'น้ำจืด' จากแหล่งน้ำธรรมชาติ กำลังค่อยๆ กลายเป็น 'น้ำเค็ม'
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ได้เผยแพร่รายงานจากติดตามปัญหา 'ความเค็มของน้ำจืด' มานานหลายปี เพื่อศึกษาว่ากิจกรรมของมนุษย์ เช่นการโรยเกลือบนถนน(เพื่อละลายหิมะ เลี่ยงอุบัติเหตุ) การทำเหมือง และการพัฒนาที่ดิน อาจเป็นตัวเร่งให้เกิด “วัฏจักรเกลือ” ที่ทำให้น้ำจืดตามแหล่งน้ำธรรมชาติเริ่มมีความเค็มมากขึ้น
นอกจากนี้พวกเขายังพบว่าการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลที่มีสาเหตุมาจากวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้น้ำเค็มจากทะเลไหลเข้ามาผสมกับแหล่งน้ำจืด กลายเป็นการพอกพูนปัญหาการสะสมเกลือจากทั้งบนบกและในทะเล ที่จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน ระบบนิเวศ เกษตรกรรม และแหล่งน้ำดื่มทั่วโลก
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจาก 'น้ำจืด' ที่กลายเป็น 'น้ำเค็ม'
- ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศและถิ่นอาศัยของสัตว์น้ำจืดจะถูกคุกคาม
- ค่าใช้จ่ายครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น เพราะการกรองน้ำเค็มให้สามารถบริโภคได้อาจมีกระบวนการที่ใช้ต้นทุนสูงกว่าเดิม
- ความเสี่ยงด้านสุขภาพของประชาชนที่ต้องพึ่งพาแหล่งน้ำ
- ผลกระทบทางการเกษตร ที่น้ำเกลือจะสร้างความเสียหายต่อพืชผล และคุณภาพดินเสื่อมโทรมลงในระยะยาว ทำให้ผลผลิตลดลงจนอาจกระทบความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก
- โครงสร้างพื้นฐาน เช่น สะพาน ท่อน้ำเสีย และสายเคเบิลใต้น้ำ อาจถูกกัดกร่อนได้เร็วขึ้นเนื่องจากสัมผัสกับน้ำเกลือเป็นเวลานาน การซ่อมแซมมีค่าใช้จ่ายสูง และเกิดข้อกังวลด้านความปลอดภัย
การบรรเทาภัยคุกคามจากน้ำเค็ม
เพื่อป้องกันไม่ให้ผลกระทบจากปัญหาน้ำจืดที่เริ่มเค็มนี้บานปลายจนไร้หนทางแก้ไข ผู้เชี่ยวชาญได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนในอนาคต ก่อนที่ผลกระทบเล็กน้อยจะถูกขยายกลายเป็นปัญหาอย่างถาวร เช่น หาวิธีจัดการกับเกลือที่ถูกโรยบนถนน ควบคุมการปล่อยเกลือจากภาคอุตสาหกรรม ปรับปรุงการบำบัดน้ำเสีย และการป้องกันการรุกล้ำของน้ำเค็มบริเวณชายฝั่ง