SCG ต่อยอดกรีนโซลูชั่นสู่เวทีโลก ผนึก Serendix ปั้น SCG 3D Printing Mortar
เทคโนโลยีก่อสร้างระดับสุดยอดนวัตกรรม เกิดใหม่ได้ทุกวัน
ล่าสุด SCG โดย ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ ผนึกสตาร์ตอัพดาวรุ่งญี่ปุ่น กลุ่ม Serendix นำเสนอนวัตกรรมใหม่ “SCG 3D Printing Mortar” งานนี้ต้องบอกว่า วิน-วินเกม เพราะพันธมิตรธุรกิจครั้งนี้ นอกจากเปิดตลาดในญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นสปริงบอร์ดด้านการลงทุนเข้าสู่ตลาดสำคัญอื่น ๆ ในโลกอีกด้วย
MOU ดาวรุ่งญี่ปุ่น “Serendix”
ความเคลื่อนไหวล่าสุด ทางเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ ลงนาม MOU กับ Serendix สตาร์ตอัพญี่ปุ่น เพิ่มขีดความสามารถในงานก่อสร้างจากเทคโนโลยี 3D Printing ผนวกรวมกับปูนมอร์ตาร์สูตรเฉพาะสำหรับงานพิมพ์สามมิติ ผลักดันนวัตกรรมงานก่อสร้างสีเขียวในตลาดญี่ปุ่นสู่เวทีโลก ตอบโจทย์ลดคาร์บอน ลดแรงงาน เพิ่มความเร็ว
โดย “สุรชัย นิ่มละออ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ เปิดเผยว่า เอสซีจี ในฐานะผู้นำธุรกิจปูนซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ยั่งยืน มีความมุ่งมั่นในการผลักดัน Green Solutions ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพ ความรวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ล่าสุด ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ Serendix บริษัทสตาร์ตอัพผู้เชี่ยวชาญด้านที่อยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการนำปูนมอร์ตาร์สูตรเฉพาะสำหรับงานพิมพ์สามมิติ (SCG 3D Printing Mortar) มาช่วยยกระดับงานก่อสร้าง
ผ่านการสร้างบ้านที่มีคุณภาพสูง ประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นตลาดที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีขั้นสูง และมาตรฐานด้านความยั่งยืนในงานก่อสร้าง
“ความร่วมมือครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การส่งออกวัสดุก่อสร้างคุณภาพ แต่เป็นการส่งต่อองค์ความรู้ การพัฒนาเทคโนโลยีเชิงลึกระหว่างสองประเทศ โดยเอสซีจีร่วมมือในระดับวิศวกรรมกับทีม Serendix เพื่อ Codevelop สูตรปูนที่เหมาะสมกับเครื่องพิมพ์ของญี่ปุ่น ในสภาพอากาศที่หลากหลาย”
พลิกโฉมเทคโนโลยีสร้างบ้าน
สำหรับ Serendix เป็นบริษัทสตาร์ตอัพญี่ปุ่นที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผ่านเทคโนโลยี 3D Printing บ้านต้นแบบที่พัฒนาขึ้นได้รับการบันทึกว่าเป็นบ้าน 3D-Printed แห่งแรกของญี่ปุ่น ที่สร้างเสร็จในระยะเพียง 23 ชั่วโมง ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างบ้านให้ได้เร็ว แข็งแรง และมีคุณภาพ
โดยเลือกใช้ปูน SCG 3D Printing Mortar พร้อมการสนับสนุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญจากเอสซีจี ที่ร่วมพัฒนาปูนสูตรเฉพาะให้เหมาะกับเครื่องพิมพ์ 3D Printing สภาพแวดล้อมและภูมิอากาศของประเทศญี่ปุ่น มีความแข็งแรง รองรับดีไซน์ซับซ้อน สร้างขึ้นรูปอิสระ มีความแม่นยำและบริหารจัดการโครงการได้ดี
รวมทั้งคำนึงถึงเรื่องการลดคาร์บอน ลดฝุ่น ลดขยะ ลดแรงงาน ซึ่งล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทต้องนำมาปรับใช้ในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าวัสดุที่ส่งมอบนั้นใช้งานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์
ปัจจุบันตลาดการก่อสร้างด้วยเทคโนโลยี 3D Printing โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรป กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประเทศไทยแม้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากกระแสการพัฒนาโครงการก่อสร้างสีเขียว
รวมทั้งความต้องการลดต้นทุนแรงงานและวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง เอสซีจี นับว่าเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาวัสดุปูนสำหรับเครื่องพิมพ์ 3D Printing รายแรกที่สามารถผลิตและนำไปใช้งานได้จริงอย่างเต็มศักยภาพ ตอบโจทย์งานก่อสร้างครอบคลุมทุกมิติ
“ความร่วมมือกับ Serendix ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมก่อสร้างสู่ยุคของการสร้างบ้านด้วยเทคโนโลยี 3D Printing ทั้งรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
อวดโฉมใน Osaka Expo 2025
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ ณ บิ๊กอีเวนต์ระดับโลก “Osaka Expo 2025” ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ มีกำหนดจัดงาน 184 วัน หรือ 6 เดือนเต็ม ตั้งแต่ 13 เมษายน-13 ตุลาคม 2568 ที่เกาะยูเมะชิมะ เมืองโอซากา ที่ได้มีการจัดแสดงอาคาร “Serendix 55” ออกแบบและก่อสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ขึ้นรูปปูนมอร์ตาร์ 3 มิติ
มีจุดเด่นที่ลวดลายผิวอาคารทั้งภายนอกและภายในคล้ายสิ่งทอ สร้างขึ้นได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว โดย Serendix บริษัท Startup ผู้เชี่ยวชาญด้านที่อยู่อาศัยขนาดเล็กในญี่ปุ่น โดยร่วมออกแบบและใช้ปูนมอร์ตาร์ในการขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยี 3D Printing จาก SCG 3DP ผู้นำด้านนวัตกรรมการก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ขึ้นรูปปูน 3 มิติ ทำให้อาคารแห่งนี้มีความแข็งแรง ความสวยงาม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อาคารนี้มีขนาด 55-200 ตารางเมตร มีความกว้างถึง 6 เมตร โดยไม่ต้องใช้เสาค้ำกลางภายในอาคาร ทำให้สามารถออกแบบพื้นที่ใช้งานได้อย่างอิสระ โดยใช้เวลาพิมพ์ขึ้นรูปโครงสร้างเพียง 1.5 ชั่วโมง และติดตั้งหลังคาไม้ภายในเวลา 3 ชั่วโมง แสดงถึงความสามารถในการบริหารจัดการการก่อสร้างได้อย่างเป็นระบบในทุกขั้นตอน
อาคารนี้ตั้งอยู่ ณ Yumeshima Car Park ใกล้สถานี MRT Yumeshima เพียง 3 นาที ตรงข้ามพื้นที่จัดงาน Osaka Expo 2025 นับเป็นจุดเริ่มต้นการก่อสร้างและงานสถาปัตยกรรมที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 3D Printing ที่สอดคล้องกับการก่อสร้างในอนาคตที่ต้องการความรวดเร็ว การบริหารจัดการงบประมาณ แรงงาน ระยะเวลาการก่อสร้าง สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ลดการสูญเสียและสิ้นเปลืองวัสดุ อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นการนำเสนอรูปแบบการก่อสร้างงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
สอดคล้องกับเป้าหมายของเอสซีจี ในการขับเคลื่อน Green Construction ซึ่งจะช่วยสร้าง Ecosystem ด้านการก่อสร้างที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาค พร้อมเพิ่มช่องทางและโอกาสการขายในประเทศญี่ปุ่น พร้อมต่อยอดสู่เวทีโลกได้อย่างแข็งแกร่ง คำกล่าวย้ำจุดยืนของ “สุรชัย นิ่มละออ”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : SCG ต่อยอดกรีนโซลูชั่นสู่เวทีโลก ผนึก Serendix ปั้น SCG 3D Printing Mortar
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net