โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ยูโอบี ชี้ กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% เร็วกว่าคาด รับมือเศรษฐกิจเปราะบาง

PostToday

อัพเดต 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.75% เป็น 1.50% ต่อปี โดยระบุเหตุผลว่าเศรษฐกิจไทยยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการส่งออกที่ชะลอตัว ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวภาคเอกชน และแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้สะท้อนความพร้อมของธนาคารกลางในการสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงที่ยังเปราะบาง และอาจเปิดทางไปสู่แนวนโยบายผ่อนคลายมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี

นายสถิตย์ แถลงสัตยา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจสัมพันธ์ ธนาคารยูโอบี (UOB) ประเทศไทย เปิดเผยกับโพสต์ทูเดย์ ว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยนับว่าเร็วกว่าที่คาดการณ์ ถือเป็น "positive surprise" เนื่องจากเดิมคาดว่าจะลดในไตรมาส 4/2568 ช่วงเดือนตุลาคมและธันวาคม หลังการเปลี่ยนผู้ว่าการ ธปท. แต่สถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศทำให้ต้องดำเนินการเร็วกว่ากำหนด

ปัจจัยสำคัญที่กดดันเศรษฐกิจ ได้แก่ การขึ้นภาษีนำเข้า (tariff) โดยเฉพาะสหรัฐฯ การชะลอตัวของภาคท่องเที่ยว และความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเปราะบาง จึงจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการเติบโต

ทั้งนี้ คาดว่า ธปท. น่าจะคงดอกเบี้ยที่ 1.50% จนถึงปลายปี ก่อนจะปรับลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม และอาจมีการลดต่อเนื่องในไตรมาสแรกปี 2569 โดยมีเหตุผลหลัก 3 ประการ ได้แก่

  • แนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวกว่าที่ ธปท. ประเมิน ทั้งจากการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนที่ลดลงด้วยความไม่แน่นอน นับตั้งแต่ที่ทรัมป์ประกาศวันแรก ผลอาจจะทอดยาว แต่อาจจะลึกเกินกว่าที่แบงก์ชาติประเมิน คือเหตุผลหลัก ดอกเบี้ยอาจมาช่วย
  • ความเสี่ยงเงินฝืด โดยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ติดลบต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2566 ทอดยาวมา ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์
  • ภาวะสินเชื่อตึงตัว การลดอัตราดอกเบี้ย คือการกดราคาให้ต่ำลง อย่างน้อยที่สุดเป็นทางจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจใหม่หรือ S-Curve

นายสถิตย์ กล่าวต่อว่า ในมุมมองภาคเอกชนถือเป็นภาพค่อนข้างบวก เพราะภาคการเงินต้องช่วยเอกชน หรือผู้ประกอบการในการเปลี่ยนผ่านอยู่แล้ว แต่คาดว่าผลกระทบจากปัจจัยภายนอกในระยะข้างหน้าจะมีความรุนแรง จึงจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจภายในประเทศเพื่อรองรับแรงกดดันจากภายนอก

เช่นการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่อัตรา 19% แม้จะยังทำให้ไทยสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ แต่หากเปรียบเทียบกับอดีตที่ไทยเคยได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี GSP อัตรา 0% หรือเฉลี่ยต่ำกว่า 10% สมมิติสินค้าที่ส่งออกมูลค่า 100 บาท ประเทศไทย import วัตถุดิบเข้ามาด้วย ซึ่งตามตัวเลข OECD ประเทศไทยนำเข้ามาราว 38% ของมูลค่าเพิ่ม

ตัวอย่างถ้าส่งออก 100 บาท 32 บาทเราใช้ของต่างประเทศ แต่อีก 68 บาทใช้ในประเทศ แต่ตอนเก็บภาษีเขาเก็บที่เรา ถ้าแยกส่วนที่ผลิตได้ 68% ภาษีที่เก็บไม่ใช่ 19% แต่effective tariff rate อาจสูงถึงราว 31% สูงมาก เรามองว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยค่อนข้างแรงทั้งทางตรงและทางอ้อมกระทบขีดความสามารถการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

พยากรณ์อากาศ 14สิงหาคม68 เตือน7จังหวัดรับมือฝนตกหนัก

23 นาทีที่แล้ว

ดัชนีหุ้น S&P 500 และ Nasdaq ทำนิวไฮต่อ จากความหวังลดดอกเบี้ย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

LIVE ถ่ายทอดสด เปแอสเช พบ สเปอร์ส ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2025 วันนี้

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เริ่มเลย! BBL ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ช่วยกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจ

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

‘วิน พรหมแพทย์’ จากครูดอย สู่แม่ทัพ KAsset ภารกิจปั้นพอร์ต 2 ล้านล้าน

ฐานเศรษฐกิจ

เซ็ปเป้ โชว์ไตรมาส 2 กวาดรายได้ทะลุ 1,548 ล้าน โต 35 % ฟื้นตัวตลาดต่างประเทศ

ฐานเศรษฐกิจ

ปัจจัยรุม “ลักชัวรีแบรนด์” ส่อเค้าหดตัวเหลือ 1.8 แสนล้าน

ฐานเศรษฐกิจ

5 บัตรเครดิตเข้า Lounge สนามบินฟรี ใบไหนดีในปี 2568

SMART SME

Pacamara Coffee เปิด 24ชม.ในรพ.จุฬาฯ ลด 50% สำหรับบุคลากรทางการแพทย์

Manager Online

นบข.เคาะแจกเงินช่วยข้าวนาปี-นาปรัง ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด 10 ไร่ ช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 8.5 แสนครัวเรือน

VoiceTV

POP MART เปิดแฟลกชิพที่ไอคอนสยาม ทุบสถิติขายวันเปิดร้านสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Manager Online

กรมบัญชีกลางต่อยอด New GFMIS Thai e - Tax ออกหลักฐานรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มใช้งาน 13 ส.ค. 2568

VoiceTV

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...