Mystic Healing Academy, What’s Your Soul Magic Type ?
ในโลกยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันรอบด้าน ความกดดันจากชีวิตการทำงาน และความคาดหวังในตัวเองที่ดูเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้น วนซ้ำไปซ้ำมาทุกวัน จนทำให้เราอดตั้งคำถามขึ้นในใจตัวเองไม่ได้ว่า
“เราดีพอหรือยัง”
“เราทำอะไรไปก็ไม่ดี”
“ไม่รู้เหมือนกันว่า ตัวเองมีดีอะไร”
การเปรียบเทียบจากสังคมหล่อหลอมให้ใครหลายคนค่อยๆ หลงลืมตัวตนของตัวเองไปทีละน้อย จนในบางทีก็เผลอลดทอนคุณค่าในตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นว่า ในที่สุดก็หลงเหลือไว้แต่ความรู้สึกที่ว่างเปล่า ขาดความหมาย และไร้ซึ่งความสำคัญ
กอบกู้ตัวตนที่แหลกสลาย ด้วยมนตร์คาถา Self-Awareness
แต่ในยุคเดียวกันนี้ ผู้คนก็เริ่มตื่นตัวและหันกลับมาใส่ใจเรื่องสุขภาพจิต และการพัฒนาตัวเองมากขึ้น เคยสังเกตกันไหม ? ว่า รายชื่อหนังสือติดอันดับบนชั้น Best Seller ตามร้านหนังสือ ก็ล้วนแต่เป็นเนื้อหาที่ช่วยอุ้มชูจิตใจ ปลอบประโลมผู้คนในวันที่เหนื่อยล้า และเหล่าทริคเคล็ดลับที่จะช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่เพราะเป็นกระแสที่คนสนใจตามกันมา แต่เพราะเราหลาย ๆ คนก็ล้วนต้องการค้นหาความหมายของการใช้ชีวิตมากขึ้น อยากหาสิ่งที่จะช่วยโอบกอดตัวตนที่แตกสลาย ท่ามกลางสถานการณ์รอบตัวอันตึงเครียดได้
… เราคือใคร มีจุดเด่นจุดด้อยยังไง เราเหมาะกับอะไรกันแน่ ?
การตระหนักรู้ตัวตน หรือ Self-Awareness จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ ที่จะทำให้เรามองเห็นตัวเองในแบบที่เป็นได้อย่างแท้จริง เข้าใจว่า เรามีตัวตน ความคิด อารมณ์ และความต้องการในสิ่งใด เปรียบเสมือนเวทมนตร์ที่ช่วยให้เราเห็นความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในจิตใจ รู้ทันกับการกระทำต่าง ๆ ของตัวเอง รวมไปถึงช่วยลดความกังวล และนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้นได้
รู้จักตัวเองรอบด้านผ่านหน้าต่าง 4 บานของโจฮารี
ซึ่งในทางจิตวิทยา ก็มีทฤษฎีที่เรียกว่า “หน้าต่างโจฮารี” (Johari Window) ที่อธิบายถึง “การรู้จักตัวเอง” โดยแบ่งได้เป็น 4 พื้นที่ ตัวตนที่เราและคนอื่นรู้ ตัวตนที่คนอื่นรู้แต่เราไม่รู้ ตัวตนที่เรารู้แต่คนอื่นไม่รู้ และตัวตนสุดท้ายที่ทั้งเราและคนอื่นก็ไม่รู้ การค้นพบตัวเองจึงเป็นการขยายพื้นที่ที่ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น และลดพื้นที่ที่ไม่รู้จักลง
🚪 หน้าต่างบานที่ 1 Open Self : ด้านที่แสดงออกอย่างเปิดเผย เป็นนิสัยที่ทั้งตัวเราเอง และคนอื่นมองเห็นเหมือนกัน
🚪 หน้าต่างบานที่ 2 Blind Self : จุดบอดที่คนอื่นมองเห็น แต่เราไม่เคยรู้ตัวเอง แก้ได้ด้วยการรับฟังคำติชมของผู้อื่นให้มากขึ้น แล้วพื้นที่ของหน้าต่างบานที่ 1 จะใหญ่ขึ้น
🚪 หน้าต่างบานที่ 3 Hidden Self : มุมลับที่มีแต่เราคนเดียวเท่านั้นที่รู้ อาจเป็นข้อบกพร่อง หรือมุมเฉพาะตัวที่ไม่อยากบอกใคร ถ้าอยากลดพื้นที่หน้าต่างบานนี้ เราต้องรู้จักกล้าที่จะแสดงออกมากขึ้น ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ไม่แน่นะมุมลับที่เราเก็บซ่อนไว้ แท้จริงแล้วอาจเป็นสิ่งที่จะทำให้เราเติบโต และพัฒนาชีวิตให้ดีมากขึ้นก็ได้
🚪 หน้าต่างบานที่ 4 Unknown Self : ด้านที่ไม่มีใครรู้เลย ไม่ว่าจะเป็นตัวเราเองหรือคนรอบข้าง ถือเป็นตัวตนที่ยังรอการค้นพบต่อไปนั่นเอง
จำไว้ว่า การค้นหาตัวตนไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด มีเพียงการพบเจอที่จะนำไปสู่ความเข้าใจตัวเองมากขึ้น ทุกครั้งที่เราเลือกที่จะมองเข้าไปในใจตัวเอง ทุกครั้งที่เราเลือกยอมรับและรักตัวเองมากขึ้น รู้ไหมว่า เรากำลังใช้เวทมนตร์ที่มีพลังที่สุดในโลก นั่นคือ “เวทมนตร์แห่งการเปลี่ยนแปลง”
เมื่อเธอพร้อมแล้ว เวทมนตร์กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ !
แสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างห้องนอน เผยให้เห็นตัวเธอที่นอนสลึมสลืออยู่บนเตียงนุ่ม ๆ ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่
“ในที่สุดก็วันหยุดซะที” เป็นความคิดแรกที่เธอนึกถึง เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันเสาร์
เธอนอนไถหน้าฟีดโซเชียลมีเดียอยู่สักพัก ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมหาอะไรทานรองท้อง แต่แล้วสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นจดหมายที่ไม่คุ้นตาวางอยู่บนโต๊ะทำงาน
ยินดีด้วย ! คุณได้รับการคัดเลือกให้เข้าเรียนที่ ‘Mystic Healing Academy
โรงเรียนเวทมนตร์เพียงหนึ่งเดียว ที่จะพาคุณค้นหาพลังวิเศษที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ
เธอเบิกตากว้างไม่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น หลังจากนั้นไม่นานก็มีแสงสีขาวนวลสว่างวาบขึ้นมาจากจดหมายลึกลับนั้น พอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่า ตนเองมาอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยเสียแล้ว เบื้องหน้าของเธอเป็นประตูปราสาทขนาดใหญ่ เมื่อเธอก้าวเข้าไปก็สะดุดเข้ากับเสียงของผู้หญิงมีอายุท่านหนึ่ง ที่ดูเหมือนเป็นอาจารย์ใหญ่ของที่นี่กำลังประกาศบอกผู้คนในห้องโถง
“ทุกคนล้วนมีพลังวิเศษแต่กำเนิด แต่เจ้าต้องค้นหาจึงจะพบเจอ
ข้าจะพาพวกเจ้าค้นหาเวทย์มนตร์ในตัวเอง ผ่าน 5 วิชาแบบทดสอบ
สิ่งสำคัญคือ ใน 1 แบบทดสอบ เจ้าสามารถเลือกได้มากกว่า 1 ข้อหรือตามที่ต้องการ
แต่มีข้อแม้ว่า จงเลือกเฉพาะข้อที่เธอสัมผัสกับมันได้ ตรงกับใจของเจ้าจริง ๆ”
ถ้าพร้อมแล้ว… เรามาเริ่มทำแบบทดสอบกันเลย
บทความแนะนำ