โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ศบ.ทก.ชัดเจน มาตรการตอบโต้ เขมรวางทุ่นระเบิด

INN News

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • INN News

ศบ.ทก.ชัดมาตรการตอบโต้ ประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรกัมพูชา -แจ้งประธานออตตาวา ละเมิดอธิปไตย-หลักกฎหมายระหว่างประเทศ วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทำทหารไทยทุพพลภาพ พร้อมเชิญฑูตทหารฟังชี้แจงเร็วๆนี้

พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ประจำวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2568

โดยพลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวว่า กล่าวถึงการพิสูจน์ทราบทุ่นระเบิด จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เป็น ผลมาจากที่หน่วยเฉพาะกิจที่หนึ่ง กองกำลังสุรนารี ได้ปฏิบัติการลาดตระเวน เพื่อคุ้มครองการเสริมสร้างเส้นทางทางยุทธวิธี จากฐานมรกตไปยังเนิน 481 ซึ่งถือเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ทำให้พลทหารเหยียบกับระเบิด ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ยืนยันว่าทางการไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการจัดหน่วยผู้เชี่ยวชาญด้านทุ่นระเบิดเข้าไปพิสูจน์ทราบ

โดยในวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 หน่วยดังกล่าวได้สำรวจและพิสูจน์ทราบว่าในพื้นที่เกิดเหตุ อยู่ห่างจากเส้นปฏิบัติการ 130 เมตร โดยจุดวางทุ่นระเบิดอยู่บนเส้นทางลาดตระเวนของฝ่ายไทย ที่เป็นการปฏิบัติตามปกติ ซึ่งการลาดตระเวนทางฝ่ายไทยมีการดำเนินการตามปกติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในถือเป็นเหตุสุดวิสัย

หน่วยพิสูจน์ทราบได้พิสูจน์ทราบว่าหลุมระเบิดที่เกิดเหตุนั้นมีความกว้าง 69 ซม.ลึก 23 ซม. หน่วยชุดพิสูจน์ทราบได้พบเศษวัตถุระเบิดชนิด PMN 2 และพบทุ่นระเบิดเพิ่มอีก 2 จุด จากการพิสูจน์ทราบ โดยจุดแรกอยู่ห่างจากต้นพญาสัตบรรณ ราว 50 เมตรใกล้คูเลตที่ทางทหารกัมพูชาเคยขุดไว้ ซึ่งเป็นกรณีพิพาทระหว่างกัน ตรวจพบอีก 3 ทุ่น ส่วนจุดที่ 2 พบเพิ่มอีก 5 ทุ่น ห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร รวมทั้งหมดในการพิสูจน์ทราบ เจอทั้งหมด 7 ทุ่น

จากการตรวจพบทุ่นระเบิดยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นระเบิดใช่ใหม่ PMN 2 มีสภาพใหม่พร้อมทำงาน ปรากฏตัวอักษรชัดเจนบริเวณด้านข้างทุ่นระเบิด ซึ่งทุ่นระเบิดชนิดนี้ประเทศไทยและกองทัพไทยไม่มีอยระบบสารระบบยุทโธปกรณ์ ขณะเดียวกันหลักฐานที่ชัดเจน ยังไม่มีวัชพืชหรือรากไม้ขึ้นปกคลุม พบร่องรอยของการขุดเพื่อวางทุ่นระเบิด

โดยในปี 2565 กองทัพได้ดำเนินการกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่บริเวณช่องบก โดยไม่ตรวจพบทุ่นระเบิด PMN 2 แต่?อย่างใด ซึ่งเป็นสิ่งบ่งบอกว่าระเบิดชนิดนี้เป็นระเบิดใหม่ และประเมินได้ว่า
PMN 2 ที่ตรวจพบเป็นการวางหลังจากเกิดเหตุปะทะเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา และวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ตรวจพบทุ่นระเบิดอีก 2 จุดโดยเป็นระเบิดชนิด PMN 2 เช่นเดียวกัน ห่างจากหลุมระเบิดที่เกิดเหตุ ประมาณ 20-30 เซนติเมตร ชี้ชัดว่ามีการวางใหม่เพิ่มเติมอีก โดยเป้าหมายเพื่อสังหารบุคคลและเป็นการละเมิดอนุสัญญาต่อว่าอย่างชัดการรุกลเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทย

พลเรือตรีสุรสันต์ ยังกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพได้ยกระดับมาตรการการปฏิบัติที่เข้มข้นขึ้น? โดยหน่วยในพื้นที่ได้รับคำสั่งให้เพิ่มความระมัดระวังในการลาดตระเวน และมีการเตรียมความพร้อมสูงขึ้น ตามหลักการปฏิบัติของกฎการใช้กำลังของกองทัพ ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติโดยกองทัพไทยได้ออกหนังสือประนามการกระทำดังกล่าวอย่างชัดเจน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา และจะยังคงติดตามและมีมาตรการเพิ่มเติม นอกจากนี้กองทัพยังมีวาระที่จะเชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารรวมถึงผู้แทนกองทัพจากประเทศต่างๆ มารับฟังคำชี้แจงเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงในเร็วๆนี้

ส่วนกรณีประสาทตาเมือนธมที่เกิดเหตุการณ์เมื่อ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ร่วมหารือเพื่อแก้ไขหามาตรการในการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ กระทบกระทั่ง ระหว่างนักท่องเที่ยวทั้งสองฝ่าย โดยมีการกำหนดมาตรการ หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาติใดให้เจ้าหน้าที่ชุดประสานงานของชาตินั้นเป็นผู้จัดการ โดยจะเชิญตัวนักท่องเที่ยว ออกจากพื้นที่

กรณีที่ส่วนกรณีที่มีปัญหาในพื้นที่การแก้ไขปัญหาให้ชุดประสานงานประสาทในพื้นที่ซึ่งแต่ละฝ่ายจัดกำลัง 7 นาย ให้เป็นผู้ดำเนินการในการแก้ไขปัญหาไม่มีการเรียกชุดกำลังเสริม หรือชุดอื่นๆ
ที่ไม่เกี่ยวข้องมาเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าหรือลดการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงขอให้ทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการคัดกรองนักท่องเที่ยวของแต่ละฝ่ายก่อนที่จะขึ้นมาเยี่ยมชม ปราสาทตาเมือนธม และขอยืนยันว่ามาตรการทั้ง 3 มาตรการ

มีผลบังคับใช้แล้วซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพร้อมต้องการในการดำเนินการ พร้อมกำหนดมาตรการเพิ่มเติมจัดชุดอาสาสมัครและทหารพรานหญิงมาอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม

ด้านนางมาระตี กล่าวว่า จากกรณีการลาดตระเวน ของทหารที่บริเวณช่วงบกอุบลราชธานี ประสบเหตุทหารเหยียบกับระเบิด 3 นาย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศบ.ทก.ได้รับรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ตรวจพบไม่มีการใช้ในคลังอาวุธไทย ประกอบกับ การประมวลข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงนำไปสู่ข้อสรุปว่าเป็นการวางระบบสังหารบุคคลหรือฝ่ายกัมพูชา ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง

กระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์วานนี้ ขอประนามอย่างรุนแรงที่สุดในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือฝ่ายกัมพูชาละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำ ที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตร? อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธะกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อนุสัญญาออตตาวาว่าอย่างชัดเจน

ดังนั้นเพื่อรักษาท่าทีและผลประโยชน์ในเวทีระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจะประท้วงอย่างเป็นทางการ กรณีที่เกิดขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร ไปยังฝ่ายกัมพูชา เนื่องจากเป็นการละเมิดอธิปไตย หลักกฎหมายระหว่างประเทศ และมนุษยธรรมและพันธะกรณีกับอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และยังส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพ

ขณะเดียวกันจะดำเนินการตามกระบวนการของอนุสัญญาออตตาวา พันธกรณีของไทยที่เป็นรัฐภาคีที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมระหว่างประเทศ ที่จะต้องแจ้งการละเมิดอนุสัญญาต่อประธาน
การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาซึ่งปัจจุบัน คือประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำไปสู่การรับผิดชอบโดยกัมพูชา นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศจะเดินหน้าต่อในการชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้มิตรประเทศและองค์การต่างๆ รับทราบโดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อภารกิจด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของกัมพูชา เช่นญี่ปุ่น และนอร์เวย์ รวมถึงองค์กรต่างๆที่มีบทบาทในเวทีอนุสัญญาว่าและจะจัดการสรุปขณะพูดประจำประเทศไทย

โดยขณะนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูง ว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก โดยจะได้พบหารือผู้แทนระดับสูงจากประเทศต่างๆ ก็ใช้โอกาสนี้ยืนยันจุดยืนของไทยต่อประชาคมโลก โดยเฉพาะหลักการของไทย ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีและการเจรจาผ่านกรอบทวิภาคี ไทยขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชา ให้ให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดนตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้ตกลงกันไว้ภายในกรอบทวิภาคี เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยของพื้นที่และของประชาชนของทั้งสองฝ่าย

แม้ขณะนี้เรากำลังดำเนินการเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะมีทั้งมิติด้านความสัมพันธ์ทวิภาคี และการดำเนินการตามกลไกและพันธะกรณีระหว่างประเทศ แต่ขอเน้นย้ำว่า ไทยยังคงยืนยันจุดยืนที่จัดเจรจาทวิภาคีกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในเวลานี้ ไปไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฝ่ายความผิดกัมพูชาจะให้ความร่วมมือในกรอบทวิภาคี ด้วยความสุจริตใจ

โดยเริ่มจากการเข้าร่วม JBC RBC GBC ครั้งต่อไป และหวังว่าจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์อีกทั้งไทยพร้อมที่จะใช้กรอบทวิภาคีที่อื่นๆด้วยส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง ของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ

ขณะเดียวกัน ยังขอให้ตรวจสอบข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์ อย่างคำพูดของผู้นำกัมพูชาทั้ง 2 คน ซึ่งย้อนแย้งกันเองทั้งคำพูดและการกระทำ นำไปสู่ความแตกแยกได้โดยไม่ตั้งใจ จึงอยากให้
มีการตรวจสอบข้อมูลก่อนนำขึ้นพื้นที่สาธารณะ โดยการเผยแพร่ข้อมูลและชี้แจงการดำเนินการของฝ่ายไทย เราเน้นเรื่องการสื่อสารผ่านช่องทางทางการที่มีความรอบคอบและถูกต้อง บนพื้นฐานของกฎหมาย ไม่ได้ดำเนินการพิมพ์เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว แต่ไม่ได้สนใจความจริง เพียงเพื่อให้ได้รับความนิยมตามกระแสในสังคมโดยการสัมผัสความถูกต้อง ตามหลักการ พร้อมขอให้เชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกหน่วยงาน

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก INN News

วิดีโอ

"ญดา นริลญา" เผยเพิ่งต่อสัญญาใหม่กับช่อง 3 แฮปปี้ช่องให้รับงานนอกได้

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

พ่อฟ้า “ธนาธร” มาแล้ว Vs โพล ยุคนไทยหา “ผู้นำใหม่” ฝ่าวิกฤติ?

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อาสาช่วยได้! ประชาชนขอความช่วยเหลือลืมกุญแจไว้ในรถ จอดอยู่ซอยพุทธบูชา 36

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา
วิดีโอ

ใจหาย! “บ่าววี อาร์สยาม” ประสบอุบัติเหตุ หน้ารถพังเละ โชคดีที่ปลอดภัย | iNN Entertainment

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม