ทนายวิญญัติ เผย ‘ทักษิณ’ ไม่เครียดสู้คดี 112 ขึ้นซักถามด้วยตัวเอง
สืบพยานคดี 112 "ทักษิณ" วันแรกราบรื่น ทนายยันเจ้าตัวไม่เครียด ไม่หนักใจ คดีหลังจากเห็นหลักฐาน ปัดตอบคดีสั่งนายกหยุดปฏิบัติหน้าที่ สืบพยานนัดสุดท้าย 23 ก.ค.ก่อนชี้ชะตา
1 กรกฎาคม 2568 - ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 902 ภายหลังศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกคดีดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1860/2566 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณจำเลย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีต่างประเทศประเทศเกาหลีใต้พาดพิง ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวในวันนี้นายทักษิณ เดินทางเข้ามาฟังการพิจารณาสืบพยานด้วยตนเอง โดยใช้รถเบนซ์สีบรอนซ์ทองทะเบียน ธ.ษ.267 และเจ้าตัวได้หลบสื่อขึ้นทางด้านข้างของศาลอาญาโดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
จนกระทั่งเมื่อเวลา 16.10 น. หลังจากการสืบพยานเสร็จสิ้น นายทักษิณได้เดินทางออกจากศาลโดยใช้รถเบนซ์คันเดิมโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด
ต่อมานายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของนายทักษิณว่า ตนไม่ได้รู้สึกว่านายทักษิณดูเหนื่อยหรือมีความเครียดเลย เพราะเป็นเรื่องปกติที่คนที่เข้าไปยังห้องพิจารณาคดีไม่มีความสุขอย่างแน่นอน เจ้าตัวอาจจะมีความเหนื่อยล้าหรือง่วงนอนจากการที่ต้องอยู่ภายในนั้นทั้งวัน
ความจริงในห้องพิจารณาคดีวันนี้นายทักษิณเป็นผู้ขึ้นถามความด้วยตนเองด้วย ซึ่งหลังจากที่ทนายทำหน้าที่แล้วนายทักษิณก็มีคำถามที่ขอถามพยานฝ่ายโจทก์เอง และการสืบพยานในวันนี้ถือว่าราบรื่นและเป็นไปได้ด้วยดี และเนื่องจากศาลออกข้อกำหนดเป็นการลับ ตนจึงไม่สามารถพูดถึงการพิจารณาได้ว่าการสืบพยานในวันนี้เป็นไปอย่างไรและสืบพยานใครบ้าง
เมื่อถามว่าวันนี้สืบพยานไปกี่ปาก นายวิญญัติ กล่าวว่า วันนี้สืบพยานทั้งหมด 3 ปาก และวันพรุ่งนี้เข้าใจว่าจะทำการสืบพยาน 4 ปากทั้งวัน และวันสุดท้าย 3 ปาก
ส่วนที่สืบ 3 ปากในวันนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งหลังจากนี้นายทักษิณจะเดินทางมาขึ้นศาลจนกว่าจะจบกระบวนการพิจารณาในคดี ซึ่งมีกำหนดนัด คือ สืบพยานฝ่ายโจทก์ 3 วัน และสืบจำเลย 4 วัน
ในส่วนที่นายทักษิณจะให้สัมภาษณ์กับสื่อหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะเข้าใจว่าในส่วนที่นายทักษิณมาศาลเพราะต้องการทำหน้าที่ตามกระบวนการ ส่วนการคุยกับสื่อมวลชนหรือไม่นั้นเจ้าตัวไม่ได้คิดว่าจะต้องพูดคุยหรือไม่ เพราะบรรยากาศแบบนี้เป็นเรื่องของกระบวนการพิจารณา
เมื่อถามว่ากรณีที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีถูกศาลรัฐธรรมนูญออกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายทักษิณทราบหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนไม่ได้คุยเรื่องนี้แต่เชื่อว่านายทักษิณทราบเรื่องนี้แล้ว
ถามอีกว่าในการสืบพยานวันนี้ทักษิณเครียดหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า เรื่องเครียดตนยืนยันว่านายทักษิณไม่มีความเครียดอย่างแน่นอน
ในส่วนที่ถามว่ามั่นใจว่าจะชนะคดีหรือไม่ ตนมองว่าขอให้สืบพยานให้เสร็จก่อน และถึงสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นก็ยังไม่กล้าบอกว่าจะชนะคดีแน่นอน เพราะเป็นดุลพินิจของศาลที่จะชั่งน้ำหนักของพยานหลักฐาน และดูว่าหลักฐานที่โจทก์นำมาฟ้องเพียงพอหรือเชื่อได้หรือไม่ว่าจำเลยกระทำความผิด ซึ่งนายทักษิณไม่หนักใจตั้งแต่แรก แต่เป็นผู้ที่ถูกกระทำ และคดีไม่สมควรที่จะฟ้องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และในวันพรุ่งนี้นายทักษิณจะเดินทางเข้ามาฟังการสืบพยานโจทก์วันที่ 2 ในเวลา 09.00 น.
ถามต่อว่าทำไมกระบวนพิจารณาถึงเป็นการพิจารณาลับ และออกข้อกำหนดห้ามสัมภาษณ์ไว้ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนยังไม่สามารถพูดได้ เพราะเกี่ยวกับกระบวนพิจารณาซึ่งศาลห้ามไว้ แต่คำสั่งดังกล่าวมีเหตุผลอยู่แล้วซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อหาที่กระทบสถาบัน
ถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองกับคดีความ ทนายมีความกังวลหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะทนายความก็ทำหน้าที่ไป ส่วนเรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องของกระบวนการทางการเมือง เรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ของตนก็ต้องแยกแยะ และตนไม่มีความกังวลในคดีนี้ที่ตนต้องรับผิดชอบตั้งแต่แรกอยู่แล้ว การทำหน้าที่ในวันนี้มีโอกาสที่จะต่อสู้คดีได้ดีขึ้นเนื่องจากเห็นหลักฐานต่าง ๆ ในสำนวน หลังจากก่อนหน้านี้เห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง วันนี้ได้เห็นหลายอย่าง จึงไม่หนักใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการสืบพยานในวันนี้ น.ส.คดีพินทองทา ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ซึ่งเดินทางมาเป็นเพื่อนนายทักษิณ พอทราบข่าวศาลรัฐธรรมนูญหยุดปฎิบัติหน้าที่ซึ่งเป็นช่วงพักการพิจารณาก็เดินทางออกตากศาลอาญาไม่ได้กลับเข้ามาฟังคดีในช่วงบ่าย
สำหรับการสืบพยานโจทก์ศาลได้กำหนดวันนัดไว้ 3 วัน คือวันที่ 1-3ก.ค. ในส่วนพยานจำเลย กำหนดสืบพยานไว้4 วันคือวันที่ 15-16 ก.ค.เเละวันที่ 22-23 ก.ค. โดยภายหลังสืบพยานจำเลยนัดสุดท้ายเสร็จวันที่ 23 ก.ค.2568 ศาลก็จะกำหนดนัดฟังคำพิพากษาต่อไป