โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

TDRI ชี้ กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% ไม่พอหนุนศก. แนะปรับโครงสร้างรับมือโลกเปลี่ยน

PostToday

อัพเดต 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยถึง กรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.75% เป็น 1.50% ต่อปี ว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่ากนง.พร้อมใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อรองรับผลกระทบของที่เศรษฐกิจชะลอตัวจากปัญหาต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาตที่ลดลงกว่าที่คาด ภาคธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs จะได้ประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ขณะที่การกระตุ้นสินเชื่อและการใช้จ่ายของครัวเรือนอาจช่วยเพิ่มแรงขับเคลื่อนในระบบเศรษฐกิจโดยรวม

อย่างไรก็ดี การลดดอกเบี้ยเป็นเพียงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น และหากขาดนโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาวที่ดีเพียงพอก็อาจจะทำให้ประสิทธิผลของนโยบายด้อยลงไปเป็นอย่างมาก

"ในความเห็นของผม อัตราดอกเบี้ยในระดับที่ 1.25-1.5% น่าจะเพียงพอต่อการพยุงเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น พร้อมๆกันกับการรักษา policy space ไว้รองรับสถานการณ์ในอนาคต นั่นหมายถึง การลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้ถ้าจะมีคาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 ครั้ง"

ส่วนสภาวะเงินเฟ้อน่าจะต่ำกว่ากรอบ 1-3% เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจภายในแบะภายนอกยังไม่ดีนักและการปรับดอกเบี้ยต้องใช้เวลาในการส่งผ่าน การลดดอกเบี้ยต่ำกว่านี้ไม่น่าจะเหมาะสม เพราะเศรษฐกิจต้องการนโยบายระยะยาวในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจมากกว่า มีคำถามอะไรเพิ่มเติมที่ควรถาม

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ดอกเบี้ยที่ลดลง คาดว่าภาคธนาคารพาณิชย์จะกล้าปล่อยสินเชื่อมากขึ้นหรือไม่ ท่ามกลางความเสี่ยงด้านหนี้เสีย และปัจจัยลบที่ยังสูงหรือไม่นั้น ขึ้นกับหลากหลายปัจจัย แต่ในทางทฤษฎีแล้ว การลดดอกเบี้ยจะทำให้สถาบันการเงินมีแนวโน้มปล่อยสินเชื่อมากขึ้นไม่มากก็น้อย ทำให้ต้องไปตามดูว่า ธปท. และภาครัฐมีนโยบายเสริมอะไรหรือไม่ เช่น โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ของ ธปท. การจัดตั้ง AMC รูปแบบใหม่ การแก้ไขหนี้ NPLs ในฝั่ง ธปท. และ การสนับสนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาวของภาครัฐ

ทั้งนี้ ดร.นณริฏ ยังระบุว่า ปัจจุบันการส่งผ่านผลของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปยังภาคเศรษฐกิจจริง เช่น การลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร ในปัจจุบันมีหลักฐานทางสถิติที่สะท้อนให้เห็นว่า การส่งผ่านของดอกเบี้ยนโยบายไปสู่ภาคเศรษฐกิจจริงมีผลน้อยลง ทั้งในแง่ของขนาดของผลกระทบที่เล็กลง และระยะเวลาที่นานมากขึ้นกว่านโยบายจะส่งผล

การลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 3 ในปี 2568 โดยยังเหลือการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อีก 2 ครั้งในปีนี้ คือ วันที่ 8 ตุลาคม และ 17 ธันวาคม 2568 ซึ่งหลายฝ่าย ประเมินว่า มีโอกาส ที่กนง.จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้อีกเพียง 1 ครั้ง หากเศรษฐกิจยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก และการบริโภคในประเทศยังฟื้นตัวไม่เต็มที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

LIVE ถ่ายทอดสด เปแอสเช พบ สเปอร์ส ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2025 วันนี้

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เริ่มเลย! BBL ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ช่วยกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจ

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Jurassic World: The Experience กระแสทะลุจอ ปลุกเศรษฐกิจเอเชียทีค

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ยูโอบี ชี้ กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% เร็วกว่าคาด รับมือเศรษฐกิจเปราะบาง

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

5 บัตรเครดิตเข้า Lounge สนามบินฟรี ใบไหนดีในปี 2568

SMART SME

Pacamara Coffee เปิด 24ชม.ในรพ.จุฬาฯ ลด 50% สำหรับบุคลากรทางการแพทย์

Manager Online

นบข.เคาะแจกเงินช่วยข้าวนาปี-นาปรัง ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด 10 ไร่ ช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 8.5 แสนครัวเรือน

VoiceTV

POP MART เปิดแฟลกชิพที่ไอคอนสยาม ทุบสถิติขายวันเปิดร้านสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Manager Online

กรมบัญชีกลางต่อยอด New GFMIS Thai e - Tax ออกหลักฐานรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มใช้งาน 13 ส.ค. 2568

VoiceTV

‘วิทัย’ ว่าที่ ผู้ว่าการ ธปท. ขอบคุณธ.กรุงเทพ ลดดอกเบี้ย ดูแลภาคธุรกิจ-ประชาชน

เดลินิวส์

SAPPE ยันภาษีทรัมป์ไม่กระทบ งัดScenario Planning สู้ปัจจัยลบ

Manager Online

CPN ซื้อหุ้นคืนวงเงิน 5 พันล. เผยQ2/68 โกยกำไรเฉียด 4 พันล.

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...