ธนาคารกลางอินโดฯ กดดอกเบี้ยรอบ 4 เหลือ 5.25% รับภาษีทรัมป์ ฟื้นความเชื่อมั่นศก.
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (Bank Indonesia: BI) เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งวันนี้ (16 ก.ค.68) ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 โดยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 วัน Reverse Repurchase Rate ลง 0.25% เหลือ 5.25% พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยสำคัญอีก 2 รายการ เพื่อรับมือกับภาวะอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวและความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจโลก
ผู้ว่าการแบงก์ชาติอินโดนีเซีย เพอร์รี วาร์จิโย แถลงหลังการประชุมว่า BI ยังคงเปิดโอกาสในการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยประเมินว่าเงินเฟ้อของประเทศจะอยู่ในระดับต่ำไปจนถึงปี 2569 ขณะที่ค่าเงินรูเปียห์ยังมีเสถียรภาพ แม้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะยังอ่อนแรงก็ตาม พร้อมระบุว่า BI ได้เดินหน้าเต็มที่ในการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อของระบบธนาคาร
แรงสนับสนุนสำคัญต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ยรอบล่าสุด มาจากข่าวดีเรื่องข้อตกลงภาษีการค้าระหว่างอินโดนีเซียกับสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งประกาศโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยในดีลดังกล่าว สินค้าส่งออกของอินโดนีเซียจะถูกเก็บภาษีเพียง 19% จากที่เคยเสนอไว้สูงถึง 32% ซึ่งผู้ว่าการ BI มองว่าเป็นพัฒนาการเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม และจะช่วยสนับสนุนการส่งออกในระยะยาว
“แน่นอนว่าดีลนี้จะทำให้การนำเข้าเพิ่มขึ้น แต่เรามองว่าเป็นการนำเข้าสำหรับวัตถุประสงค์เชิงผลิต ซึ่งจะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต” วาร์จิโยกล่าว พร้อมเสริมว่าความแน่นอนจากข้อตกลงนี้ จะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และเอื้อต่อการไหลเข้าของเงินลงทุนจากต่างประเทศ
ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจอินโดนีเซียชะลอลงจากการบริโภคภาคครัวเรือนที่อ่อนแรง ขณะที่ความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคการค้าโลก จนทำให้ธนาคารกลางต้องดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวัง โดยเว้นช่วงระหว่างการลดดอกเบี้ยเพื่อป้องกันความผันผวนของค่าเงินรูเปียห์ ท่ามกลางแรงกดดันจากภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายของรัฐบาลทรัมป์
แม้จะมีความเสี่ยงภายนอก แต่ BI ยังคงประเมินแนวโน้ม GDP ปี 2568 ไว้ในช่วง 4.6% ถึง 5.4% โดยอาศัยแรงหนุนจากข้อตกลงภาษีที่เพิ่งบรรลุ และความคาดหวังว่าสินเชื่อภาคเอกชนจะกลับมาเร่งตัวขึ้นจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
ในด้านตลาดการเงิน ค่าเงินรูเปียห์แทบไม่เคลื่อนไหวหลังประกาศลดดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนีหุ้นหลักของอินโดนีเซีย (.JKSE) ขยับเพิ่มขึ้นเกือบ 1% สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อนโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์จากธนาคาร DBS ระบุว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียใช้โอกาสในช่วงที่ตลาดการเงินมีเสถียรภาพปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรอบคอบตลอดปีนี้ โดยมีข่าวข้อตกลงทางการค้าล่าสุดเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยลดแรงกดดันภายนอก ขณะที่โบรกเกอร์คาดว่า BI อาจลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ภายในปีนี้ และอีกรวม 0.5% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2569 เพื่อรับมือกับกิจกรรมเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวต่อเนื่อง
แม้จะยังมีความท้าทายจากภายนอกประเทศ แต่ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้แสดงความมุ่งมั่นในการใช้เครื่องมือนโยบายการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพ และสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศอย่างเต็มที่ ท่ามกลางคลื่นลมเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่สงบในระยะสั้น