‘ชุติพงศ์’ เผย คลิปเสียงหลุดกระทบความมั่นคงประเทศ จ่อเชิญนายกฯ ชี้แจง

‘ชุติพงศ์’ เผย คลิปเสียงหลุดกระทบความมั่นคงประเทศ จ่อเชิญนายกฯ ชี้แจง - ตรวจสอบแทรกแซงจากต่างชาติ - ‘พรรณิการ์’ แฉ ! สมเด็จฮุนเซน สั่งฆ่า นายลิม กิมยา ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา

วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน และกิจการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนางสาวพรรณิการ์ วานิช ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมเกี่ยวกับกรณีคลิปเสียงหลุด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ โดยแบ่งเป็น 2 ประเด็นหลัก ดังนี้:

1 .กรณีคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย กับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งเนื้อหาสัมพันธ์กับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

2 .กรณีคลิปเสียงบุคคลที่มีเสียงคล้ายสมเด็จฮุน เซน สั่งการบุคคลชื่อ "นายฮวด" ให้ติดตามจับกุมนายลิม กิมยา และอีกสองบุคคลคือ นายพร พันนา และนายสวน จำเริน ซึ่งลี้ภัยอยู่ในประเทศไทย

ในการประชุมวันนี้ คณะกรรมาธิการได้เชิญหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง อาทิ สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด รวมถึงผู้ที่ถูกกล่าวถึงในคลิปเสียง อาทิ นางสาวสิตานันท์ สระศักดิ์สิทธิ์ นายพร พันนา และนายสวน จำเริน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมได้ในครั้งนี้

นางสาวพรรณิการ์ เปิดเผยว่า ประเด็นสำคัญของการหารือคือคลิปเสียงที่ผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า เป็นเสียงของสมเด็จฮุน เซนจริง ซึ่งมีเนื้อหาระบุคำสั่งให้ ‘นายฮวด’ ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย เพื่อติดตามตัวนายลิม กิมยา แกนนำฝ่ายค้านกัมพูชาที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทย โดยในวันนี้ นายพร พันนา ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ปรากฏชื่อในคลิป ได้ให้ข้อมูลผ่านระบบ Zoom จากประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยนายสุวรรณจำเริญ ซึ่งลี้ภัยอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์

ทั้งนี้ นายพรพรรณยาให้การว่าเคยอาศัยอยู่ที่จังหวัดระยอง และเคยถูกทำร้ายร่างกายภายในหมู่บ้านฉาง โดยได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านฉาง แต่คดีไม่มีความคืบหน้า คณะกรรมาธิการจึงเตรียมติดตามเรื่องดังกล่าวต่อไป

ขณะที่นายสวน จำเริน ให้ข้อมูลว่า เคยถูกทำร้ายที่อพาร์ตเมนต์ย่านสน.ดินแดง ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยผู้ก่อเหตุพยายามใช้ปืนไฟฟ้าทำร้าย แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากมีคนอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ทำให้สามารถหลบหนีมาได้

ทั้งสองกรณีนี้สะท้อนถึงความพยายามไล่ล่าผู้ลี้ภัยจากต่างชาติในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อหาในคลิปเสียงที่ปรากฏ จนนำไปสู่ข้อสงสัยว่า อาจมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยหรือไม่

นายชุติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมาธิการตั้งข้อสังเกตว่า หากคลิปเสียงดังกล่าวเป็นของจริง ย่อมถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทยอย่างร้ายแรง และอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตราเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ รวมถึงความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร อันอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ จะเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมอีกครั้ง เพื่อสร้างความชัดเจนต่อประเด็นที่มีชื่อปรากฏอยู่ในคลิปเสียง พร้อมทั้งเพื่อวางแนวทางป้องกันความเสี่ยงต่อความมั่นคงในอนาคต

ในช่วงท้ายของการประชุม คณะกรรมาธิการยังได้ร้องขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ตรวจสอบข้อมูลการเข้า-ออกประเทศของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนตรวจสอบเหตุการณ์พยายามลอบสังหารนายลิม กิมยา ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการก่อเหตุในราชอาณาจักรโดยคำสั่งจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ มีกำหนดลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่จังหวัดสระแก้ว ระหว่างวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยจะมีผู้นำฝ่ายค้านร่วมลงพื้นที่ด้วย เพื่อประเมินสถานการณ์ความมั่นคงอย่างใกล้ชิด