โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘ทักษิณ’ ร่ายยาวไม่ยอมให้ประเทศถึงทางตัน หาก ‘อิ๊งค์’ ไม่รอดเสนอ ‘ชัยเกษม’ มี สทร.อยู่ทั้งคน

ไทยโพสต์

อัพเดต 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 5.21 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ทักษิณ" ลั่นเมืองไทยไม่มีทางตัน มั่นใจความบริสุทธิ์ลูกสาว หวังศาลรับฟัง สวดจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด พวกสุมหัวไปตั้งรัฐบาล ไม่ปิดประตู มีโอกาสกลืนเลือดจูบปาก ภท. รอบสาม หากติดคณิตศาสตร์การเมือง เหตุไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เผยไม่ได้คุยกับเนวิน-อนุทิน เลย มองเป็นฝ่ายแค้นมากกว่าฝ่ายค้าน เชื่อ การเมืองไม่มีสูญญากาศ แม้ลูกอิ๊งค์ถูกสั่งพักงาน ชม มท.1 คนใหม่มาถูกทาง สั่งโยกย้ายทันทีหลังเริ่มงาน ลั่น สายน้ำไม่เคยไหลกลับ หากจะรีเทิร์นต้องรอสมัยหน้า

9 กรกฎาคม 2568 - ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ 55 ปี เนชั่น ผ่าทางตันประเทศไทย เอ็กซ์คลูซีฟ ทอล์ก กับ 4 ผู้นำทางความคิด ร่วมชี้ทางรอดการเมือง ทางออกประเทศไทย 3 บก. ถาม บก.ที่ 4 ตอบ

โดยก่อนเริ่มถ่ายทอดสด พิธีกรได้เชิญนายทักษิณขึ้นบนเวที โดยนายทักษิณ กล่าวว่า “วันนี้มาในฐานะพ่อนายกฯ” ขณะเดียวกันพิธีกรได้กล่าวแซวนายทักษิณว่า “เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหน ต้องมีลูกสาวเกาะติดเป็นผู้ติดตามตลอด” ซึ่งนายทักษิณยิ้มและกล่าวว่า “ผมเป็นคนที่ใกล้ชิดลูกๆ 17 ปีที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดลูกๆ กลับมาเขาก็ต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใย”

จากนั้นเข้าสู่การถ่ายทอดสด โดยพิธีกรได้ถามว่า วันนี้ประเทศถึงทางตันแล้วหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “แสดงว่ามีคนอุดไว้ มันถึงจะตัน เหตุเกิดที่ไหนก็ต้องดับที่นั่น”

ส่วนเป็นกลุ่มใด องค์กรใดที่ไปอุดไว้ทำให้เกิดทางตัน นายทักษิณ กล่าวว่า เราต้องเข้าใจก่อนว่าประเทศไทยคนอยากเป็นนายกฯ เยอะ ลูกชายไปเที่ยวเมืองนอกก็ประกาศเลยว่า พ่อจะต้องเป็นนายกฯ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ตนจะเล่าให้ฟังคนที่อยากไปเป็นนายกฯ นี่ เขายอมทำทุกอย่าง เพราะอยากให้หมอดูแม่น เดี๋ยวหมอดูจะไม่แม่น ส่วนที่เขาทำเพื่อหมอดูหรือเพื่อตัวเอง นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ด้วยกัน ส่วนจะได้เป็นนายกฯ หรือไม่นั้น ตนไม่รู้เพราะเห็นว่าลูกชายพูดแบบนั้น

จากนั้นพิธีกร ถามว่าในแคนดิเดตนายกฯ ส่วนใหญ่มีแต่ลูกสาว มีอยู่คนเดียว คือ น.หนูอนุทินแน่ๆ นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมไม่ได้พูดนะ”

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ส่วนปัญหาทางตันที่เกิดขึ้นนั้น การเมืองมีหลายรูปแบบโดยเฉพาะเรื่องนิติสงครามที่เข้ามา บางทีก็เป็นเรื่องของตัวเลขในสภาฯ ซึ่งเป็นคณิตศาสตร์ทางการเมือง ทุกคนเก่งคณิตศาสตร์หมด ไม่มีอะไรเกินกว่าจะสามารถแก้ได้ ขอบอกเลยว่าไม่ตัน สำหรับการที่เอาพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้เกิดทางตันหรือไม่นั้น ตนไม่ได้ขอให้ออก เพียงแค่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นรัฐบาลที่ต้องมีผลงาน เนื่องจากชอบสู้ด้วยนโยบาย เพราะแถลงไปแล้ว ต้องเป็นไปตามที่แถลง และต้องพยายามที่จะผลักดัน แต่ก็ไปติดที่กระทรวงมหาดไทย ที่นโยบายหลายเรื่อง ทั้งยาเสพติดและการแก้ไขปัญหาความยากจน เรื่องหนี้ โอท็อป สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องอาศัยกลไกของกระทรวงมหาดไทยทั้งนั้น เเม้กระทั่งเรื่องสร้างบ้านให้คนไทยที่ต้องทำสัญญา 99 ปีก็ต้องผ่านกระทรวงมหาดไทย

”พูดให้ชัดเจน พรรคเพื่อไทยบอกว่าขอมหาดไทยคืน แต่เขาไม่ตกลง เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะออกหรือไม่ ซึ่งนายกฯ ก็มาเล่าให้ผมฟังว่า ยังอยากให้เขาอยู่ตรงนี้ อยู่ทำด้วยกัน เมื่อมีเหตุฮุนเซน ก็ได้จังหวะเตะลูกพร้อม ส่วนที่เขาจะมีการคอนเน็กกันหรือไม่นั้น ผมไม่กล้าไปปรักปรำใคร มันอาจจะบังเอิญ แต่ย้ำว่าการแก้ไขทางตันนั้น ไม่มีปัญหาอะไร ต้องแก้ไปด้วยคณิตศาสตร์ทางการเมือง แต่ขอยืนยันเสถียรภาพของรัฐบาล ยังไม่ใช่ทางตัน” นายทักษิณ กล่าว

ส่วนที่พรรคภท. ที่ออกไปเป็นฝ่ายค้านแล้วขย่มรัฐบาล ร่วมกับกลไกของ สว. จนทำให้นายกฯ ต้องพักการปฏิบัติหน้าที่นั้น ตนจะเล่าให้ฟัง เรื่องการฮั้วสว. ซึ่งสว.โดนกล่าวหาว่ามีการฮั้ว ซึ่งตนมองว่าพูดเพราะไป ต้องใช้คำว่าโกงเลือกตั้ง เรื่องนี้จริยธรรมคนร้องไม่มีแล้ว แล้วจะมาร้องจริยธรรมทำไม เป็นเรื่องที่จะทำอย่างไรให้รัฐบาลล่มให้ทันกรกฎาคม มันกลายเป็นว่า Zero-Sum Game แล้วเป็น Race Against Time ตนถามเรื่องสว. ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเอาอย่างไร ทุกคนบอกไม่มีใครยุ่ง แต่ตนเห็นมีรายงานการสืบสวนที่เขาเล่าให้ตนฟัง ว่ามีเตรียมการณ์ ตั้งแต่เลือกตั้งสส. ตนก็ตกใจว่าวิสัยทัศน์เขาดีม ที่สส.เลือกตั้งก่อน แล้วใครคุมสส. 15 คนจะได้โควตา สว.หนึ่งคน

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องเสียงในสภาฯ ที่ปริ่มน้ำจะต้องทำอย่างไรนั้น เราต้องบริหารและเพิ่มคนไป เดี๋ยวก็ต้องร้องเพลง ”ฉันเปล่านะ เขามาเอง” ก็ไม่มีปัญหาอะไร พวกเราเป็นเบิร์ด เพราะรักทุกคน ปัญหาเขามีไว้ให้แก้ เขาไม่ได้มีไว้ให้แบก ซึ่งตนมองปัญหาเป็นความท้าทาย ถ้าคิดว่าเป็นปัญหา ก็จะเครียดตาย ไม่ต้องนอน เราอยู่ในโลกที่มีกติกาก็ต้องเคารพกติกา แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญบอกให้พักปฎิบัติหน้าที่ เราก็พัก แต่คนมีหน้าที่ก็ทำไป ย้ำว่าเป็นเรื่องที่เราต้องทำตามกติกา ถ้าเราไม่เคารพกติกาไปบิดเบี้ยวกติกา ก็อยู่ด้วยกันยาก ส่วนถ้าคนชกนอกกติกา ตนก็จะกระทืบเท้าเขา จะกระทืบตัวเองทำไม อย่างไรก็ตาม สมัยนี้นิติสงครามไม่เหมือนเดิม ไม่แรงกว่าเดิม เพราะสมัยก่อนมีระบบคอมแมนคอนโทรล ระบบยังมีกติกาของมันอยู่ แม้จะหยุมหยิม แต่มีหลักเกณฑ์กว่าสมัยก่อน ส่วนที่องค์กรอิสระไม่กี่คนมาตัดสิน จริงๆ แล้วก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้ แต่เมื่อเราเข้ามาแล้วมีกติกาเช่นนี้ ก็ต้องเดินไปก่อน ตนโดนจนชินแล้ว เป็นเรื่องที่เราต้องสู้ไป แก้ไขไป อะไรแก้ได้ก็แก้ อะไรแก้ไม่ได้ก็ต้องอยู่ในกติกานั้น

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนมองว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อลดกระแสมากกว่า ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการตัดสิน ส่วนวิตกกังวลหรือไม่ว่าน.ส.แพทองธารจะพ้นจากหน้าที่นายกรัฐมนตรี แล้วทำให้เกมการเมืองถึงขั้นยุบสภาฯ นั้น ตนมั่นใจตามข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงและมั่นใจความบริสุทธิ์ใจของลูกสาว เชื่อว่าศาลน่าจะรับฟังด้วยเหตุและผลว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เราสามารถอธิบายได้หมด ส่วนพรรคที่ออกไป เพราะคิดว่าน.ส.แพทองธารจะไม่รอดนั้น ตนไม่ทราบและไม่ทราบว่าใครไปทำอะไรเขาหรือไม่ ส่วนหากเขาจะไปสุมหัวตั้งรัฐบาลกันนั้น ตนต้องบอกว่าจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด ตนเดาอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่อยากให้เขาออก แต่เขาอยากออกและเขาตัดสินใจแล้ว ก็อย่าไปเสียใจกับมัน เราไม่สามารถควบคุมได้ เพราะเราชวนเขาแล้ว เขาไม่เอา เมื่อเขาไม่เอาก็ช่วยไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร เราก็ต้องอยู่ให้ได้ เพราะแลกกระทรวงอื่นแล้ว เขาก็ไม่เอา เขาจะเอากระทรวงมหาดไทยกับคมนาคม ส่วนเหตุผลที่ไม่ให้นั้นเพราะเรารู้อดีตเขา

สำหรับกรณีที่หากย้อนกลับไปแล้วผิดหวังกับพรรค ภท. โดยรอบแรกปี 2551 ที่พรรค ภท. ไปตั้งพรรคของตัวเองแล้วไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อีกขั้วหนึ่ง ส่วนรอบนี้ก็ผิดหวังอีกนั้น นายทักษิณ บอกว่า ต้องเข้าใจว่าการเมืองบ้านเรามีกฎไว้เลี่ยง ตนกลับมาลืมอดีตหมดแล้ว พยายามจะเริ่มต้นใหม่ ส่วนจะมีรอบที่สามกับ ภท.หรือไม่นั้น การเมืองบ้านเราวันนี้ เป็นการออกแบบการเมืองที่แย่ที่สุด ตั้งแต่ทหารปฏิวัติมา เวลาเขาเขียนรัฐธรรมนูญ เขาเห็นหน้าตนอยู่ กันตนในทุกรูปแบบ กันจนผลสุดท้ายบ้านเมืองมีปัญหา การเมืองแบบหัวแตก มีพรรคเล็กพรรคน้อยเยอะแยะ ทำงานยาก อย่างไรก็ตาม การเมืองไทยไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร เมื่อการเมืองถูกออกแบบมาเช่นนี้ เราก็ไม่สามารถที่จะบอกว่าจะอยู่คนเดียวในรัฐบาลนี้ได้ สูตรคณิตศาสตร์ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้น ก็ต้องกลืนเลือด ซัก 3-4 ปี๊ป

เมื่อพิธีกรถามว่า เพราะอะไรที่เห็นในทีวีแล้วหมั่นไส้นั้น ตนก็ยังคงงงอยู่ ส่วน น.ส.แพทองธาร จะเคยถามหรือไม่ว่าไปทำอะไรให้คนกลุ่มนั้น ถึงมาเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน นายทักษิณ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ผมก็กวาดน้ำ อย่าไปคิดอะไรมาก”

ส่วนในฐานะที่คลุกคลีกับการเมืองมา 51 ปี โอกาสที่พรรคเพื่อไทย (พท.) จะไปผสมกับพรรคประชาชน (ปชน.) เป็นไปได้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “วันนี้ยังไม่มีความจำ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นศัตรูกับพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่การจะทำงานกับใคร เราต้องมั่นใจว่าไปด้วยกันได้ และไม่ขัดนโยบายหลักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสถาบัน เรื่องเจ้านาย เพราะตนได้รับพระเมตตาสูงสุด ดังนั้น ตนจะไม่มีทางไปทำงานกับใครที่กระทบกระเทือนกับสถาบัน ส่วนหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมา พรรคปชน.ไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นมาตรา 112 เลย จะสามารถร่วมมือกันได้หรือไม่นั้น ตนไม่รู้ เพราะไม่ได้คุยกันเลย

สำหรับสีน้ำเงินกับสีส้มมีโอกาสจับมือกันได้หรือไม่ ตนมองว่าหากจะจับ ก็จับหลวมๆ เพราะเป็นปลาคนละน้ำ และหากจะถามว่าน้ำของแดงกับส้มใกล้เคียงกว่ากันนั้นหรือไม่ หากพูดความจริงก็เป็นพรรคที่เกิดจากนโยบายหาเสียงที่มาสไตล์เดียวกัน ถ้าเห็นพรรคไทยรักไทยเป็นอย่างไร พรรคส้มก็คล้ายๆ กัน ขณะที่ส้มกับน้ำเงินถือเป็นปลาคนละน้ำกัน แต่แดงกับส้มจะถือปลาน้ำกันไม่ ตนมองว่าเป็นวงสีธรรมชาติ สีส้มเกิดจากสีแดงรวมกับสีเหลือง ถ้าแดงแยกไปผสมกับน้ำเงินจะเป็นสีม่วง และสีเหลืองผสมสีน้ำเงินเป็นสีเขียว ถ้าสีม่วงกับสีเหลืองไปผสมกันจะเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง สีไม่สวย ส่วนสีแดงผสมกับสีส้มจะเป็นสีแสด ซึ่งสีแสดมันแรงไป ซึ่งที่ตนบอกว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะจับมือกับสีส้มนั้น เนื่องจากตนมองว่าพรรคแกนนำรัฐบาลยังมีความสามัคคีกันและสามารถทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าต้องคุมในสภามาให้โดสภาแค่นั้นเอง ไม่ให้โดดกฎหมายสำคัญ

ส่วนกลไกการเมืองในปัจจุบันถือเป็นอุปสรรคต่อรัฐบาลในปัจจุบันหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ปัญหามีไว้ให้แก้ เมื่อมีอุปสรรคก็ต้องแก้ไป หากถามว่าถึงทางตันหรือไม่ ก็ไม่ตัน ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ากลไกบริบทปัจจุบันทำให้นายกรัฐมนตรีไปสู่การติดกับดัก และรักษาการณ์นายกฯ ต้องประคองต่อ หรือหากไม่ลาออกก็ต้องยุบสภา รัฐบาลจะอายุสั้นนั้น ขณะนี้มีหลายทางเลือกคือ 1. ถ้าน.ส.แพทองธารรอด ก็สามารถกลับมาทำงานต่อได้เต็มที่และทำยาว หรือ 2.หากไม่รอดก็มี 2 ทางเลือกเช่นกันคือ เสนอนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ อีกคนของพรรค พท. ซึ่งขณะนี้นายชัยเกษมยังฟิตและตีกอล์ฟได้สบายมาก หรืออีกทางคือยุบสภาฯ

ส่วนที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ กับน.ส.แพทองธาร ต้องมาติดกับดักจริยธรรมของศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายชัยเกษมที่เป็นกลไกที่สามของ พรรค พท. จะเป็นทางรอดของประเทศหรือไม่นั้น ตนยังอยู่ เอาออกไม่ได้ ยังคงเป็นสทร.เหมือนเดิม ตนไม่ยอม อายุ 76 ปีแล้วแต่ยังหนุ่มอยู่ ขอให้บ้านเมืองรอด เอาเรื่องบ้านเมืองเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้กังวลเรื่องคดีมาตรา 112 เราไม่มีอะไรเลย ซึ่งถ้าเป็นภาวะปกติคงไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา แต่นี่เป็นภาวะพิเศษ

พิธีกรถามว่า กลไกบริบททางการเมืองที่ในปัจจุบันทั้งกลไกเรื่องฝ่ายค้าน กลไกนิติสงครามทางข้อกฎหมาย กลไกองค์การอิสระ มองว่ามีกลไกอะไรที่จะมีอำนาจเหนือกว่าสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ที่จะทำให้การทำงานของรัฐบาลเดินต่อไม่ค่อยได้ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความหยุมหยิมของระบบ ซึ่งต้องแก้ระบบการเมืองที่วางไว้ องค์กรอิสระที่อนุญาตให้ใครมาร้องก็ได้ ซึ่งอาจจะส่งเสริมอาชีพนักร้อง ของบางคน และขออย่ามากลัวตนที่กลับมาแล้วมาเป็น สทร. หมูเรียกตนว่าพี่ ใครเจอตนจะรู้ว่าตนหมูจะตาย ไม่เคยฆ่าใครมีแต่ช่วยคน สำหรับที่มีคนบอกว่าสายสีน้ำเงินเขาไม่กลัวลูก แต่กลัวพ่อนั้น ตนชัดเจนจะตาย ถ้าชัดเจนแบบที่ตนบอกก็จบไปแล้ว

ส่วนมีการพูดคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภท. หรือไม่นั้น ตนไม่ได้คุยเลย เพราะเขาไม่คุยกับตน พรรคที่ร่วมรัฐบาลแล้วแปลสภาพมาเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งตนมองว่าน่าจะเป็นฝ่ายแค้นมากกว่าฝ่ายค้าน ทั้งนี้ เรื่องการทำงานของกระทรวงมหาดไทยที่เข้าไปดูแลกรมที่ดิน ประเมินเรื่องเขากระโดงอย่างไรนั้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกาและกฎหมาย สำหรับที่ดินอัลไพน์ที่ถูกสั่งให้ถอน เราก็ต้องว่ากันไปตามกติกา มีสิทธิ์ก็รักษาสิทธิ์ ใครนั่งทับสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ต้องโดนมาตรา 157 และเดี๋ยวอีกไม่นานคงมีคนมาร้อง มท.1 ใหม่ ซึ่งตอนนี้ก็มาแล้ว

พิธีกรถามถึง การทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ที่เริ่มมีการโยกย้ายทันที มองว่ามาถูกทางหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ต้องเห็นใจ เขามาจากกระทรวงกลาโหม มาจุดนี้ต้องเด็ดขาด และมองว่ากลไกของกระทรวงมหาดไทยเริ่มทำงานแล้ว ตนได้ข่าวว่ารัฐมนตรีบอกว่าจะดุเอง ไม่ต้องมาต้อนรับ หากผู้ว่าราชการจังหวัดไหนไม่ทำงานก็จะโดน ส่วนในแง่การทำงานระหว่างที่ น.ส.แพทองธารถูกพักการทำหน้าที่ จะสร้างความมั่นใจได้อย่างไรว่ารัฐบาลยังไม่ถึงจุดอับ นายทักษิณกล่าวว่า “พ่อนายกฯ อยู่นี่ อย่างไรก็ดูแลบ้านเมืองเต็มที่ มีอะไรก็บอกให้รัฐมนตรีช่วยกันทำ เชื่อว่าไม่มีสูญญากาศ ส่วนที่บอกว่าข้าราชการจะเกียร์ว่างนั้น ไม่ต้องว่าง ไม่ต้องรอสถานการณ์การเมือง และขออย่าไปคิดว่าสายน้ำจะไหลกลับ” ทั้งนี้ ยอมรับว่า ระบบราชการเปลี่ยนไปหลังเกิดการรัฐประหาร ข้าราชการบางคนบอกว่าจะกลับมา แต่ตนขอบอกว่าวสายน้ำไม่เคยไหลกลับ ถ้าจะรีเทิร์นต้องรอเลือกตั้งสมัยหน้า ส่วนที่คะแนนนิยมที่ลดลง มองว่าน่าห่วงหรือไม่ ตนมองว่า การเมืองเป็นกระแส ต้องดูว่าอยู่ในภาวะการณ์ไหน หากโดนรุมเช่นนี้ แล้วเป็นทางโซเชียลมีเดีย ซอมบี้ทั้งหลาย ก็จะมีการปั่นกันโกรธกัน แต่สักพักจะก็หยุด

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ส่วนจะขับเคลื่อนโครงการใหญ่ได้อย่างไร ในช่วงที่การเมืองไม่มีเสถียรภาพเช่นนี้ อะไรที่เคลื่อนได้ก็ต้องเคลื่อน อะไรที่เป็นรูทีนก็ต้องขับเคลื่อน ทั้งเรื่องยาเสพติด การแก้หนี้ การเพิ่มรายได้ให้ประชาชน ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องโครงการใหญ่ๆ ที่อยู่ในแนวทางก็ต้องทำ สำหรับเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ วันนี้ถอนออกมาแล้ว เพราะไม่อยากให้สับสน ซึ่งช่วงนี้ต้องเรียงลำดับความสำคัญก่อน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ฉิบหายเพราะ ‘กาสิโน’

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตกหลุมพรางจนได้

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถลุง 55 ล้าน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฉบับวันที่ 10 กรกฎาคม 2568

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม