ไม่ทิ้งความหวัง! ปชน.ลุยถกนิรโทษฯชั้น กมธ.ให้ครอบคลุมที่สุด
เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังสภาฯมีมติตีตกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ของนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และฉบับของภาคประชาชน ซึ่งเปิดช่องรวมคดีตามมาตรา 112
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เข้าใจว่า สส.และประชาชนหลายคน อาจจะรู้สึกผิดหวัง โกรธ หรือบางส่วนอาจจะรู้สึกไม่พอใจ และยังมองว่าการนิรโทษกรรมที่มีแนวโน้มการเลือกปฏิบัติแค่บางกลุ่ม ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้จริง แต่วันนี้พวกเราต้องการมายืนยันกับทุกคนว่าพวกเราเชื่อในกระบวนการในระบบรัฐสภา และร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมที่ผ่านสภาในวาระที่ 1 ไปทั้ง 3 ร่าง มี 2 ใน 3 ร่าง ที่หลักการยังเปิดกว้างอยู่ ทั้งนี้กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคประชาชน เราพร้อมใช้กลไกทุกอย่างในชั้นกรรมาธิการเพื่อที่จะเปิดประตูและเปิดกว้างในการนิรโทษกรรมเพื่อครอบคลุมทุกฝ่ายมากที่สุด เท่าที่เราจะสามารถทำได้ นี่เป็นสิ่งที่พวกเรามายืนยันการทำหน้าที่ของเรา
“พวกเราเข้าใจทุกฝ่าย ผมเป็นหนึ่งคนในฐานะประชาชนที่เคยร่วมไปช่วยทำงานตอนที่มีการล่ารายชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชน ผมทราบดีว่าการเสนอร่างกฎหมายที่มาจากภาคประชาชนนั้นลำบากกว่า สส.เยอะ และร่างที่ส่วนตัวผมคาดหวังให้ผ่านมากที่สุดคือร่างของภาคประชาชน ไม่ใช่ของพรรคประชาชนด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าอย่างน้อยหากภาคประชาชนผ่าน สัดส่วนของกรรมาธิการที่จะพิจารณาต่อในวาระที่ 2 ก็จะมีภาคประชาชนเข้าไปด้วย" นายณัฐพงษ์ กล่าว
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม การลงมติในวันนี้ทำให้หลายคนรู้สึกผิดหวัง ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิด แต่อย่างไรก็ตามในฐานะพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกมาวันนี้พวกเรายืนยันว่าจะทำหน้าที่อย่างมีวุฒิภาวะและจะไม่ละทิ้งความหวัง ในชั้นกรรมาธิการ พวกเราจะผลักดันกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้การนิรโทษเปิดประตูและเปิดกว้างให้ได้มากที่สุด และครอบคลุมทุกฝ่าย
เมื่อถามว่าจะมีการไปขับเคลื่อนต่อไปในชั้นกรรมาธิการใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จะไปสู้ต่อในชั้นกรรมาธิการ แต่ตนคิดว่าหลักการวันนี้ที่เราสามารถยืนยันได้ หากกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาในวาระ 3 ได้ ก่อนที่จะมีการยุบสภา และหากเป็นร่างกฎหมายที่เลือกปฏิบัติ ไม่ครอบคลุมทุกฝ่ายจริงๆ เราคงไม่สามารถที่จะเห็นชอบได้ แต่วันนี้กระบวนการยังไม่ถึงที่สิ้นสุด เราเองก็ทิ้งความหวังไม่ได้ ยืนยันว่ากรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคประชาชนเราพร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อเปิดประตูให้ได้มากที่สุด
เมื่อถามว่า หากดูจากสถานการณ์ทางการเมืองและความสั่นคลอนของรัฐบาล มองว่ากฎหมายฉบับนี้จะสามารถผ่านได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีทั้งความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้ ความที่เป็นไปไม่ได้คือมีสถานการณ์ยุบสภาฯก่อน ที่กฎหมายฉบับนี้จะพิจารณาได้ทัน แต่ก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมดว่าจะออกมาในทิศทางใด ต้องรอติดตามต่อไป
ส่วนมีกฎหมายอะไรที่พรรคประชาชนจะเสนอในช่วงนี้อีกหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังมีอีกหลายฉบับ อีกทั้งที่มีการประเมินว่าด้วยสถานการณ์การเมืองขณะนี้อายุสภาฯที่เหลืออยู่ อาจจะเหลือไม่มาก ซึ่งพรรคประชาชนทั้ง 141 เสียง พร้อมที่จะผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนให้มากที่สุด