2 ยักษ์เอเชียที่ต่างถูก‘ทรัมป์’เล่นงาน! รมว.ต่างปท.จีนเยือนอินเดียเร่งฟื้นสัมพันธ์ เข้าพบ‘นายกฯโมดี’ซึ่งเตรียมไปแดนมังกรพบ‘สีจิ้นผิง’
รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ของจีน เดินทางเยือนอินเดีย โดยในวันอังคาร (19 ส.ค.) มีกำหนดการเข้าพบนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของแดนภารตะ ที่เตรียมเดินทางไปจีนปลายเดือนนี้ ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณของการผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากที่มหาอำนาจเอเชีย 2 รายนี้มีการเผชิญหน้ากันมายาวนานเป็นปี อีกทั้งเกิดขึ้นขณะที่ทั้งคู่ต่างเผชิญแรงกดดันสงครามภาษีศุลกากรจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ
หวัง เดินทางถึงอินเดียตั้งแต่วันจันทร์ (18) โดยมีกำหนดเยือนเป็นเวลา 3 วัน เพื่อเข้าประชุมเจรจาข้อพิพาทด้านพรมแดน รวมทั้งได้พบหารือกับ สุพราหมัณยัม ชัยศังกร รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย เขายังมีกำหนดการเข้าพบายกรัฐมนตรีโมดี ในวันอังคาร (19) รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ของแดนภารตะ โดยคาดหมายกันว่า ประเด็นหารือจะครอบคลุมถึงการลดกำลังพลตามแนวชายแดนระหว่างกัน และความเป็นไปได้ในการฟื้นฟูการค้าในบริเวณที่มีข้อพิพาท
อาจิต โดวาล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอินเดีย กล่าวกับ หวัง ระหว่างหารือกันในวันอังคารว่า ความสัมพันธ์อินเดีย-จีนมีแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่พรมแดนเงียบสงบ และสองประเทศก็สามารถทำข้อตกลงทวิภาคีจำนวนมาก สภาพแวดล้อมใหม่ที่เกิดขึ้นช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าในหลายๆ ด้านที่จีนและอินเดียกำลังร่วมมือกัน
หวัง ขานรับว่า ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ
ก่อนหน้านั้น แหล่งข่าวอินเดียคนหนึ่งเผยว่า จีนให้สัญญาแก้ไขข้อกังวลสำคัญของอินเดีย โดย หวัง ให้ความมั่นใจแก่รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียว่า ปักกิ่งจะตอบสนองความต้องการของอินเดียในเรื่องปุ๋ย แร่ธาตุหายากหรือแรร์เอิร์ธ และเครื่องเจาะอุโมงค์
อย่างไรก็ดี ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ปักกิ่งตกลงอนุมัติใบอนุญาตส่งออกให้เร็วขึ้นหรือออกมาตรการยกเว้นแบบครอบคลุมให้แก่อินเดีย
ก่อนหน้านี้จีนให้คำมั่นในการเร่งการออกใบอนุญาตส่งออกให้ยุโรปและอเมริกาโดยที่ไม่ได้ยกเลิกมาตรการควบคุมอย่างแท้จริง
ยอดส่งออกแรร์เอิร์ธและแม่เหล็กหายากของจีนพุ่งขึ้นในเดือนมิถุนายนหลังจากข้อตกลงดังกล่าว ขณะที่มีผู้ยื่นขอใบอนุญาตส่งออกต่อกระทรวงพาณิชย์จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม การส่งออกแรร์เอิร์ธไปยังอินเดียยังลดลง 58% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม
อินเดียนั้นเป็นประเทศที่มีแรร์เอิร์ธสำรอง 6.9 ล้านเมตริกตัน หรือสูงสุดอันดับที่ 5 ของโลก แต่ไม่มีการผลิตแม่เหล็กแรร์เอิร์ธภายในประเทศและต้องพึ่งพิงการนำเข้าโดยเฉพาะจากจีน
ขณะเดียวกัน โดวาลเปิดเผยว่า โมดีจะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (เอสซีโอ) ที่เมืองเทียนจิน ของจีน ในวันที่ 31 นี้ ซึ่งจะถือเป็นการเดินทางเยือนจีนครั้งแรกนับจากปี 2018
หวังกล่าวว่า การร่วมประชุมเอสซีโอของโมดีมีความสำคัญอย่างมาก และสำทับว่า ประวัติศาสตร์และความจริงพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ความสัมพันธ์ที่ดีและมั่นคงระหว่างจีนกับอินเดียช่วยส่งเสริมผลประโยชน์พื้นฐานและผลประโยชน์ระยะยาวของทั้งสองประเทศ
ก่อนหน้านี้สองประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของโลกคู่นี้เป็นปฏิปักษ์กันอย่างรุนแรงจากการแข่งขันขยายอิทธิพลในเอเชียใต้ และเคยปะทะสู้รบกันช่วงสั้นๆ บริเวณชายแดนเมื่อปี 2020
นอกจากนั้น เวลานี้อินเดียยังเป็นสมาชิกของกลุ่มคว็อด ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรด้านความมั่นคงที่มีเป้าหมายต่อต้านจีน โดยสมาชิกอีก 3 รายประกอบด้วยอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น
ทว่า หลังเผชิญความปั่นป่วนด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ทรัมป์สั่งรีดภาษีนิวเดลีสูงลิบ จีนและอินเดียเริ่มหันหน้าปรับความเข้าใจกัน
ระหว่างการหารือกับสุพราหมัณยัมในวันจันทร์ หวังกล่าวว่า สองประเทศควรมองกันและกันในฐานะหุ้นส่วนและโอกาส แทนที่จะมองเป็นศัตรูหรือภัยคุกคาม
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO