MOODY: อย่าเป็นตัวเองนักเลย? ถ้ามันจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน นักจิตฯ แนะ เป็นตัวเองอย่างไรให้คนรัก
จากวลี ‘จงเป็นตัวของตัวเอง’ สู่การช็อตฟีลที่ว่า “ถ้าเป็นตัวเองแล้วมันไม่ดี ลองเป็นคนอื่นบ้างก็ได้นะ”
ก่อนอื่น MOODY ขอย้ำก่อนว่า ทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้ แต่การเป็นตัวเองสำหรับบางคนอาจเป็นดาบสองคมที่กลับมาทำร้ายเขา
โดยเฉพาะเมื่อใช้มันเป็นข้ออ้างเพื่อแสดงออกในแบบที่ไม่ใส่ใจผลกระทบต่อคนอื่น หรือยึดมั่นกับตัวตนด้านใดด้านหนึ่งจนปิดกั้นการเติบโตของตัวเองในด้านอื่นๆ ดังนั้นสำหรับบทความนี้ที่อยากชวนให้ทุกคนมองก็คือ
แล้วเราควร ‘เป็นตัวเอง’ อย่างไรดี ถึงจะไม่ทำร้ายทั้งตัวเราและคนรอบข้าง?
บริตต์ แฟรงก์ (Britt Frank) นักจิตบำบัดผู้เขียนหนังสือ ‘The Science of Stuck’ และ ‘Align Your Mind’ ชี้ให้เห็นว่า ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ‘ความเป็นตัวเอง’ มักกลายเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตัวตนอย่างยืดหยุ่นและมีความรับผิดชอบ เพราะในความเป็นจริงแล้ว เราไม่ได้มี ‘ตัวตน’ เพียงด้านเดียว
แต่ตัวเราเป็นเหมือนระบบนิเวศทางจิตใจที่เต็มไปด้วยตัวละครหลากหลาย ทั้งส่วนที่กล้าแสดงออก และส่วนที่กลัวการตัดสิน ส่วนที่ใส่ใจคนอื่น และส่วนที่เห็นแก่ตัว เพราะฉะนั้น ‘ตัวเรา’ คือการรวมกันของความขัดแย้งเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างตายตัว
การใช้ชีวิตโดยยึดมั่นว่าต้องแสดงความเป็นตัวเองแบบ ‘แท้จริง’ ตลอดเวลา อาจกลายเป็นการปิดกั้นความยืดหยุ่นที่จำเป็นในความสัมพันธ์ และส่งผลต่อการตัดสินใจต่างๆ โดยไม่รู้ตัว เราอาจพูดแรงในวันที่อารมณ์แย่ แล้วอ้างว่า “นี่แหละตัวฉัน” ทั้งที่ในความเป็นจริง มันอาจเป็นเพียงเศษเสี้ยวของเราในภาวะที่เหนื่อยล้า ไม่ใช่แก่นของตัวตนที่แท้จริงก็ได้
สิ่งที่สำคัญกว่า คือการเป็น‘ผู้นำตัวเอง’ ให้ได้ การเป็นผู้นำตัวเองไม่ใช่การบังคับควบคุมทุกความรู้สึก แต่คือการมองเห็นทุกด้านภายในของเรา ทั้งด้านที่โกรธ ด้านที่อ่อนโยน ด้านที่ลังเล และด้านที่มั่นใจ แล้วเลือกอย่างมีสติว่าด้านไหนควรเป็นผู้พูด ด้านไหนควรรับฟังในสถานการณ์นั้นๆ
เราไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่างที่คิด หรือแสดงอารมณ์ทุกอย่างที่รู้สึกทันที เพราะความซื่อสัตย์ที่ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง อาจสร้างความเสียหายมากกว่าการสร้างความสัมพันธ์ ในบางครั้ง ความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราเลือกแสดงออกจึงสำคัญยิ่งกว่าความ ‘ดิบ’ ที่เรียกว่า ‘ความจริงใจ’
แนวทางของบริตต์คือการเปลี่ยนจากการยึดมั่นใน ‘ความแท้จริงเพียงหนึ่งเดียว’ ไปสู่การ ‘สร้างความสอดคล้อง’ ภายใน นั่นหมายถึงการรับฟังเสียงหลากหลายจากตัวเราทุกด้าน เหมือนนั่งประชุมร่วมกับตัวเอง แล้วตัดสินใจด้วยความตั้งใจ ไม่ใช่แค่ความเคยชินหรืออารมณ์นำ
เมื่อเราเข้าใจว่าการเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้หมายถึงการยึดติดกับด้านใดด้านหนึ่ง แต่คือการมีสติรู้เท่าทันตัวเอง เลือกแสดงออกในแบบที่สอดคล้องกับคุณค่า และไม่ละเลยผลกระทบต่อผู้อื่น เมื่อนั้นเราจะสามารถ ‘เป็นตัวของตัวเอง’ ได้อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องทำร้ายใครรวมถึงตัวเราเองด้วยเช่นกัน
หรือพูดง่ายๆ ว่า ‘การเป็นตัวของตัวเอง’ ไม่ได้หมายถึงการแสดงออกด้านใดด้านหนึ่งของตัวเราตลอดเวลา เพราะตัวเราทุกคนล้วนมีหลายมิติ หลายอารมณ์ หลายเวอร์ชันที่อยู่ร่วมกันในใจ
สิ่งที่สำคัญจริงๆ จึงไม่ใช่การยึดติดกับความ ‘แท้จริง’ แบบตายตัว แต่คือการรู้จักฟังตัวเองอย่างลึกซึ้ง และเลือกหยิบ ‘ด้านหนึ่ง’ ของตัวตนเหล่านั้นออกมาใช้ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และเคารพต่อทั้งตัวเองและผู้อื่นมากที่สุด
เพราะในโลกที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง การรู้จักปรับตัวอย่างมีจริยธรรม คือความกล้าหาญที่แท้จริงของการเป็นตัวเรา
การเป็นตัวเองที่ดีจึงไม่ใช่การตะโกนว่า “นี่แหละฉัน!” โดยไม่แคร์ใคร แต่คือการกระซิบกับตัวเองว่า
“ฉันเข้าใจตัวเอง และฉันจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ ณ เวลานี้”