“ชนินทร์”แนะรัฐตั้งกองทุนทำ R&D พาสินค้า “เกษตร-อาหาร” โต 4 ล้านล้าน
นายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ รองประธานหอการค้าไทย กล่าวในงาน ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก Unlocking Thailand Future จัดโดย MCOT ว่า เรื่องภาษีทรัมป์ มองอีกมิติ คิดว่าเรทที่ประเทศในอาเซียนจะได้รับคิดว่าจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20% บวกลบ การทำงานของทีมไทยแลนด์มีข้อเสนอต่างๆมีเหตุผลและปฎิบัติได้และดี เชื่อว่า ทรัมป์ เป็นนักธุรกิจมืออาชีพ สงครามการค้า ที่เกิดขึ้นเพราะต้องการให้เราซื้อสินค้าของสหรัฐมากขึ้น ซึ่งจากการคาดการ์ค่าเฉลี่ยที่จะเก็บกับประเทศในอาเซียนอยู่ที่ 20 % บวกลบ คิดว่าไทยไม่เสียเปรียบ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหาร ซึ่งเมื่อช่วงเกิดวิฤกติโควิเด 19 ระบาด ไทยสามารถส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารได้ 1 ล้านล้านบาท แต่ตัวเลขปีนี้คาดสามารถโตได้ถึง 2 ล้านล้านบาท โตได้ 2 เท่า จึงอยากให้รัฐบาลตั้งเป้าโตอีก ใน 5 ปี ซึ่งตัวเลขอาจขยับไปถึง 3 ล้านล้านบาทได้
“หากต้องนำเข้าวัตถุดิบของอเมริกาเข้ามาไทยมากขึ้น มองว่าเป็ยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ แต่ ไทยก็ต้องปกป้องผู้ประกอบการไทยด้วย หากเอาต้นทุนวัถตุดิบที่สูงมาบาลานซ์เฉลี่ยกับวัตถุดิบที่ถูก สามารถทำได้ ก็จะไม่กระทบ จะสามารถวางเป้าหมายเติบโตได้ และสิ่งที่จะได้เพิ่ม คือ การขจัดปัญหาการสวมสิทธิ ที่ไทยไม่ได้ประโยชน์ ซึ่งทาง หอการค้า ได้ทำงานกับรัฐบาล ทีมไทยแลนด์ และทุกภาคส่วน ควรจะมี โลคอลคอนทเนต์ ให้มากที่สุด เพื่อส่งเสริม เอสเอ็มอีไทย ซึ่งในแต่ละปีตัวเลขส่งออกของไทยมีจำนวนไม่น้อย ทำอย่างไร ให้คนไทยได้ประโยชน์ ขอให้คิดบวกไว้ ประไทยไทยยังไปได้แน่นอน”
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า อยากฝากรัฐบาลในเรื่อง สินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่ง 5 ปีก่อนมีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท อยากให้ตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 4 ล้านล้านบาทใน 7 ปี ข้างหน้า ทำได้แน่ โดยขอให้นำเงินที่ใช้เยียวยาภาคเกษตรกว่าแสนล้านบาทละปี มาตั้งเป็นเงินกองทุนประมาณ 30,000-50,000 ล้านบาทต่อปีเพื่อใช้ในการทำการวิจัยและพัฒนา( Research and Development) คิดนวัตกรรมต่างๆ อย่างเช่นเรื่อง กุ้ง ซึ่งไทยเราเคยทำอยู่ประมาณ 5 แสนตัน แต่ตอนนี้เหลือ 250,000 ตันทั่วโลกเพราะปัญหาเรื่องโรค ซึ่งได้คุยกับทางสมาคมฯและ กรมประมงในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา ของบประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขเรื่องโรคกุ้ง ถ้าเราแก้ไขตัวเลขก็จะกลับไป 5 แสนตันได้ เพราะความต้องการของตลาดยังมี แต่ไทยต้องมี Research and Development เพราะเป็นรากฐานของการเติบโต
“ผมเป็นนายกสมาคมอาหารสัตว์เลี้ยงไทย อยู่ 10 ปีที่แล้วเราส่งออกธุรกิจว่า 3 พันล้าน 10 ปีผ่านมาเราเป็นอันดับ 2 ของโลก ไทยเราเป็นประเทศส่งออก อีก 7 ปีข้างหน้าประชากรของโลกจะมีประมาณ 8 พันล้าน ประชากรของสัตว์เลี้ยงอีก 2 พันล้าน แต่สัตว์เลี้ยงกินแพลงกว่าคน หากรัฐบาลมีเป้าหมาย คิดว่าทำได้แน่นอน เอกชนพร้อมสนับสนุน แต่ ต้องมีการปรับเปลี่ยนเรื่องนโยบายที่เป็นอุปสรรคของกระทรวงเกษตรฯด้วย ถ้าทำได้ภายใน 3 ปี การค้า การส่งออกจะโตได้แน่นอน” นายชนินทร์ กล่าว