ทูตจีนค้าน ‘อิสราเอล’ ส่อเดินหน้ายึดครองกาซาทั้งหมด
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
สหประชาชาติ, 6 ส.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (5 ส.ค.) เกิ่งส่วง รองผู้แทนถาวรของจีนประจำสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่าจีนวิตกกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับกระแสข่าวอิสราเอลตัดสินใจจะยกระดับการรุกรานทางทหารและเข้ายึดครองฉนวนกาซาอย่างเต็มรูปแบบ โดยจีนคัดค้านการยึดครองที่อาจเกิดขึ้นดังกล่าว
เกิ่งกล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่าจีนกระตุ้นเตือนอิสราเอลยุติการกระทำอันเป็นอันตรายดังกล่าวทันที พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลผูกพันและยั่งยืนโดยเร็ว รวมถึงกลุ่มประเทศที่มีอิทธิพลเหนือฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกระทำการอย่างยุติธรรมและมีความรับผิดชอบ และดำเนินขั้นตอนอันเป็นรูปธรรมเพื่อการหยุดยิง
ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลส่งผลให้พลเรือนในกาซาเสียชีวิตมากกว่า 60,000 ราย และยังคงมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตทุกวัน โดยความจริงอันโหดร้ายนี้สะท้อนว่าวิธีการทางทหารไม่ใช่ทางออก และการหยุดยิงทันทีเป็นวิถีทางที่ถูกต้องในการปกป้องรักษาชีวิตและนำพาตัวประกันกลับบ้าน
พลเรือนผู้บริสุทธิ์สองล้านคนในกาซาไม่ควรตกเป็นเหยื่อของสงครามและไม่ควรต้องทนทุกข์ทรมานกับภัยพิบัติฝีมือมนุษย์อีกต่อไป โดยการปิดกั้นและปิดล้อมที่รุนแรงในปัจจุบัน ทำให้ภัยพิบัติทางมนุษยธรรมในกาซาเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความอดอยากขั้นร้ายแรง
การจำกัดการเข้าถึงความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมรังแต่จะทำให้การลงโทษแบบเหมารวมในกาซารุนแรงยิ่งขึ้นและตัวประกันที่รอดชีวิตเข้าถึงเสบียงช่วยชีวิตยากขึ้น โดยอิสราเอลต้องปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ฟื้นฟูการเข้าถึงความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ และสนับสนุนหน่วยงานมนุษยธรรมอย่างสหประชาชาติในการส่งมอบความช่วยเหลือ
การดำเนินการตามแนวทางแก้ไขปัญหาแบบสองรัฐอย่างเต็มรูปแบบและการทำให้เกิดรัฐปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระเป็นหนทางเดียวในการแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์และป้องกันการเกิดวิกฤตตัวประกันแบบเดิมขึ้นอีก ซึ่งประชาคมระหว่างประเทศควรร่วมคัดค้านการกระทำเพียงฝ่ายเดียวที่บั่นทอนรากฐานของแนวทางแก้ไขปัญหาแบบสองรัฐและเพิ่มความพยายามเดินหน้ากระบวนการทางการเมืองสู่การบรรลุผลเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ จีนจะยังคงทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อยุติการสู้รบในกาซา บรรเทาความทุกข์ยากทางมนุษยธรรม ผลักดันแนวทางการแก้ไขปัญหาแยยสองรัฐ และบรรลุการแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์อย่างครอบคลุม เป็นธรรม และยั่งยืนในท้ายที่สุด