“ฝายคลองใหญ่” เสริมชีวิต สร้างน้ำเปลี่ยนผืนดิน สู่สวนผสมผสานยั่งยืน
จากนาร้างไร้น้ำ สู่สวนผลไม้เขียวขจีตลอดปี ราษฎรบ้านยูงงาม และบ้านโหล๊ะคล้า ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง พลิกฟื้นผืนนาแห้งแล้งกว่า 2,000 ไร่ ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง หลังได้รับพระราชทานโครงการก่อสร้างฝายคลองใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อปี 2538 เกิดเป็นพื้นที่เกษตรผสมผสานรายได้ดี และต่อยอดสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ พร้อมด้วยนางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไปยังโครงการฝายคลองใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เพื่อติดตามผลสัมฤทธิ์และเยี่ยมราษฎรตลอดจนการใช้ประโยชน์จาโครงการฯ
นายสนิท ชูคง อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า พื้นที่เดิมมีนาข้าวกว่า 2,000 ไร่ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากขาดแคลนน้ำและถูกหนูนากัดกินจนเสียหาย อีกทั้งในช่วงหน้าแล้งยังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ชาวบ้านหมู่ที่ 1 บ้านยูงงาม และหมู่ที่ 7 บ้านโหล๊ะคล้า จึงร่วมประชุมและลงความเห็นจัดทำหนังสือขอพระราชทานความช่วยเหลือจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ประมาณ 2,200 ไร่ ครอบคลุมราษฎร 500 ครัวเรือน กระทั่งในปี 2538 พระองค์ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต่อมาในปี 2539 จึงได้มีการก่อสร้างฝายคลองใหญ่และแล้วเสร็จในปีเดียวกัน ทำให้พื้นที่มีน้ำเพียงพอ ราษฎรสามารถเปลี่ยนจากการทำนา มาเพาะปลูกพืชผักและไม้ผลได้หลากหลายชนิดขึ้น เช่น ยางพารา ทุเรียน ลองกอง สตอ กาแฟ และปาล์มน้ำมัน โดยมียางพาราและปาล์มน้ำมันเป็นพืชหลัก บางครอบครัวยังเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อเสริมรายได้อีกด้วย
นายสนิท ชูคง กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันโครงการฯ ช่วยให้ราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และกรมชลประทานเตรียมขยายผลโดยวางระบบท่อส่งน้ำเพิ่มเพื่อให้พื้นที่เพาะปลูกที่ยังขาดแคลนน้ำสามารถใช้น้ำได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น
นายเชื่อง ไชยสงคราม ราษฎรตำบลโพรงจระเข้ เปิดเผยว่า เดิมพื้นที่มีลำห้วยน้ำไหลตลอดปี แต่ปริมาณน้ำน้อย ไม่เพียงพอต่อการใช้งานของชาวบ้าน กระทั่งมีการก่อสร้างฝายคลองใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทำให้สามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้น มีน้ำใช้ตลอดปี ส่งผลให้เพาะปลูกได้ผลดี ผลผลิตสมบูรณ์ รายได้ของครัวเรือนดีขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ขัดสนเหมือนในอดีต
“ขณะนี้ชาวบ้านมีแนวคิดจะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพราะผลผลิตดี พืชผักมีมาก น้ำก็เพียงพอ หากเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวจะช่วยสร้างรายได้เสริมจากการจำหน่ายผลผลิตจากสวน ถือเป็นการต่อยอดประโยชน์จากโครงการฝายคลองใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” นายเชื่อง ไชยสงคราม กล่าว
ฝายคลองใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นฝายคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดสันฝาย ยาว 20 เมตร สูง 2 เมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2539 ปัจจุบันสามารถช่วยเหลือราษฎร หมู่ที่ 1 บ้านยูงงาม และหมู่ที่ 7 บ้านโหล๊ะคล้า ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง จำนวน 500 ครัวเรือน โดยมีรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรจากพื้นที่รวม 1,455 ไร่ สร้างรายได้ 26.57 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งมีรายได้จากปศุสัตว์ การแปรผลิตภัณฑ์ เช่น กล้วยฉาบ การทำเครื่องจักสาน และการท่องเที่ยวอีกด้วย
โอกาสนี้ องคมนตรี ได้ให้ข้อเสนอแนะโดยขอให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสภาพปัจจุบันการใช้ประโยชน์พื้นที่เปลี่ยนแปลงไป จากสภาพเดิมเป็นพื้นที่ทำนาเปลี่ยนเป็นการทำเกษตรผสมผสาน ปลูกไม้ผล การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดขอให้ทุกคนได้ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ให้ผู้นำท้องถิ่น พี่น้อง ประชาชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันดูแล รักษา ทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อส่งต่อให้ลูกหลานต่อไป