อิสรภาพใกล้เข้ามา?
ไม่รู้เก็บเงินได้เท่าไหร่?
แต่เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา บริษัท แบล็ค ดรากอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด
ได้เปิดรอบฉายหนังการกุศลเรื่อง “นากรักมากม๊ากมาก” ทั่วประเทศ ที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, เอสเอฟ ซีเนม่า และอีกหลายเครือ
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชา
โดยรายได้ทั้งหมดจากการจัดฉาย (2 วัน) จะมอบให้แก่โรงพยาบาลและประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ครับ..ได้ยินมาก็ให้ชื่นใจ และอยากบอกรัฐบาลว่า ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องขอความร่วมมือใดๆ เพราะประชาชน-คนไทยมีสำนึก “รู้รักสามัคคี” กันดีอยู่แล้ว..
ยิ่งในยามศึกสงครามเช่นนี้ มีอะไรที่พอจะช่วยเหลือ สนับสนุนทั้งทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทุกคน-ทุกฝ่ายก็พร้อมและยินดี ไม่มีสี-ไม่มีการเมือง!
ส่วนของแนวหน้า-ทหารรั้วของชาติ ก็จัดกันไปตามยุทธวิธีการรบ-สู้ ซึ่ง “แนวหลัง” อย่างเราไม่รู้หรอกการสู้รบนั้นจะจบลงเมื่อไหร่?
ตอนนี้ก็เหมือนนั่งดูหนังสงครามเรื่องหนึ่ง ที่มีทั้งความระทึกตื่นเต้นเร้าใจไปพร้อมกับความหดหู่ เศร้าสะเทือนอารมณ์ ซึ่งหนังกับความจริงก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกัน
จะมีต่างก็แต่ หนังมีตัว “พระเอก” ที่ต้องเป็นคนกล้าบ้าบิ่น เก่ง ฉลาด ที่สำคัญถ้าโดนยิงก็แค่ถากๆ อย่างมากก็โดนหัวไหล่งี้ โดนต้นขางี้ แต่ของจริงพระเอกไม่มี..
ทุกคนสามารถโดนปลิดชีพได้ทุกลมหายใจเข้า-ออกเหมือนๆ กัน!
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์สงครามไทย-เขมรที่สู้รบกันจริงอยู่ ณ ขณะนี้ ก็มีคน (เสือก) พยายามที่จะทำตัวเป็นพระเอก แต่ด้วยเป็นคนที่ไร้เกียรติ ไร้ราคาในสายตาคนไทยไปหมดสิ้นแล้ว
การกระทำ คำพูดคำจาใดๆ ก็หามีคนสนใจ-ใส่ใจไม่ แถมยังจะถูกตะโกนไล่ส่งในทุกแห่งหนที่เหยียบย่ำ!
และเหตุที่พยายามจะเป็น “พระเอก” นั้น คนทั้งประเทศต่างก็รู้แจ้ง ยิ่งกล่าววาจา “อยากให้ทหารทำหน้าที่เพื่อสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุน เซน ก่อน” ด้วยแล้ว..
ยิ่งตอกย้ำ ถึงความเคียดแค้นส่วนตัว ที่ลูกสาวถูกประจานความลับ..แม่ทัพภาค 2 ไม่ใช่ฝ่ายเรา!
ก็..พยายามทำตัวเป็นพระเอกในฉากสงครามนี้ต่อไปเถอะนะ เพราะก็เข้าใจแหละว่าอีกไม่กี่เพลาข้างหน้า ไม่รู้ว่าจะยังมีโอกาสอยู่อีกหรือไม่?
นี่..หนังไทยยุคยิงภูเขา เผากระท่อม ย้อมหน้า ปาระเบิดน่ะ ส่วนใหญ่จะขึ้นต้นด้วยพระเอกเป็นผู้ร้าย แต่ลงท้ายตอนจบ จะเป็น “นายอำเภอ” เป็นพลเมืองดีให้คนดูปรบมือ!
แต่กับชีวิตจริงของคนคนนี้ นอกจากจะปลอมเป็นพระเอกไม่ได้แล้ว ลงท้าย ก็ (อาจ) เป็น “ผู้ร้าย” ต้องติดคุก-หนีโทษอีกก็ได้..เอาไว้คอยดูเหอะ!
อ้อ..ส่วนนั่นก็จะคอยดู เพราะจากที่เห็นคุณกานต์ วิภากร ภรรยาคุณเสก โลโซ ร็อกเกอร์คนดังที่อยู่หลังกำแพง
โพสต์ภาพร่วมกับคุณปรัชญา ปิ่นแก้ว และคุณอ๊อด บัณฑิต ทองดี 2 ผู้กำกับระดับแถวหน้าของวงการ พร้อมข้อความ….
“เมื่อวานได้มีโอกาสนั่งทานข้าวกันกับพี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว และพี่อ๊อด บัณฑิต ทองดี (คุณภาพคับแก้วอยู่แล้วไม่ต้องพูดถึง) เคยมีคนหลายคนที่มาขอทำหนังเรื่องพวกเราและพ็อกเกตบุ๊ก
แต่ความเชื่อได้ไม่ได้แค่ไหนเราไม่รู้ ถ้าเราไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่เชื่อ 99% กังวล 1% เราไม่เสี่ยงเพราะมันไม่ใช่คอนเสิร์ตหรือคอนเสิร์ตใหญ่ที่ทำได้หลายครั้ง
แต่มันเป็นหนัง ที่จะทำแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เพราะมันเป็นเรื่องชีวิตจริง มันจึงต้องเฟ้นหาคนที่เหมาะสมและพิถีพิถันสนใจจริงๆ และเนื้อเรื่องยอมรับเลยว่าทุกรสชาติ ตัวเราเองยังอยากดูเลย
เมื่อวานโอกาสดี พี่ๆ ทั้งสองได้นัดมา ก็เลยมาเริ่มคุยโปรเจกต์นี้กัน ก็คิดว่าการทำงานโปรเจกต์ใหญ่ชิ้นนี้น่าจะไปด้วยดีแน่นอน
แล้วพบกันบนจอภาพยนตร์ Coming soon” ..ใจก็พลันระทึก..
สงสัย..อิสรภาพใกล้เข้ามาแล้ว!.
สันต์ สะตอแมน