คริปโตยกระดับรสนิยม! เจ็ตส่วนตัว–เรือสำราญหันรับบิทคอยน์ นักธุรกิจรุ่นใหม่ทุ่มดิจิทัลวัดรสนิยม
เศรษฐีคริปโตรุ่นใหม่บุกตลาดท่องเที่ยวหรู! บริษัทเจ็ตส่วนตัว เรือสำราญ และโรงแรมหรูแข่งกันเปิดรับการชำระด้วยบิทคอยน์และคริปโตอื่น ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนวัย 30-40 ที่ร่ำรวยจากสินทรัพย์ดิจิทัล การใช้จ่ายในตลาดท่องเที่ยวหรูคาดโตเกือบสองเท่าภายในปี 2571 สะท้อนความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในพฤติกรรมผู้บริโภครวยใหม่ที่มอง “เวลา” เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่สุด
กระแสความมั่งคั่งจากบิทคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัล กำลังปฏิวัติโลกการเดินทางหรู ล่าสุด FXAIR บริษัทเจ็ตส่วนตัวในเครือ Flexjet ประกาศรับชำระเงินด้วยคริปโต หลังลูกค้าจำนวนมากโดยเฉพาะเศรษฐีคริปโตรุ่นใหม่เรียกร้องให้มีบริการดังกล่าว โดย เคน ริชชี่ ประธานบริษัท ยอมรับว่า ความต้องการจากลูกค้ากลุ่มนี้ “มีกำลังซื้อมหาศาลเกินคาด”
ลูกค้าหลักคือกลุ่มเศรษฐีบิทคอยน์หน้าใหม่ที่ต้องการ “ความเร็วและความสะดวก” มากกว่าความหรูหราแบบดั้งเดิม ค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวบินส่วนตัวจาก ลอนดอน-นิวยอร์ก ของ FXAIR อยู่ที่ราว 80,000 ดอลลาร์ต่อเที่ยว ซึ่งลูกค้าเหล่านี้ยินดีจ่ายเพื่อแลกกับสิ่งที่ ริชชี่เรียกว่า “เวลาที่มีค่าเหนือสิ่งอื่นใด”
การปรับตัวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางราคาบิทคอยน์ที่พุ่งทะยานสู่ 124,000 ดอลลาร์ หลังได้แรงหนุนจากท่าทีเชิงบวกของการเมืองสหรัฐ รวมถึงการสนับสนุนอย่างเปิดเผยของ โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อคริปโต และการแต่งตั้งทีมกำกับดูแลชุดใหม่ กระแสนี้ยังผลักดันหุ้นที่เกี่ยวข้อง เช่น Coinbase และ Circle ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น กลายเป็นกลุ่มลูกค้าร่ำรวยหน้าใหม่พร้อมทุ่มเงินกับสินค้าหรู
เรือสำราญและโรงแรมหรูแห่รับลูกกลุ่มลูกค้าคริปโต
ไม่เพียงการบินเท่านั้น อุตสาหกรรมเรือสำราญก็เร่งรับเทรนด์นี้โดย Virgin Voyages เปิดขายแพ็กเกจเดินเรือรายปีมูลค่า 120,000 ดอลลาร์ จ่ายด้วยคริปโต ขณะที่ SeaDream Yacht Club ผู้ขึ้นชื่อด้านการบริการแบบส่วนตัวมากที่สุด “ลูกค้าต่อพนักงานเกือบ 1:1” ก็เริ่มรับบิทคอยน์ทันทีหลังทรัมป์หวนคืนสู่เวทีการเมือง
“สำหรับนักเดินทางกลุ่มนี้ ความหรูหราไม่ใช่แค่แชมเปญหรือคาเวียร์อีกต่อไป แต่คือ ‘ความยืดหยุ่น’ หากเขาอยากจ่ายด้วยคริปโต เราก็พร้อมให้บริการ” แหล่งข่าวใกล้ชิด SeaDream เผย
ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังลามไปถึง โรงแรมบูทีคหรู เช่น The Kessler Collection และ The Pavilions Hotels and Resorts ที่เปิดรับคริปโตหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Litecoin หรือแม้แต่ Dogecoin
ตลาดท่องเที่ยวหรูโตแรงจากนักลงทุนคริปโต
รายงานของ McKinsey คาดว่า นักท่องเที่ยววัย 30-40 ปีใช้จ่ายกับการเดินทางหรูสูงถึง 28,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 และตัวเลขนี้จะพุ่งแตะ 54,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2571 โดยสัดส่วนสำคัญของผู้บริโภคมาจากกลุ่มเศรษฐีคริปโต
นักวิเคราะห์จาก Jefferies ชี้ว่า “เศรษฐีเจนใหม่นี้ไม่สนใจความหรูแบบเดิม เขาไม่ต้องการจิบแชมเปญหรือกินคาเวียร์ แต่ต้องการไปให้ถึง 3 เมืองในวันเดียว แล้วกลับมาทันนอนที่บ้าน”
กระแสลามถึงตลาดนาฬิกาหรู
ความต้องการใช้คริปโตไม่ได้หยุดอยู่แค่การท่องเที่ยว แต่ยังลุกลามถึงตลาดสะสมนาฬิกาหรู ฌอน เพอร์สัน ซีอีโอ Kettle แพลตฟอร์มนาฬิกาหรู เผยว่า ยอดชำระด้วยคริปโตขยับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากผู้ใช้ในระบบนิเวศ Solana และ Ethereum
เพอร์สัน ระบุว่า ผู้ใช้ยังมอง บิทคอยน์ เป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่า ทำให้ไม่ค่อยใช้จ่ายกับสินค้าฟุ่มเฟือยมากนัก แต่กลุ่มนักเทรดที่คล่องตัวบน SOL และ ETH กลับพร้อมเปลี่ยนกำไรให้เป็นการจับจ่ายในสินค้าและบริการหรู
อย่างไรก็ดีจากการที่ กระแสคริปโตกำลัง “เขย่า” พฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มผู้มั่งคั่งรุ่นใหม่ทั่วโลก จากเดิมที่ความหรูหราวัดกันด้วยสัญลักษณ์ภายนอก เช่น รถสปอร์ตหรือนาฬิกา วันนี้ได้ถูกแทนที่ด้วย “อำนาจแห่งเวลาและความยืดหยุ่น” นักลงทุนคริปโตมองว่าความสามารถในการใช้ชีวิตแบบไร้ข้อจำกัดคือความฟุ่มเฟือยสูงสุด ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวหรู โรงแรม และสินค้าลักชัวรีต้องเร่งปรับตัวรองรับ หากกระแสนี้ยังเดินหน้าต่อไป วงการหรูจะเผชิญการพลิกโฉมครั้งใหญ่จากความหรูหราแบบคลาสสิก สู่ยุคใหม่ที่คริปโตเป็นกุญแจไขโลกแห่งอภิสิทธิ์อย่างไม่มีข้อจำกัด
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO