"Laura Ashley" เดินหน้าตีตลาดไทยอีกครั้ง ผ่านPop-up Store เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
ดร. ลิษา สวาทยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมเทรนด์ จำกัด และบริษัทในเครือ กล่าวว่า ตลาดที่นอนและเครื่องนอนมีมูลค่า 6,096 ในปี 2567 มีการเติบโตจากกลุ่มโรงแรม รีสอร์ต และที่พักบางแห่งซื้อที่นอนและเครื่องนอนทดแทนของเก่าที่มีอยู่หลังจากที่ถูกปล่อยทิ้งไร้ผู้พักจำนวนมากเป็นเวลานาน ทำให้การขยายตัวของธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต ที่พัก และห้องพัก ใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาใช้บริการ
สำหรับแผนธุรกิจ Laura Ashley ตั้งเป้าเติบโตสู่ Top 3 แบรนด์เครื่องนอนพรีเมียมในประเทศไทยภายใน 3 ปี พร้อมเดินหน้าขยายจุดจำหน่ายสู่หัวเมืองใหญ่ จับมือดีไซเนอร์ไทย และพัฒนาคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะตลาดไทย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในฐานะ “Premium Iconic Alternative” ที่สามารถผสานดีไซน์อังกฤษกับความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ได้อย่างลงตัวเหนือสิ่งอื่นใด
การรีลอนช์ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการนำเข้าสินค้ารุ่นใหม่ แต่คือการนำเสนอ “วิถีการใช้ชีวิตแบบอังกฤษ” ที่สะท้อนความละเมียดละไม ความสงบ และรสนิยมเหนือกาลเวลา ถ่ายทอดจากโต๊ะครัวในปี 2496 มาสู่ห้องนอนของคนไทยในยุคปัจจุบัน
โดย Laura Ashley เป็นแบรนด์จากอังกฤษ ที่กลับมาเปิดตัวในประเทศไทยอีกครั้ง การกลับมาครั้งนี้มีการเปิดตัวภายใต้แนวคิด "Timeless British Elegance Comes to Thailand" และจะถูกนำเสนอผ่านกิจกรรม Pop-up Store ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของไทย
คอลเลกชันเครื่องนอน "Timeless British Elegance" เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กิจกรรม Pop-up Store ที่จัดขึ้นเมกาบางนา วันนี้–16 ก.ค. 2568
ดร. ลิษา กล่าวว่า Laura Ashley เชื่อมั่นว่าผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความรู้สึก และความเป็นตัวตนของบ้าน มากกว่าราคา ทำให้ตลาดไทยยังมีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม Upper-Middle ถึง High-End ที่มองหาความหรูหราแบบไม่ฟุ่มเฟือย ซึ่งห้องนอนไม่ใช่เพียงพื้นที่พักผ่อน แต่คือพื้นที่ส่วนตัวที่สะท้อนความเป็นตัวเองราวกับแกลเลอรีศิลปะ