหาร และเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลัง “แผนจักรพงษ์ภูวนารถ” รับมือศึกกัมพูชาเมื่อปี 2552-2554 อีกด้วย
ชื่อของบิ๊กแก้วถูกพูดถึงตั้งแต่ยุค “ดีลลับลังกาวี” ซึ่งว่ากันว่าเป็นดีลตั้งรัฐบาลข้ามขั้วระหว่างทักษิณกับบิ๊กแดง ผ่านการพบปะกันที่ลังกาวี ที่ส่งผลให้บิ๊กแดงต้องถอนตัวจากตำแหน่งรองเลขาฯ สนว. ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ แต่แท้จริงคือผลสะเทือนจากการเปิดโปงดีลนี้
ในมิติความมั่นคงนั้นพล.อ.อภิรัชต์ ยังเดินเกมอยู่เบื้องหลังรัฐบาลผสม นับตั้งแต่พรรคก้าวไกลถูกกันออกจากอำนาจ เพราะมีวาระมุ่งหมายปฏิรูปสถาบันฯ และแก้ไข ม.112 ที่สายอนุรักษ์นิยมไม่สามารถยอมรับได้
แต่เกมของฝั่งอนุรักษนิยมก็ไม่ได้ราบรื่น เพราะยังมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล และพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่ใช่สายเดียวกับบิ๊กแดง ซึ่งกำลังเติบโตกลายเป็นขั้วใหม่ที่แข็งแรงกว่า โดยเฉพาะเมื่อรอดคดีฮั้วส.ว.ส่วนน.ส.แพทองธารก็ยังถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
ส่งผลให้ไม่อาจแน่ใจได้ว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า ใครจะได้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ หากย.ส.แพทองธารต้องพ้นตำแหน่ง และพรรคภูมิใจไทยอาจสอดแทรกเข้ามาเป็นแกนจัดรัฐบาลใหม่ โดยมีนายอนุทินเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ดี พล.อ.เฉลิมพลยังคงเป็นตัวเลือกหลักในสายตาของขั้วเดิม หากดีลข้ามขั้วยังยืนระยะได้ เพราะด้วยประสบการณ์ทั้งด้านการทหาร ภาคสนาม และยุทธศาสตร์ บวกกับสายสัมพันธ์กับบิ๊กตู่-บิ๊กแดงที่แน่นแฟ้น
ในที่สุด หากสถานการณ์ชายแดนเขมรปะทุอีกครั้ง “บิ๊กแก้ว” อาจได้กลายเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งยุค ที่กลับมาสานต่อ “แผนจักรพงษ์ภูวนารถ” อีกครั้ง ในสมรภูมิช่องบกและสามปราสาท
คำถามคือ ภายในสามเดือนนี้ ดีลเดิมจะยังคงอยู่ หรือเกมจะเปลี่ยนหน้า? และ “บิ๊กแก้ว” จะยังได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหมอย่างที่ดีลไว้หรือไม่?
เกมนี้ยังไม่จบ… แต่ตัวหมากเดินหน้าไปแล้ว
#บิ๊กแก้ว #เฉลิมพลศรีสวัสดิ์ #รมวกลาโหม #เพื่อไทย #บิ๊กตู่ #บิ๊กแดง #ดีลข้ามขั้ว #แพทองธาร #ศึกเขมร #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #สนามไชย1 #ทักษิณชินวัตร #รัฐธรรมนูญ #คดีแพทองธาร #พรรคภูมิใจไทย #อนุทิน #สายบู๊สายบุ๋น #แผนจักรพงษ์ภูวนารถ #เกมการเมือง