‘ทักษิณ’ ช็อก สัมพันธ์ไทย-กัมพูชาร้าว เผยความเป็นพี่น้อง 'ฮุน เซน' จบแล้ว
อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ในรายการ "ผ่าทางตันประเทศไทย กับ 3 ผู้นำทางความคิด : Chapter1" ในวันพุธที่ 9 ก.ค.68 ถึงประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา อย่างออกรสว่า ตนรู้สึกช็อกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และบอกว่าความสัมพันธ์กับฮุน เซน ที่เคารพนับถือกันมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปีจบลงแล้ว แต่ยืนยันว่าความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา จะไม่นำไปสู่สงคราม
ทักษิณเผย เคยเป็นพี่น้องกับฮุน เซน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อลูกสาว นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในตอนนี้ ทำให้ตนถึงกับช็อกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ทักษิณเล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่นายกฯ อิ๊งค์ คุยกับฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า ในวันนั้นอิ๊งค์บอกพ่อว่าจะไปโรสวูดเพื่อไปพบกับนายฮวด ล่ามชาวกัมพูชา โดยนายฮวดจะต่อสายให้นายกฯ ได้คุยกับฮุน เซน โดยที่ฝ่ายฮุน เซน เองเป็นฝ่ายที่อยากหารือกับไทย
นายกรัฐมนตรีไทยจึงเชิญ ภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในขณะนั้น มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศ และพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการ นายกรัฐมนตรีเพื่อรอรับสายจากฮุน เซน แต่ฝ่ายไทยรอสายเกือบ 3 ชั่วโมง ฮุน เซน ก็ยังไม่โทรศัพท์มา และอ้างว่าหลับ พร้อมถ่ายรูปมาให้ดูด้วย
ทักษิณจึงบอกให้นายกฯ และคณะกลับ เมื่อนายกฯ และคณะกลับ ฝ่ายฮุน เซน ก็โทรศัพท์เข้าโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของนายกฯ ไทย ทักษิณจึงสงสัยว่าฝ่ายกัมพูชาเตรียมอัดเสียง ดังนั้น ฝ่ายกัมพูชาอาจทราบว่าไม่ควรโทรศัพท์ช่วงที่นายกฯ อยู่กับรัฐมนตรีท่านอื่น แต่ไม่ทราบว่านายฮวด เป็นคนบอกฮุน เซน หรือไม่
หลังจากมีคลิปเสียงดังกล่าวหลุดออกมา ฮุน เซน ก็มีการโพสต์ถึงทักษิณ แต่ทักษิณกล่าวว่า ตนไม่เป็นอะไร เพราะมองว่าความสัมพันธ์จบไปแล้ว และยังคงสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“ผมคงไปเหยียบตาปลาหรืออะไรสักอย่าง”
ทักษิณ เล่าต่อว่า เท่าที่จำได้ในคืนวันศุกร์ ก่อนที่ฝ่ายกัมพูชาถอนกำลังทหารในวันเสาร์ ทักษิณดูข่าวช่องเนชั่น และได้ทราบว่ากัมพูชาเคลื่อนกำลังพลมายังชายแดนราว 12,000 คน ตนไม่พอใจมากจึงติดต่อฮวดให้ถามฮุน เซน แทนตนว่า เราจะทำสงครามกันในขณะที่ลูกของเราเป็นนายกฯ จริงหรือ
ทักษิณยังได้เล่าถึงเหตุการณ์เผาสถานทูตไทยในกัมพูชาในปี 2546 โดยบอกว่ากัมพูชาอ้างคำพูดของ กบ สุวนันท์ คงยิ่ง นางเอกชื่อดังในยุคนั้นพูดว่า จ.เสียมเรียบของกัมพูชา เป็นของไทย ชาวกัมพูชาไม่พอใจจึงก่อจลาจล และบุกเผาสถานทูตไทย
อดีตนายกฯ เผยว่า ในสมัยนั้นตนติดต่อรัฐมนตรีกัมพูชาคนหนึ่งให้บอกฮุน เซน ว่าดูแลคนไทยให้ดี อย่าให้มีคนไทยบาดเจ็บ รัฐมนตรีคนนั้นรับทราบ แต่หลังจากนั้นทักษิณมองว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี จึงเรียกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น มาหารือที่ทำเนียบ จากนั้นโทรศัพท์กลับไปหาฝ่ายกัมพูชา โดยเตือนว่า ถ้าไม่สามารถการันตีความปลอดภัยของคนไทยได้ ตนจะส่งเครื่องบิน C-130 ไปพร้อมหน่วยคอมมานโดไปยังสนามบิน และในคืนนั้นเองทักษิณ ยังได้สั่งให้เรือจักรีนฤเบศรไปจอดรอที่สีหนุวิลล์ พร้อมเฮลิคอปเตอร์ แม้ตอนนั้นจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่แต่ทักษิณถือว่าบ้านเมืองสำคัญกว่า
เมื่อถามถึงสาเหตุความขัดแย้งกัมพูชา-ไทยในปี 2546 และปัจจุบันเกี่ยวข้องกับคะแนนความนิยมตกต่ำของผู้นำกัมพูชาในสมัยฮุน เซน และฮุน มาเนต หรือไม่ ทักษิณตอบว่า ตนไม่รู้ แต่ก็มองว่ากัมพูชาพยายามสร้างกระแสเพื่อรักษาคะแนนนิยม
ส่วนประเด็นห้องนอนที่มีชุดเครื่องนอนสีชมพูนั้น ทักษิณยืนยันว่า เป็นห้องที่ตนเคยนอนจริง แต่สีของชุดเครื่องนอนไม่ใช่รสนิยมของตนแน่นอน
สำหรับประเด็นการปล่อยคลิปเสียง ทักษิณมองว่าฮุน เซน ไม่ได้ทำลายแค่ฝ่ายไทย แต่ทำลายตัวเองด้วย เพราะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้กัมพูชาไม่พอใจไทย ทักษิณคาดว่า อาจมาจากเรื่องที่ตนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปสืบเกี่ยวกับอาคารแห่งหนึ่งที่แก๊งคอลเซนเตอร์ใช้ดำเนินการในช่วงปลายปี 2567 และอาจมาจากการที่ไทยปิดด่านในสองสามวันหลังจากกัมพูชาถอนกำลังในชายแดน บวกกับการที่นายกฯ อิ๊งค์ โพสต์พาดพิงถึงฮุน เซน ว่า ไม่มีความเป็นมืออาชีพ
ทักษิณยังได้พูดถึงการฟอกเงินของบริษัทฮุยวัน (Huione) ที่โดนสหรัฐแบล็กลิสต์ โดยบอกว่าผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นคนจีน ซึ่งรับฟอกเงินทุกอย่าง ทั้งยังมีฮุน โต หลานฮุน เซน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกด้วย
ทั้งนี้ ตั้งแต่คลิปเสียงดังกล่าวหลุด ทักษิณบอกว่าตนไม่ได้คุยกับฮุน เซน อีกและได้ส่งข้อความไปหาฮุน เซน ว่าการกระทำเช่นนี้ทำลายทั้งไทย และกัมพูชา แต่ฮุน เซน ก็ไม่ได้ตอบอีกเลย
อย่างไรก็ตาม ทักษิณมองว่าประเด็นความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่อาจบานปลายไปสู่การทำสงคราม และยังคงมองว่าสามารถพูดคุยเพื่อหาทางออกกันได้อย่างสันติ
"การเจรจาเราไม่ต้องการประเทศที่สาม ใครดำน้ำอึดกว่าชนะ" ทักษิณกล่าวและว่า หากกัมพูชาเขาไม่รับกลไกการเจรจาใดๆ ก็ช่วยไม่ได้
ทักษิณตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แม้ตนไม่ทราบว่าความขัดแย้งนี้มีความเชื่อมโยงกับคนในประเทศหรือไม่ แต่ก็พบเส้นทางการเงินจากไทยที่เกี่ยวข้องกับแรงงานส่งไปยังที่ปรึกษาแรงงานของกัมพูชา โดยพบว่ามีการโอนเงินไป และโอนกลับปริมาณ 100 กว่าล้านบาท
สำหรับความคิดเห็นต่อคลิปเสียงหลุด ทักษิณมองว่านายกฯ อิ๊งค์ พูดกับฮุน เซน ด้วยความหวังว่าจะให้เกิดการประนีประนอม จึงเรียกฮุน เซน ว่าลุงแต่ไม่ได้คิดว่าเรื่องจะเกิดขึ้นเช่นนี้ และย้ำถึงความเป็นพี่น้องกับฮุน เซน ว่าต่างคนต่างลืมชื่อไปแล้ว และบอกว่าพลาดที่คบคนแบบนี้ ซึ่งในช่วงท้ายบอกด้วยว่า “เขาเจ้าเล่ห์”
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์