TU ร่วง 3% โบรกแนะ “ชะลอลงทุน” รอความชัดเจน “มิตซูบิชิ” เข้าถือหุ้นแตะ 20%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ส.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ณ เวลา 11:07 น. อยู่ที่ระดับ 11.50 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 2.54% สูงสุดที่ระดับ 12 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 475.11 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า TU ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท Mitsubishi Corporation แสดงความประสงค์จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ TU เพิ่มเติมอีก 13.81% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองรวมจะเพิ่มเป็น 20% โดยการเสนอซื้อจะกระทำในลักษณะทั่วไป (General Offer) ผ่านตลาดหลักทรัพย์ที่ราคา 12.50 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม การรับซื้อดังกล่าวยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาชัดเจน เนื่องจากต้องรอการบรรลุเงื่อนไขหลายประการก่อน
ทั้งนี้ TU อยู่ระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันนี้ เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการ โดยหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญคือ สัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติ (Foreign Holding) ต้องเหลือไม่น้อยกว่า 13.81% ของหุ้นทั้งหมด (ไม่รวมจำนวนหุ้นซื้อคืน) นอกจากนี้การทำรายการยังต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการควบรวมกิจการ (Merger Control) และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทั้งฝั่ง TU และ Mitsubishi
อีกประเด็นสำคัญคือ ทั้งสองบริษัทจะต้องลงนามในสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ ภายใต้เงื่อนไขที่ TU ยอมรับได้ โดยในระหว่างนี้ TU จะไม่ดำเนินการใด ๆ ที่กระทบสิทธิของผู้ถือหุ้น เช่น การออกหุ้นเพิ่มทุน การซื้อหุ้นคืน การจ่ายเงินปันผล หรือการทำธุรกรรมสำคัญใด ๆ โดยเฉพาะจะไม่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการครึ่งแรกปี 2568 (1H25)
อย่างไรก็ดี หากเงื่อนไขต่าง ๆ ไม่สามารถบรรลุได้ การเข้าซื้อหุ้นของ Mitsubishi อาจไม่เกิดขึ้น หรืออาจมีการเลื่อนออกไปจนกว่าทุกเงื่อนไขจะแล้วเสร็จ โดย TU เปิดเผยว่า การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนความเชื่อมั่นของ Mitsubishi ต่อศักยภาพการเติบโตระยะยาวของบริษัท และความตั้งใจในการขยายความร่วมมือทางธุรกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ Mitsubishi ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ TU มาอย่างยาวนาน โดยเข้าถือหุ้นตั้งแต่ปี 2538 และมีความร่วมมือในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลมาโดยตลอด ฟินันเซียให้ความเห็นเชิงระมัดระวังต่อดีลนี้ เนื่องจากหากการรับซื้อสำเร็จ Mitsubishi จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ลำดับหนึ่งด้วยสัดส่วน 20% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดภายใต้ข้อจำกัดด้าน Foreign Holding แต่ยังไม่เกินกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่ถือรวมกันประมาณ 30–33% ของหุ้นทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องจับตาคือ กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อาจตัดสินใจขายหุ้นบางส่วนให้กับ Mitsubishi ซึ่งจะส่งผลต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้นและอำนาจการตัดสินใจในอนาคต ด้านฟินันเซียประเมินว่า ราคาหุ้น TU ในระยะสั้นมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบไม่เกินราคารับซื้อที่ 12.50 บาทต่อหุ้น พร้อมแนะนำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของดีลดังกล่าว