ครม. มีมติ อนุญาต 'ผู้หนีภัยเมียนมา' ทำงานในไทย ลดปัญหาหลายด้าน

นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 ส.ค. 68 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามแนวทางที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามในมาตรการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา

โดยระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีขอความอนุเคราะห์กระทรวงมหาดไทย เสนอความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา มาเพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเรื่องนี้เข้าช่ายที่จะให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีได้ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ.2548 มาตรา 4 (1) และ (6)สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นั้น

กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า มาตรการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศไทยในหลายมิติ ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สาธารณสุข และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยช่วยยกระดับการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ ลดการลักลอบทำงานผิดกฎหมาย และเสริมสร้างความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน

นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระของรัฐในการดูแลผู้อพยพระยะยาว โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายสามารถพึ่งพาตนเองผ่านการทำงานที่มีรายได้ ขณะเดียวกันยังตอบสนองความต้องการแรงงานในภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ขาดแคลนแรงงาน พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานด้านสุขภาพแรงงานจากการกำหนดให้ต้องตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งแรงงานและระบบสาธารณสุขของไทย ที่สำคัญไทยยังแสดงบงบทบาทเชิงรุกในด้านสิทธิมนุษยชน และความร่วมมือระหว่างประเทศ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตานานาชาติ และเป็นพื้นฐานในการเสริมสร้าง ความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมในอนาคต จึงเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ

โดยบุคคลต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว สำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาทั้ง 9 แห่งใน 4 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี และราชบุรี จะได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำงานได้ไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งอนุญาต

อย่างไรก็ตาม คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายจะต้องขออนุญาตออกนอกเขตพื้นที่ควบคุม และยื่นคำขออนุญาตทำงาน ซึ่งคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตสามารถทำงานกับนายจ้างได้ทุกประเภทที่ไม่มีประกาศห้ามคนต่างด้าวทำ และมีสิทธิทำงานกรรมกรและงานขายของหน้าร้านกับนายจ้างตามประกาศกรมการจัดหางานว่าด้วยเงื่อนไขการรับคนต่างด้าวเข้าทำงาน

ซึ่งในการขออนุญาตทำงานครั้งแรก จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับแรงงานด้วย