“ดอลลาร์-บอนด์สหรัฐ” ไม่ใช่สินทรัพย์ปลอดภัยเพียงหนึ่งเดียวอีกต่อไป “หยวน” กำลังเข้ามาแทนที่
อดีตผู้บริหารธนาคารกลางจีนเผย “ดอลลาร์-บอนด์สหรัฐ” กำลังสูญเสียความน่าเชื่อถือในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลักของโลก เปิดทางให้ “เงินหยวน” แสดงบทบาทแทนที่ ด้วยจุดแข็งด้านเสถียรภาพมหภาค ดุลบัญชีเกินดุล และตลาดพันธบัตรขนาดใหญ่
วันที่ 5 สิงหาคม 2568 สำนักข่าว China Daily รายงานว่า Sheng Songcheng อาจารย์เศรษฐศาสตร์ที่ CEIBS และอดีตผู้อำนวยการฝ่ายสถิติของธนาคารกลางจีน รวมถึง Sun Dan นักวิจัยที่ CEIBS Lujiazui International Institute of Finance แสดงทัศนะต่อดอลลาร์-บอนด์สหรัฐ เคยเป็นหลักของสินทรัพย์ปลอดภัยของโลก แต่เงินหยวนกำลังเข้ามาแทนที่
บทความระบุว่าเงินดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐถูกมองว่าเป็นรากฐานของสินทรัพย์ปลอดภัยทั่วโลกมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตามตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 ความเสี่ยงด้านการคลังและเครดิตของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ได้จุดกระแสความกังวลในตลาด
ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกในด้านการถือครองทุนสำรองระหว่างประเทศไปสู่ความหลากหลายมากขึ้น
ความสามารถของเงินดอลลาร์และพันธบัตรสหรัฐ ในการทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจึงเริ่มอ่อนตัวลง และสถานการณ์นี้ได้เปิดโอกาสให้ “เงินหยวน” หรือ “เงินเหรินหมินปี้” ของจีน เข้ามาทำหน้าที่เติมเต็มช่องว่างดังกล่าว
เงินหยวนในปัจจุบันได้แสดงคุณลักษณะสำคัญของสกุลเงินปลอดภัย โดยมีรากฐานจากความน่าเชื่อถือของสถาบัน และเสถียรภาพมหภาคของจีน
โดยจุดแข็งหลักของเงินหยวนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ได้แก่
1. ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง และทุนสำรองระหว่างประเทศขนาดใหญ่
จีนมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมาอย่างยาวนาน และถือครองทุนสำรองระหว่างประเทศในปริมาณมาก สิ่งนี้ช่วยให้ธนาคารกลางสามารถป้องกันความผันผวนของค่าเงินได้ ส่งเสริมความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ
2. ตลาดการเงินขนาดใหญ่และมีสภาพคล่อง
ณ สิ้นปี 2567 มูลค่าพันธบัตรรัฐบาลจีนที่คงค้างอยู่มีมากกว่า 34 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 4.75 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สภาพคล่องระหว่างธนาคารยังแข็งแกร่ง โดยในปีเดียวกันปริมาณการซื้อขายเงินหยวนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของจีนเฉลี่ยต่อวันเกิน 160,000 ล้านดอลลาร์ เงินหยวนจึงเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก
3. ความน่าสนใจของสินทรัพย์สกุลหยวนเพิ่มสูงขึ้น
พันธบัตรจีนได้รับเครดิตเรทติ้งระดับ A+ ขณะที่อัตราหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนเงินเฟ้อต่ำ ในปี 2567 การลงทุนสุทธิจากต่างชาติในพันธบัตรจีนสูงถึง 4.68 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 4.2 เท่าจากปี 2566 ทำให้ยอดการถือครองพันธบัตรจีนโดยชาวต่างชาติเกิน 4 ล้านล้านหยวนแล้ว ปัจจุบันธนาคารกลางกว่า 80 แห่งถือครองเงินหยวนในทุนสำรองระหว่างประเทศของตน โดยส่วนใหญ่ถือพันธบัตรรัฐบาลจีนและตราสารคุณภาพสูงอื่น ๆ
เมื่อเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินปลอดภัยแบบดั้งเดิม เช่น ดอลลาร์ เยน และฟรังก์ เงินหยวนโดดเด่นในเรื่องความมั่นคงของอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างจูงใจ ระดับของการเป็นสากลที่ก้าวหน้าไปมาก แต่อย่างไรก็ดีเงินหยวนยังไม่ได้รับการยอมรับเต็มที่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยทั่วโลก ส่วนหนึ่งมาจากความซับซ้อนเชิงปฏิบัติในตลาดการเงินของจีน และยังไม่มีการเปิดเสรีเต็มรูปแบบในบัญชีทุน
ขณะที่ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเงินหยวนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ได้แก่
1. เสริมคุณค่าแท้จริงของสินทรัพย์สกุลหยวน และสร้างความเชื่อมั่นในตลาด
เสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินของประเทศผู้ออกสกุลเงิน คือสิ่งสำคัญที่นักลงทุนปลอดภัยให้ความสำคัญ จีนควรรักษาเสถียรภาพการเติบโตและลดความเสี่ยงทางการเงิน เช่น เร่งการบริโภคในประเทศ ปฏิรูปเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง ควบคุมความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงนโยบายมหภาคควรสม่ำเสมอและโปร่งใส เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือของเงินหยวนในฐานะเสาหลักแห่งเสถียรภาพ
2. ยกระดับการบริหารจัดการเงินทุนเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดน และดึงดูดนักลงทุนระยะยาว
ปรับปรุงความสะดวกในการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น ปรับกระบวนการเปิดบัญชี การรับฝากทรัพย์สิน และการชำระเงินให้เป็นแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมเงินทุนแบบยืดหยุ่นตามความเสี่ยง ไม่ใช้มาตรการห้ามแบบเหวี่ยงแห รักษาความโปร่งใสในการดำเนินการร่วมกับ IMF และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและยอมรับ
3. พัฒนาตลาดเงินหยวนนอกประเทศให้ลึกและมีสภาพคล่องมากขึ้น
ตลาด offshore RMB ยังเล็กและขาดสภาพคล่องในยามวิกฤต แนะนำให้สนับสนุนศูนย์กลางทางการเงิน เช่น ฮ่องกง ให้มีบทบาทในการจัดหาสภาพคล่อง ปรับใช้กลไกแลกเปลี่ยนเงิน (currency swap) กับธนาคารกลางในฮ่องกง เพื่อรักษาอัตราดอกเบี้ยให้คงที่ ขยายการออกพันธบัตร RMB ในต่างประเทศ ส่งเสริมสินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นที่ชำระด้วย RMB ตั้งธนาคารชำระบัญชี RMB ในยุโรปและตะวันออกกลาง
4. ขยายอุปทานสินทรัพย์ปลอดภัยในรูปสกุลเงินหยวน
แม้ว่าตลาดพันธบัตรจีนจะเปิด แต่ยังมีการถือครองกระจุกตัวที่พันธบัตรรัฐบาลกลางและธนาคารเพื่อการพัฒนา แนะนำให้เพิ่มการออกพันธบัตรระยะยาว เพื่อใช้เป็นมาตรฐานอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ส่งเสริมให้ต่างชาติลงทุนในพันธบัตรท้องถิ่นบางส่วนที่มีการรับประกันหรือมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอ พัฒนาตลาดอนุพันธ์ เช่น ฟิวเจอร์สค่าเงินหยวน ฟิวเจอร์สพันธบัตร Credit default swap (CDS)
5. เสริมความร่วมมือทางการเงินระดับนานาชาติ
ร่วมผลักดันกรอบคิด Multicurrency Safe Asset กับ IMF และองค์กรโลก ขยายข้อตกลงแลกเปลี่ยนสกุลเงินกับธนาคารกลางในยุโรป เอเชีย แอฟริกา ส่งเสริมการใช้เงินหยวนในการชำระเงินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่ม Belt and Road
อ้างอิง : enapp.chinadaily.com.cn