นิด้าโพลชี้ คนไทยส่วนใหญ่มอง 'ฮุน เซน' ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศเกี่ยวกับความรู้สึกต่อบทบาทของสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในกรณีความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา รวมถึงคำทำนายเกี่ยวกับการเมืองไทย
โดยผลสำรวจนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคม 2568 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,310 คน ครอบคลุมประชาชนทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้
ความรู้สึกต่อบทบาทของสมเด็จ ฮุน เซน ในความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
เมื่อสอบถามถึงความรู้สึกของประชาชนต่อการเคลื่อนไหวของสมเด็จ ฮุน เซน ในประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา พบว่า
ร้อยละ 67.63 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุด
รองลงมาคือ ร้อยละ 57.25 ระบุว่า เป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ
และ ร้อยละ 44.66 ระบุว่า คำพูดของสมเด็จ ฮุน เซน ไม่มีความน่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ ประชาชนจำนวนมากยังมีความเห็นเชิงลบอื่นๆ ได้แก่:
ร้อยละ 40.53 เชื่อว่าสมเด็จ ฮุน เซน กำลังยุให้คนไทยแตกแยกกัน
ร้อยละ 25.34 ระบุว่าต้องการยึดครองดินแดนของไทย
ร้อยละ 18.85 มองว่ากำลังแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย
มีเพียงส่วนน้อยที่มองในแง่บวก โดย ร้อยละ 9.31 ระบุว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศกัมพูชา
และเพียงร้อยละ 0.53 เท่านั้นที่เชื่อว่าทำเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ
ความเห็นต่อคำทำนายการเมืองไทยของ ฮุน เซน
ในส่วนของคำทำนายของสมเด็จ ฮุน เซน ที่ระบุว่าประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีภายในสามเดือนและรู้ว่าใครจะเป็นผู้รับตำแหน่ง ประชาชนส่วนใหญ่มีความเห็นดังนี้:
ร้อยละ 43.05 ระบุว่า ไม่น่าเชื่อ
ร้อยละ 34.12 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน ทำนายมั่ว ๆ
ร้อยละ 33.97 มองว่าเป็นความพยายามยุให้คนไทยตีกัน
ขณะที่ ร้อยละ 30.31 เชื่อว่าการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีเป็นไปได้ แต่ไม่น่าจะรู้ล่วงหน้าว่าจะใครเป็นผู้รับตำแหน่ง
ส่วนน้อยเห็นว่าเป็นการวิเคราะห์ตามสถานการณ์ทางการเมืองไทย (ร้อยละ 25.34) หรือเป็นการพูดตามข่าวกรองที่ได้มา (ร้อยละ 14.66)
มีเพียง ร้อยละ 7.25 เท่านั้นที่ระบุว่าคำทำนายดังกล่าวน่าเชื่อถือ
ผลสำรวจนี้นับเป็นการสะท้อนทัศนคติของประชาชนไทยต่อบทบาทและอิทธิพลของสมเด็จ ฮุน เซน ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการเมืองภายในของไทยได้อย่างชัดเจน